๔ ปีก่อน ฝรั่งเศสเปิดสนามแพ้เซเนกัลไป ๐-๑ นัดที่สองเสมออุรุกวัยไป ๐-๐ เล่นสองนัดมีแต้มเดียว ทั้งๆที่เป็นเต็งหามของกลุ่ม ต้องมาลุ้นนัดสุดท้ายกับเดนมาร์ก ในสถานการณ์ที่ต้องชนะเท่านั้น แต่แล้วฝรั่งเศสที่เข็นซีดานในสภาพพิการลง ก็แพ้ไป ๐-๒ กลับบ้านอย่างเจ็บช้ำ เป็นแชมป์เก่าที่มีแค่แต้มเดียว ยิงไม่ได้สักประตูทั้งๆที่มีดาวซัลโวจากสามลีก คือ เทรเซเกต์ อองรี และซิสเซ่
๒๐๐๖ เลส เบลอส์ เปิดสนามนัดแรกเสมอสวิต ๐-๐ แบบหืดขึ้นคอ นัดที่สองเจอเกาหลีใต้ เล่นดีขึ้น อองรียิงนำแต่เนิ่น แต่ดันผ่อนเกมจนโดนพลังโสมตีเสมอ ๑-๑ ต้องมาลุ้นนัดสุดท้ายกับโตโก
กลุ่มจีที่ฝรั่งเศสอยู่นี้ ไม่ได้ถือว่าเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งนัก ยิ่งไปเทียบกับกลุ่มซี ที่มี อาร์เจนติน่า ฮอลแลนด์ โค้ตดิวัวร์ และเซอรเบีย-มอนเตเนโกร หรือกลุ่มอีที่มี อิตาลี กาน่า เช็ค และสหรัฐอเมริกา แต่ฝรั่งเศสก็กลับเป็นไก่ติดหวัดนกโชว์ฟอร์มร่อแร่จนต้องมาลุ้นนัดสุดท้าย
สื่อมวลชนและคนฝรั่งเศสสับแหลกทีมชุดนี้เละเทะ
บ้างว่าซีดานแก่เกินไป หมดสภาพแล้ว
บ้างว่าอองรีเล่นไม่ดีเหมือนสโมสร
บ้างว่าเล่นเกมรับมากไป
บ้างว่านักเตะส่วนใหญ่เลยจุดสุดยอดมาแล้ว ไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน
แต่ที่โดนหนักที่สุด หนีไม่พ้น เรย์มงด์ โดเมเน็ก ที่โดนข้อหา เรียกนักเตะที่ตนเองรักใคร่ป็นการส่วนตัว ไม่เรียกเอาตัวที่ดีที่สุดเข้ามา จะเห็นได้จากการหลุดทีมไปของ นิโกล่าส์ อเนลก้า, ลูโดวิช ชูลี่, โรแบร์ ปิแรส, โยฮัน มิกูด์
ไหนจะมีข้อหาแก้เกมไม่ได้เรื่อง ปอดแหก เล่นเกมรับ กลัวแพ้
ไหนจะโดนข้อหาเกาเหลากับซีดาน ไม่มีบารมีกับลูกทีม
จะว่าไป ไก่ตัวนี้ก็มีอาการขี้โรคมานานแล้ว
ฟุตบอลโลก ๑๙๙๘ ก็เล่นไม่ดีเท่าไร อาศัยความเป็นเจ้าภาพ ประกอบกับโชคดี รอบแรกก็อยู่สายอ่อนร่วมกับซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ และเดนมาร์ก รอบสองเจอปารากวัย มาได้โกลเด้นโกล์จากโลร็องด์ บล็องก์ รอบแปดทีมสุดท้าย ดวลจุดโทษชนะอิตาลี รอบรองชนะเลิศก็เกือบเสร็จโครเอเชียอยู่ ดีที่ได้กองหลังอย่างตูรามเติมเกมบุกจากการโต้กลับ หลุดขึ้นไปยิงได้ มารอบชิง ค่อยกลับมาท็อปฟอร์ม แต่รูปเกมจะว่าไปก็ไม่ได้เด่นกว่าบราซิลมากนัก ถ้าเทียบกับสกอร์ที่ขาดถึง ๓-๐
ยูโร ๒๐๐๐ ที่ได้แชมป์ ก็มีปาฏิหาริย์ในนัดชิงชนะเลิศ ตีเสมอนาทีสุดท้ายจากวิลตอร์ และมาได้โกลเด้น โกล์จากเทรเซเกต์
มาฟุตบอลโลก ๒๐๐๒ ไม่ต้องพูดถึง ดูไม่จืด
