ปฏิญญาฟินแลนด์ VS ไอ้โม่ง
สนธิและพรรคพวกเปิดประเด็น “ปฏิญญาฟินแลนด์” เล่นงานทักษิณว่าไม่จงรักภักดี กระแสสังคมไม่ตอบรับเท่าที่ควร จนเรื่องค่อยๆจางหายไป
มาวันนี้กระแส “ไอ้โม่ง” ผู้อยู่เบื้องหลังในการโค่นล้มทักษิณก็ดังกระหึ่ม โดยเริ่มจากอดีตขาประจำในโต๊ะราชดำเนินซึ่งตอนนี้ย้ายไปปักหลักกันที่ http://www.weopenmind.com/board/index.php อย่าง “พิเภกอินเตอร์” และ “Killer” ได้เข้าไปโพสกระทู้เกี่ยวกับ “ไอ้โม่ง” อยู่หลายกระทู้ตลอดเดือนที่ผ่านมา
จนกระทั่งเมื่อวานทักษิณลุกขึ้นพูดในที่สาธารณะเป็นครั้งแรกถึงกรณีมี “คนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” เข้ามาแทรกแซง (ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าทักษิณพูดในที่ประชุมพรรคว่ามีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญเล่นงานอยู่) ว่า
“ความวุ่นวายเกิดจากหลายอย่าง อย่างหนึ่งคือ เมื่อใดองค์กรตามปกติถูกองค์กรที่อยู่นอกระบบครอบงำหรือมีอิทธิพลมากกว่า องค์กรปกตินั้นก็จะวุ่นวาย หรือถ้าจะแปลเป็นไทยชัดๆก็คือวันนี้องค์กรนอกรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ในรัฐธรรมนูญ คือบุคคลซึ่งดูเหมือนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เข้ามาวุ่นวายองค์กรที่มีในระบบรัฐธรรมนูญมากไป มีการไม่เคารพกติกา”
“ตอนที่นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มาขอลาออก ได้พูดกับตนถึงเรื่องแรงจูงใจที่มีคนมาขอให้ออก และพูดถึงความพยายามที่จะมีรัฐบาลชั่วคราว แก้รัฐธรรมนูญก่อนจึงจะมีการเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่เป็นประชาธิปไตย”
มิตรรักบล็อกเกอร์ว่า “ปฏิญญาฟินแลนด์” กับ “ไอ้โม่ง” อันไหนพอจะมีมูลมากกว่ากันครับ
มาวันนี้กระแส “ไอ้โม่ง” ผู้อยู่เบื้องหลังในการโค่นล้มทักษิณก็ดังกระหึ่ม โดยเริ่มจากอดีตขาประจำในโต๊ะราชดำเนินซึ่งตอนนี้ย้ายไปปักหลักกันที่ http://www.weopenmind.com/board/index.php อย่าง “พิเภกอินเตอร์” และ “Killer” ได้เข้าไปโพสกระทู้เกี่ยวกับ “ไอ้โม่ง” อยู่หลายกระทู้ตลอดเดือนที่ผ่านมา
จนกระทั่งเมื่อวานทักษิณลุกขึ้นพูดในที่สาธารณะเป็นครั้งแรกถึงกรณีมี “คนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” เข้ามาแทรกแซง (ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าทักษิณพูดในที่ประชุมพรรคว่ามีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญเล่นงานอยู่) ว่า
“ความวุ่นวายเกิดจากหลายอย่าง อย่างหนึ่งคือ เมื่อใดองค์กรตามปกติถูกองค์กรที่อยู่นอกระบบครอบงำหรือมีอิทธิพลมากกว่า องค์กรปกตินั้นก็จะวุ่นวาย หรือถ้าจะแปลเป็นไทยชัดๆก็คือวันนี้องค์กรนอกรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ในรัฐธรรมนูญ คือบุคคลซึ่งดูเหมือนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เข้ามาวุ่นวายองค์กรที่มีในระบบรัฐธรรมนูญมากไป มีการไม่เคารพกติกา”
“ตอนที่นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มาขอลาออก ได้พูดกับตนถึงเรื่องแรงจูงใจที่มีคนมาขอให้ออก และพูดถึงความพยายามที่จะมีรัฐบาลชั่วคราว แก้รัฐธรรมนูญก่อนจึงจะมีการเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่เป็นประชาธิปไตย”
มิตรรักบล็อกเกอร์ว่า “ปฏิญญาฟินแลนด์” กับ “ไอ้โม่ง” อันไหนพอจะมีมูลมากกว่ากันครับ
8 ความคิดเห็น:
อย่าคิดว่าเรื่อง ฟิน หรือ มนุษยา เป็นเรื่อง เล่น ข้อมูลเกี่ยวกับตัวบุคคลที่ทำมีอยู่จริง แต่หากพูดในประเด็น เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินแล้ว คงคุยกับ นิติรัฐ ลำบาก
