วันจันทร์, พฤศจิกายน 27, 2549

เทศกาลหนังสามทวีป

สามสี่วันนี้ ผม รุ่นพี่ รุ่นน้องนักเรียนไทย ไปช่วยงานเทศกาลหนังสามทวีป เอเชีย อเมริกาใต้ แอฟริกา (Festival des 3 continents) ครั้งที่ ๒๘

เทศกาลนี้ จัดขึ้นทุกปีที่เมือง Nantes

เป็นเอก รัตนเรือง เคยได้รางวัลจากเรื่องฝัน บ้า คาราโอเกะ ถ้าจำไม่ผิด ตอนปี ๑๙๙๗

ปีนี้มีหนังไทยมาฉายหลายเรื่อง

สาขาหนังสารคดี มีเด็กโต๋ และเรื่องเล่าจากเมืองเหนือ (เข้าชิงด้วย)

นอกนั้นก็เอางานคลาสสิกมาฉาย อย่างเช่น แพรดำ, แผลเก่า, ลูกอีสาน, คนเลี้ยงช้าง, ด้วยเกล้า

รวมทั้งงานพิชิตรางวัลต่างประเทศ อย่าง สุดเสน่หา, ฝันบ้าคาราโอเกะ

งานนี้ ผมได้เจอ พี่นก นิสา คงศรี พี่ป๊อป อารียา และพี่ต๋อย อุรุพงษ์ รักษาสัตย์ ด้วย

ผมประทับใจและได้ประสบการณ์แปลกใหม่หลายอย่าง

เช่น ได้ทราบถึงความพยายามและตั้งใจจริงของพี่นก นิสา และพี่ป๊อป อารียา สองผู้กำกับจากเด็กโต๋ รวมทั้งความเป็นกันเองของทั้งคู่ที่มีให้พวกเราตลอดเวลา

ได้ชมหนังน่าประทับใจของคุณอุรุพงษ์พร้อมกับเจ้าตัว (ผมไม่กล้าออกไปแปลให้ เพราะไม่มั่นใจในภาษาแย่ๆของตัวเอง เลยให้รุ่นน้องผมไปช่วยเป็นล่ามแทนตอนตอบคำถามผู้ชม)

ได้เจอกับคนรุ่นหนุ่มฝรั่งเศสที่บ้าหนัง เป็นรองผู้อำนวยการจัดงาน (เขาบอกผมว่าชอบอภิชาติพงศ์ ผู้กำกับสุดเสน่หาและสัตว์ประหลาดมากๆ)

ได้ดูหนังฟรีตลอดเทศกาล

และ ได้กดซับไตเติ้ลฝรั่งเศสให้กับหนังฝัน บ้า คาราโอเกะ ของเป็นเอก ซึ่งเป็นคนที่ผมอยากเจอตัวจริง

งานจะสิ้นสุดวันอังคารนี้แล้ว

ไว้มีโอกาสจะทยอยเล่าให้ฟัง

วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 23, 2549

กระทู้ในประชาไท

มีกระทู้น่าสนใจมาฝาก

http://www.prachatai.com/05web/th/board/showboard.php?QID=42192&TID=5

หวังว่าอายุของกระทู้นี้คงอยู่ได้นานพอควร

วันเสาร์, พฤศจิกายน 18, 2549

Babel

เป็นธรรมดาของวันศุกร์ (สุข) แห่งชาติ

ผมต้องออกไปดูหนัง

ครั้งนี้เลือก Babel เห็นจากหนังตัวอย่างน่าสนใจดี

ดูแล้วชอบมาก แม้จะยาวเกือบสองชั่วโมงครึ่ง แต่ก็ไม่เบื่อเลย

ผมรู้ตัวดีว่าไม่มีฝีมือในการเขียนวิจารณ์หนัง คงต้องรออุปการะคุณให้คุณวิวัฒน์แห่ง Filmsicks ทำหน้าที่นี้แทน (ไม่แน่ใจว่าเครือเอพ็กซ์จะเอาหนังเรื่องนี้ฉายหรือไม่)

หนังเรื่องนี้ทำให้ Alejandro González Inárritu ผู้กำกับชาวเม็กซิโก ได้ปาล์มทองคำที่กานส์ ๒๐๐๖ ในฐานะผู้กำกับยอดเยี่ยม

เห็นผลงานจากเรื่องนี้แล้ว คงค้องไปตามหางานเก่าของเขาอย่าง Amores perros และ ๒๑ grammes มาดู