เอาเข้าจริงฝรั่งเศสประสบปัญหาสิงห์ปืนฝืดมานานแล้ว ยิงประตูได้ไม่เยอะ ยิ่ง ๒ ปีหลังมานี้ ผมดูฝรั่งเศสเล่นทีไร อึดอัดใจไปทุกที ครองบอลได้ ต่อบอลสวย คุมเกมตลอด แต่ยิงประตูไม่เป็น หรือพอยิงนำได้ก็ชอบปิดเกม แล้วมาโดนตีเสมอท้ายเกมประจำ
น่าแปลกใจทั้งๆที่ฝรั่งเศสมีกองหน้าที่ไปแผลงฤทธิ์เป็นดาวซัลโวอยู่ในหลายๆลีก แต่พอเล่นในนามทีมชาติกับฝืดทุกคน
เท่าที่สำรวจตามสื่อต่างๆ คนฝรั่งเศสยังมั่นใจอยู่พอควรว่าทีมของเขาชนะโตโกเกินสองลูก พวกเขายอมรับว่าหากขุนพลตราไก่ไม่มีปัญญายิงโตโกได้ถึงสองลูกก็สมควรตกรอบ ควรถึงเวลาแห่งการล้างบางทีมชาติและตื่นจากอดีตอันหอมหวลเมื่อปี ๑๙๙๘ เสียที
ฌอง – มิเชล ลาร์เก้ และอาร์แซน เวนเกอร์ เห็นตรงกันว่า นัดนี้เป็นจุดเปลี่ยนผ่านสำคัญ หากฝรั่งเศสรอดไปได้ ก็อาจคืนฟอร์ม ติดลมบน ตะลุยไปได้ถึงรอบรองชนะเลิศ เหมือนดังฟุตบอลโลก ๑๙๘๒ ที่สเปน ครั้งนั้นฝรั่งเศสเริ่มต้นรอบแรกแบบเจียนอยู่เจียนไป แต่สุดท้ายได้ที่ ๔ กลับมา
ฟาเบียง บาร์เตซ บอกว่าฝรั่งเศสยังเป็นทีมที่มีสิทธิเป็นแชมป์โลกอยู่ อย่าพึ่งกาชื่อพวกเขาออกไป ในขณะที่โคล้ด มาเกเลเล่บอกว่ามั่นใจ และครั้งนี้เป็นงานง่ายกว่าถ้าเทียบกับ ๒๐๐๒
ในยามที่ฝรั่งเศสต้องการชัยชนะสถานเดียว และยังต้องยิงให้ได้เยอะๆอีกด้วย ประกอบกับการขาดซีดานไปเนื่องจากโทษแบน โดเมเน็กจึงไม่มีทางเลือกอื่น ครั้งนี้เขายอมลดทิฐิ เลิกใช้แผน ๔-๒-๓-๑ หันมาใช้ ๔-๔-๒ แทน
ฟาเบียง บาร์เตซ
วิลลี่ ซาญอล – ลิลิยอง ตูราม – วิลเลียม กัลลาส – มิคคาแอล ซิลแวสตร์
ฟร้องค์ ริเบรี่ – ปาทริค วิเอร่า – โคล้ด มาเกเลเล่ – ฟลอร็องด์ มาลูด้า
ดาวิด เทรเซเกต์ – เธียร์รี่ อองรี
มีเปลี่ยน ๓ ตำแหน่ง ซิลแวสตร์ ลงแทน อบิดาล ที่ติดโทษ ริเบรี่ กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งแทน วิลตอร์ และ เทรเซเกต์ ได้รับโอกาสเป็นตัวจริงครั้งแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ แทนซีดานที่ติดโทษ
แรกๆ มีข่าวมาว่า โดเมเน็กจะดื้อด้านใช้แผนเดิมอีก โดยจะเอาวีกาช โดรัสโซ ลงแทน ซีดาน แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจให้โอกาสเทรเซเกต์เพื่อลงไปไล่ล่าประตู
กล่าวสำหรับโตโก อดีตเคยเป็นประเทศในอาณานิคมของฝรั่งเศส เล่นบอลสไตล์ทีมจากแอฟริกา แข็งแกร่ง รวดเร็ว แรงเยอะ แต่ว่าจบเป็นประตูไม่ได้
นักเตะส่วนใหญ่ค้าแข้งในลีกฝรั่งเศส ทั้งหมดรวม ๑๐ คนเล่นอยู่ใน ลีก เดอ