หนังเกี่ยวกับ ๔ สถานการณ์ที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันหมด โดยมูลเหตุจากปืนกระบอกเดียว ทำให้ต้องพบกับโศกนาฏกรรม

หนังนำ Babel ซึ่งเป็นชื่อหอคอยหนึ่งในคัมภีร์ไบเบิลมาตั้งเป็นชื่อหนึ่ง เป็นหอคอยหนึ่งที่มนุษย์ร่วมมือกันสร้างเพื่อให้เป็นทางไปสู่สวรรค์

นักแสดงเล่นได้ดีทุกคน โดยเฉพาะสาวญี่ปุ่น เห็นว่าเธอได้เสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ในฐานะดาราสบทบหญิงด้วย

ชาวโมร็อกโกทั้งหมดก็เล่นดี ไม่รู้ว่าเอาชาวบ้านมาแสดง หรือเป็นนักแสดงอาชีพ?

รายละเอียด หอคอย Babel เข้าไปดูได้ที่
http://en.wikipedia.org/wiki/Tower_of_Babel

ส่วนอันนี้ เข้าไปดูตัวอย่างหนังได้
http://www.paramountvantage.com/babel/

วันศุกร์, พฤศจิกายน 17, 2549

ศิโรตม์วิจารณ์ธีรยุทธ

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ผลิตบทความชิ้นใหม่ "ประชาธิปไตยไม่เท่ากับ...ความเป็นไทย+ตุลาการภิวัตน์+อำมาตยาภิวัฒน์"

โดนใจหลายๆคนมาก

ขอยกตัวอย่าง

"การเลือกตั้งจึงไม่ได้เป็นเพียง “ประชาธิปไตยโดยรูปแบบ” ที่ปราศจากแก่นสารอย่างที่ธีรยุทธว่าไว้ แต่การเลือกตั้งคือ “รูปแบบ” ที่เป็นบรรทัดฐานขั้นต่ำในการได้มาซึ่งประชาธิปไตยในระดับที่สูงกว่านั้น ถึงขั้นที่หากไม่มีการเลือกตั้ง ก็ไม่มีโอกาสที่ประชาชนจะแสดงเจตจำนงการเมืองอย่างเสรี (self-determinacy) และไม่มีทางที่จะมีประชาธิปไตย"

"ควรระบุด้วยว่าเพราะธีรยุทธคิดว่าแก่นสารของประชาธิปไตยอยู่ที่การได้มาซึ่งผู้ปกครองที่ดี ผู้ปกครองที่ดีจึงเป็นผู้ทรงสิทธิทางการเมืองสูงสุด ทำให้ชนชั้นนำมีอัตวินิจฉัยและทรงไว้ซึ่งสิทธิในการแทรกแซงและกำกับวาระทางการเมืองของสังคมอย่างไรก็ได้ ส่วนประชาชนนั้นก็ต้องปรับความเข้าใจเสียใหม่ว่าประชาธิปไตยหมายถึงการร่วมมือกับผู้ปกครองผู้ทรงศีลธรรม"

"คำถามคือสังคมไทยไปร่วมกันหาทางออกโดยสร้างประชาธิปไตยครึ่งใบตอนไหน? มีใครและคนกลุ่มไหนบ้างที่มีโอกาสร่วมหารือกันในประเด็นนี้? ระบบการเมืองนี้มีผลต่อการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างไร? เป็นไปได้หรือไม่ที่ทหารสร้างประชาธิปไตยครึ่งใบเพื่อจะเข้ามาแทรกแซงการเมือง? ประชาธิปไตยครึ่งใบสัมพันธ์อย่างไรกับสภาพที่ทหารเข้าไปดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจอย่างกว้างขวางในช่วงเวลาเดียวกัน?"

"ธีรยุทธพูดถึงการเมืองที่ยึด “ลักษณะเฉพาะตามประวัติศาสตร์วัฒนธรรมไทย” แต่ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมไทยฉบับธีรยุทธมีกองทัพเป็นศูนย์กลางของความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั้งหมด ประวัติศาสตร์เล่มนี้เขียนว่าพรรคการเมืองและรัฐสภาเป็น “ผู้ร้าย” ที่ทำให้ประชาธิปไตยเต็มใบเกิดขึ้นไม่ได้ ถึงขั้นที่แม้กองทัพจะยินยอมให้มีนายกฯ จากการเลือกตั้งในปี 2531 พฤติกรรมของพรรคการเมืองและรัฐสภาก็ไม่ดีขึ้น จนกองทัพไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องรัฐประหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดไป

แต่จริงหรือที่การรัฐประหารทุกครั้งเกิดขึ้นเพราะความเลวทรามของพรรคการเมือง ?"


"ขณะที่ธีรยุทธเขียนแนวทางการเมืองที่ยึด “ลักษณะเฉพาะตามประวัติศาสตร์วัฒนธรรมไทย” โดยผูกพรรคการเมืองไว้กับกลุ่มทุนและกลุ่มอุปถัมภ์ท้องถิ่นอย่างแน่นแฟ้น ในอีกด้าน ธีรยุทธกลับสร้างภาพให้ชนชั้นนำกลุ่มต่างๆ ปลอดจากการแสวงหาอำนาจทางการเมืองและส่วนเกินทางเศรษฐกิจ ชนชั้นนำใน “ลักษณะเฉพาะตามประวัติศาสตร์วัฒนธรรมไทย” จึงเป็นชนชั้นนำที่มีสถานภาพใกล้เคียงกับอริยะชนผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน ไม่มีผลประโยชน์ทางโลก แตกต่างจากพรรคการเมืองที่ละโมบและเป็นหุ่นเชิดของกลุ่มอิทธิพลที่ชั่วร้ายตลอดเวลา "

"ในทางทฤษฎีการเมืองแล้ว การเมืองภายใต้การกำกับของชนชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นอำมาตยาภิวัฒน์, ตุลาการภิวัฒน์ หรืออะไรก็ตามแต่ ล้วนมีแนวโน้มจะทำให้สังคมตกอยู่ในสภาพอย่างที่นักเทววิทยากล่าวไว้ตั้งแต่ ค.ศ.200 ว่า neque enim quia bonum est, idcirco auscultare debemus, sed quia deus praecipt หรือ “อะไรที่พระเจ้าว่าไว้ คนในสังคมย่อมมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม"

อ่านฉบับเต็ม เชิญที่เว็บประชาไท หรือ มติชนสุดสัปดาห์ ศุกร์ที่ ๑๗ พ.ย.

............

ผมเห็นว่าบทตวามของศิโรตม์ชิ้นนี้ วิจารณ์ธีรยุทธ และแนวร่วม "แก๊งค์บารมีทรงธรรมนิยม" ได้รัดกุมทีเดียว

วันเสาร์, พฤศจิกายน 11, 2549

Yue Liang Dai Biao Wo De Xin

วันนี้อากาศหนาว ประกอบกับพฤติกรรมการนอนที่ไม่เป็นเวลา ทำให้ผมนอนไม่หลับ

พอนอนไม่หลับ ก็ต้องหาเพื่อนรักอย่างอินเตอร์เนทและเพลง

มือเจ้ากรรมดันไปเลือกเอาเพลง Yue Liang Dai Biao Wo De Xin มาอีก

ฟังทีไรเศร้าทุกที

บรรยากาศกลางคืน มืดและหนาว ชวนให้เหงาเข้าไปใหญ่

จำได้ว่านี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่ผมเขียนถึง Yue Liang Dai Biao Wo De Xin

รวบรวมเพลงนี้ในหลายๆเวอร์ชั่นมาให้ฟังกัน

เติ้งลี่จวิน ต้นตำรับ
http://www.youtube.com/watch?v=yMc5h1oM0Lw&mode=related&search=

เลสลี่ จาง
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tempting-heart&group=20

เจอร์รี่ เอฟโฟร์
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tempting-heart&group=18

ใครไม่รู้
http://www.youtube.com/watch?v=zQ62fBMsaZ4&mode=related&search=

เดวิด เต๋า (ใครหว่า?)
http://www.youtube.com/watch?v=BT1NT4H6BwA

อเล็ค ซู (ใครหว่า?)
http://www.youtube.com/watch?v=-r6ZDDzPDBc

ไวโอลิน
http://www.youtube.com/watch?v=9veYGpET9ms

เปียโน
http://www.youtube.com/watch?v=NaCQFkwqA_c&mode=related&search=

ประสานเสียง
http://www.youtube.com/watch?v=spxECmEMDWA&mode=related&search=

ญี่ปุ่น
http://www.youtube.com/watch?v=0P4PVWJqN5g&mode=related&search=

วันศุกร์, พฤศจิกายน 03, 2549

ปรบมือให้

ดีใจและชื่นชมที่พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ "กล้า" ขอโทษพี่น้องชาวมุสลิม