ที่เป็นตัวชูโรง หนีไม่พ้น เอมมานูแอล ชิยี่ อเดบายอร์ หัวหอกหุ่นเก้งก้าง ขาเล็กเป็นตะเกียบ อเดบายอร์เคยเล่นกับโมนาโกชุดรองแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกที่แพ้ปอร์โต้ ปัจจุบันเล่นให้อาร์เซนอล อเดบายอร์สไตล์เดียวกับเอ็นวานโก้ คานู กองหน้าไนจีเรีย เก้งก้าง ดูเกะกะๆ แต่แข็งแกร่ง แถมเล่นทีมชาติใส่เบอร์ ๔ เหมือนกันอีก
สถานีกานาล พลุส เคเบิ้ลทีวีที่นี่ จัดรายการเอาคนมานั่งคุยกัน มีคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาว่า กานาล พลุส ร่ำรวยมหาศาล น่าจะเอาเงินสักก้อนไปช่วยเหลือโตโกสักหน่อย
เข้าใจว่าคงเป็นมุขตลกเท่านั้น
สื่อฝรั่งเศสไปสัมภาษณ์นักเตะโตโกหลายคน พวกเขาบอกว่า แม้โตโกตกรอบไปแล้ว แต่งานนี้ไม่มีซูเอี๋ย เขาเล่นเพื่อศักดิ์ศรีของทีมแน่นอน อย่างน้อยก็เพื่อชาวโตโก
ผมคิดว่าฝรั่งเศสน่าจะรอดจากนัดนี้ไปแบบไม่เหนื่อยมาก อาจชนะสองลูกขึ้นไป แต่ชัยชนะก็เป็นเพียงแค่ต่อลมหายใจให้กับไก่ที่ติดหวัดนกตัวนี้เท่านั้น รอบต่อไปคาดว่าเจอสเปน คงไม่รอดแน่นอน
หวังว่านัดที่ฝรั่งเศสเจอเกาหลีใต้เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๐๐๖ การลงสนามในนามทีมชาตินัดที่ ๑๐๔ จะไม่เป็นนัดสุดท้ายของซีเนอดีน ซีดาน
....................
ความเป็นไปได้ของฝรั่งเศส
ได้ที่หนึ่งของกลุ่ม
- ชนะโตโก ๓ ลูกขึ้นไป สวิตและเกาหลีใต้เสมอ
- ชนะโตโก ๒ ลูก สวิตและเกาหลีใต้เสมอ ๐-๐ หรือ ๑-๑
ต้องจับสลากแย่งที่หนึ่งกับสวิต
- ชนะโตโก ๒-๐ และสวิตเสมอเกาหลีใต้ ๑-๑
- ชนะโตโก ๓-๑ สวิตเสมอเกาหลีใต้ ๒-๒
ได้ที่สองของกลุ่ม
- ชนะโตโก และคู่สวิตกับเกาหลีใต้ มีผลแพ้ชนะ เกาหลีใต้ชนะสวิต หรือ สวิตชนะเกาหลีใต้
- ชนะโตโก ๒-๐ และสวิตเสมอเกาหลีใต้ ๒-๒ เกาหลีใต้ตกรอบเพราะประตูได้เสียน้อยกว่าฝรั่งเศสหนึ่งลูก
- ชนะโตโก ๓-๑ และสวิตเสมอเกาหลีใต้ ๓-๓ เกาหลีใต้ตกรอบเพราะประตูได้เสียน้อยกว่าฝรั่งเศสหนึ่งลูก
- ชนะโตโก ๓-๒ และสวิตเสมอกับเกาหลี ๐-๐ เกาหลีใต้ตกรอบแม้ประตูได้เสียเท่ากับฝรั่งเศส แต่ประตูได้น้อยกว่า
จับสลากแย่งที่สองกับเกาหลี
- ชนะโตโก ๒-๑ และสวิตเสมอกับเกาหลีใต้ ๐-๐
ตกรอบ
- เสมอโตโก
- แพ้โตโก
- ชนะโตโก ๑-๐ และสวิตเสมอเกาหลีใต้ไม่ว่าจะสกอร์ใดก็ตาม ฝรั่งเศสตกรอบแม้ประตูได้เสียเท่าเกาหลีใต้ แต่ประตูได้น้อยกว่า
- ชนะโตโก ๒-๑ และสวิตเสมอเกาหลีใต้ ๑-๑ ฝรั่งเศสตกรอบแม้ประตูได้เสียเท่าเกาหลีใต้ แต่ประตูได้น้อยกว่า
สรุป สวิตขอเสมอก็เข้ารอบแน่นอน เกาหลีใต้ถ้าไม่ชนะ ก็ต้องยันเสมอให้ได้แล้วไปลุ้นอีกคู่หนึ่งเอา ส่วนฝรั่งเศสต้องชนะสองลูกขึ้นไปเพื่อความปลอดภัย