นับเป็นผลงานแรกที่น่าปลาบปลื้ม

หวังว่า การขอโทษครั้งนี้จะเป็นนิมิตหมายอันดีในการแก้ไขปัญหาภาคใต้

ต้องไม่ลืมว่า ความขัดแย้ง ความอาฆาต เคียดแค้น อาจเริ่มต้นจากเรื่องเล็กๆ

เช่นกัน อาจแก้ไขได้ด้วยแค่เรายอมก้มหัวขอโทษ

วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 02, 2549

นวมทอง

ไว้อาลัยนวมทอง ไพรวัลย์

และ นี่คือ ข้อความสุดท้ายของนวมทอง ไพรวัลย์

เทิดทูนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รัฐทหารและรัฐตำรวจ (ต้องไม่มี)

สวัสดีครับท่านพี่น้องประชาชนที่เคารพ เหตุที่กระผมทำการพลีชีพเป็นครั้งที่ 2 โดยการทำลายตัวเองเพื่อมิให้เสียทรัพย์เหมือนครั้งแรกก็เพื่อลบคำสบประมาทของท่านรองโฆษก คปค.ที่ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์หลายฉบับว่า “ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้”

เหตุพลีชีพครั้งแรกของผมยอมรับว่าคำณวนความเร็วของรถแท็กซี่ผิดพลาด รถถังที่จอดลานพระบรมรูปทรงม้าติดด้านหัวถนราชดำเนินนอก เมื่อผมขับรถผ่านกองบัญชาการทัพบกพ้นหัวถนนและเกาะกลางถนนเพื่อพุ่งเข้าชนเพื่อหักเลี้ยวแบบตัว S ความเร็วจึงลดลงมากเพราะต้องการชนแบบประสานงา

ผมจึงแค่บาดเจ็บสาหัส ซี่โครงหัก 5 ซี่ ตาซ้ายบวมช้ำคางทะลุถึงภายในช่องปาก รักษาตัวโรงพยาบาลวชิรฯ มีคณะของคุณครูประทีป ฮาตะ และคณะอื่นๆ มาเยี่ยมหลายคณะและมีผู้สื่อข่าว นสพ. มาขอสัมภาษณ์ว่า ไม่พอใจหรือที่ปฏิรูปแล้วบ้านเมืองสงบสุข ไม่มีการนองเลือด ผมตอบไปว่าใครทำผิดกฎหมายและก่อความไม่สงบก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ที่ผ่านมามีเบื้องหลังเบื้องลึกมากมาย ตอนนี้ก็เปิดหน้ากากออกมาจนเกือบหมดแล้ว เป็นการตบหน้าประชาชนอย่างไม่อาย. แต่ไม่เห็นเป็นข่าวรวมทั้งข่าวของผมที่ชนรถถังเพื่อประท้วง คปค. ลงข่าว นสพ. วันเดียวเงียบหายไปเลย ผมรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิรฯ 13 วัน คุณหมออนุญาตให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านและนำ นสพ. ที่เสนอข่าวชนรถถังประท้วงคปค. ของผม พบคำสัมภาษณ์ท่านรองโฆษก ใน นสพ. ตรงกันหลายฉบับด้วยถ้อยคำที่กล่าวมาข้างต้นและยังปรามาสว่าผมแก่แล้ว คงทำด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ก็มีเวลาเอาสีมาพ่นข้อความรอบตัวรถยังคิดว่าอารมณ์ชั่ววูบ ไม่น่าให้ทำงานและกินเงินเดือนที่ได้มาจากภาษีของประชาชนเลย.

ความคิดผม เมื่อหายป่วยดีก็จะทำมาหากินขับรถ TAXI ไม่ก่อวีรกรรมอีกต่อไป แต่พบข้อความการให้สัมภาษณ์ นสพ. ของท่านรองโฆษก คปค. ในเชิงปรามาสดังกล่าวก็เลยต้องสนองตอบกันหน่อย เพราะนิสัยคนไทยฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ และเหตุผลที่ผมเลือกวันสุดท้ายของเดือนตุลาคมเป็นวันพลีชีพเพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่วิญญาณของวีรชนที่สถิตอยู่ที่อนุสรณ์สถานฯ ที่ผมทำการพลีชีพนี้ได้เรียกร้องกระทั่งได้มาซึ่งประชาธิปไตย และวิญญาณของผมก็จะสถิตอยู่กับเหล่าวีรชนแห่งนี้ตลอดไป และขอยืนยันว่าปฏิบัติการทั้งสองครั้งทำด้วยใจ ไม่มีใครจ้าง

สุดท้ายขอให้ลูกๆ และภรรยาจงภูมิใจในตัวพ่อ ไม่ต้องเสียใจ ชาติหน้าเกิดมาคงไม่พบเจอการปฏิวัติอีก

ลาก่อน พบกันชาติหน้า
ปล. ขอแก้ข่าว ขวดยาที่พบในรถภายหลังเกิดเหตุคืออาหารเสริมแคปซูลใบแปะก๊วยไม่ใช่ยาแก้เครียดตามที่ลงข่าว นสพ. ผมไม่เครียดแต่ประท้วงจอมเผด็จการ

สวัสดีครับ
29 ตุลาคม 2549
(นายนวมทอง ไพรวัลย์)

วันพุธ, พฤศจิกายน 01, 2549

พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ












น้าหมู พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ เป็นนักร้องอีกคนที่ผมชอบมาก
ฝันว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต จะได้ไปเหยียบไร่ดอกเหงื่อ ร่ำสุรากับน้าหมู

ล่าสุด ออกอัลบั้มใหม่ "ขายงัวส่งควายเรียน" ผมลงทุนสั่งตรงผ่านทางอินเตอร์เน็ท
เพราะเข้าใจว่าคนตามฟัง ตามซื้อแผ่นแท้ของน้าหมู เหลือน้อยเต็มที
น้าหมูบอกในปกซีดีว่า ไม่ออกงานใหม่มา ๕ ปี เพราะท้อแท้กับเทปผี ซีดีเถื่อน
จนกระทั่งมีแฟนเพลงเอาซีดีมาให้แกเซ็น
แกบอกว่า นี่ของปลอมนะ
แฟนเพลงตกใจ บอกว่า ถ้ารู้ว่าปลอม ไม่ซื้อหรอก
แกเลยเกิดแรงฮึดว่า ยังไงก็ยังมีแฟนเพลงเหนียวแน่นที่รอฟังงานของแกอยู่

สารภาพว่า แรกเริ่มที่รู้จักเพลงของพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ หนีไม่พ้นมีที่มาจากวงเหล้า
แทบไม่มีวงสุราไหน ที่ปราศจากเพลงของน้าหมู
จนเมื่อฟังแบบละเอียดๆ ผมก็หลงรักเพลงของเขา

ผมชอบเพลงน้าหมู เพราะภาษา และอารมณ์ขัน
เพลงช้า ก็บาดลึก อย่าง คิดถึงบ้าน ลมรำเพย เด็กหญิงปรางค์ (เพลงนี้ มาร์ค อภิสิทธิ์เอาไปตั้งชื่อลูกสาวด้วย) มือเรียวเกี่ยวรวง (เป็นเอกบอกว่าฟังแล้วร้องไห้)
เพลงสนุก ก็กระตุ้นให้กะปรี้กระเปร่า อย่าง ดาวน์สาว จอรอคอย สถาพร จันทราคาลิปโซ่ ต้นขับขี่
หรือจะเอาเพลงการเมือง ที่เอาเพลงพื้นบ้านของโคราชมาผสม อย่าง เพลงโคราชขับไสไอ้กัน นี่ก็ได้อรรถรส

ผมยังชอบเพลงจังหวะโจ๊ะๆอย่าง น้ำตาหอยทาก ท่อนที่ร้องว่า "เพ้อรำพัน รำพันว่าฉันรักเธอ เพ้อรำพัน ตรงนี้ตรงนั่นนะหนา..."
หรือ ฝนจางนางหาย น้าหมูใส่ลูกคอแบบ "ด่วน บขส วิ่งเลย เมื่อไรจะจอด..."

น้าหมูเป็นราชาเพลงพูด ใครได้ลองไปดูคอนเสิร์ตแล้วจะติดใจ แกเล่นมุขแต่ละช็อต มันส์มากๆ
คอนเสิร์ตล่าสุด เดือนหงายกลางป่า จัดที่ หอประชุมใหญ่ มธ เป็นประจักษ์พยานได้ว่าน้าหมูฝีมือไม่มีตก

ใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมาฟังเพลง "บ้านบ้าน" แต่แฝงด้วยภาษาที่สวยงาม ความสนุกสนาน ความหมายสะท้อนสังคม เชิญชวนฟังเพลงน้าหมู แล้วจะติดใจ