เพราะ ผมก็เดาออกว่า นิติรัฐ เป็นซ้าย แบบ บอลเชวิก หรือกระทั่ง เหมา ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไรในยุคสิทธิและเสรีภาพ ว่าแต่กล้าแสดงตัวอย่างโจ้งครึม รึเปล่า
แต่ผมยังเชื่อว่า นิติรัฐ ไม่ได้ยืนอยู่ข้าง นายก หรอกนะ
เพียงแต่ นิติรัฐ ยืนอยู่ตรงข้ามกับ พวกขวา หรือดูเหมือนขวามากกว่า
สำหรับผม ไม่ซ้าย ไม่ขวา ไม่หน้า ไม่หลัง
ขอให้ชาวนา หายจน หายเจ็บ หายไม่รู้ จากการถูกปล้นสดมภ์จากภาครัฐซึ่งสะสมมาหลายสิบปีก็พอ มันมากพอแล้ว สำหรับอำนาจที่ทำร้าย คนเล็กคนน้อย พูดแบบนี้ดูเหมือนผมก็เอียงๆซ้ายอยู่ แต่ไหงไปอยู่พันธมิตร ฮา ฮา
จะซ้าย หรือ ขวา อย่าให้ตกขอบ ขอบที่ว่า คือ ประโยชน์สุข ความเสมอภาคทางสังคม
ซ้ายจัดก็อยู่ไม่ได้ ขวาจัดก็มัวเมา ในที่สุดสิ่งที่เชื่อใช่ไม่ได้สักอย่าง อย่าลืมว่าความคิด ทฤษฎีพัฒนามาจากรากเหง้า คือ ปัญหาแท้ๆทั้งสิ้น ถ้าติดทฤษฎีมากเกินไป โดยไม่ดูลมเหนือ ลมใต้ มันก็ย้อนส่งไปสู่รากเหง้า คือ ปัญหาที่ไม่ได้ถูกแก้
กฎหมายก็เหมือนกัน หากผู้นำบ้าอำนาจ กฎหมายก็รับใช้อำนาจ หากผู้นำเป็นธรรม กฎหมายก็อาจเป็นธรรม ทั้งนี้ต้องดูทั้งการบัญญัติและการบังคับใช้ไปพร้อมกัน
"เรียนกฎหมายแท้จริงแล้ว คือ ต้องทำให้ความคิดเรื่องกฎหมายมันหายไป แล้วกลับมาใช้มันใหม่เพื่อรับใช้สังคม เพื่อประโยชน์สุขของชนหมู่มาก"
หากเรียนแล้วติดยึด นักกฎหมาย ก็จะกลายเพียงผู้ทำหน้าที่ปกป้องตัวบทกฎหมาย ไม่ได้ปกป้องสังคมแต่อย่างใด เปรียบดุจไฟไหม้บ้าน แล้ววิ่งหอบเอาเครื่องดับเพลิงออกจากบ้านไป แล้วปล่อยให้บ้านพินาศไป
เอาแบบ กลมๆ ดีกว่ามั้ย
กลมๆ น่ารัก ดี
งานนี้คนได้เปรียบคือคนที่ไม่ถอยซักก้าว
ตอนแรก
ผมมองว่า การที่ทักษิณออกมา โยนหินถามทางก้อน(ใหญ่เบ้อเริ่ม)นี้
พลาดมากๆ
และ พลาด 2 ครั้งติดๆกันเลย
พอมาหวนกลับ คิดไปว่า
ทำไม.. ถึงต้องพูด 2 ครั้งติด อย่างนี้
ทำไม.. คนอย่างทักษิณ ถึงจะพลาดอย่างนี้ได้
แม้จะปากไม่ดีมาตลอด
แต่ .. เรื่องอย่างนี้ พลาดแค่ 1 ครั้ง จากสาเหตุปากไม่ดี
ผมก็ถือว่า มากพอแล้วครับ
เลยงงๆ ว่า ทักษิณ กำลังจะเล่นอะไร
และ เล่นเรื่องสุ่มเสี่ยงอย่างนี้ทำไม
เพื่อวัดใจ/ดูใจ ทหาร หรือ??
เพื่อวัดใจ/ดูใจ วิษณุ/บวรศักดิ์ หรือ ว่าเอ็ง 2 คนก็ไม่จำเป็นต่อข้าฯ
เพื่อ เคลียร์อะไร กับ ระบบเศรษฐกิจหรือ ??
บอกตรงๆว่า
แม้จะต้องมีสาเหตุแน่ๆ ที่ นายก ออกมาพูดอย่างนี้
แต่.. ตอนนี้ ผมยังนึกไม่ออก
และ โง่งมอยู่
ส่วนเรื่อง ปฏิญญาฯ กับเรื่อง โม่ง นี้นั้น
อะไร จะจริงหรือไม่นั้น
คุณ บุญชิตฯ ก็บอกไปแล้วว่า
นสพ.ไทย บอกไว้ชัดว่า เรื่องไหน จริง
เรื่องไหนไม่จริง
ตลกดี..
"แต่คนชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ซึ่งเราให้เกียรติตลอด หากไม่มีพวกเขาเราก็ไม่ได้กินข้าว
แต่พวกนี้ไม่ค่อยเข้าใจประชาธิปไตย เพราะการศึกษาไม่มี ซึ่งเราไม่ได้โทษเพราะชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ไม่มีสื่อที่ดีให้ได้รับรู้เรื่องราวเท่าทัน จึงเลือกเพราะเงิน "
---- ม.ร.ว.รำพิอาภา เกษมศรี
กล่าวเมื่อ 3 กรกฏาคม 2549 ที่ร้านโอลด์เล้ง
http://www.bangkokbiznews.com/2006/07/03/w001_117075.php?news_id=117075
สืบเนื่องจาก กรณี "กลุ่ม" ราชนิกูลบางคน ออกมาให้สัมภาษณ์ ให้นายก เปิดโปงเรื่อง ไอ้โม่ง...
----
แม้อาจจะไม่เกี่ยวตรงกับ เนื้อหาในหัวข้อนัก
แต่.. เอามาฝากกันครับ สำหรับการพิเคราะห์การเมือง-สังคม ในยุค 2549
ที่ประเทศไทยผ่านการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเฉียด 75 ปีแล้ว...
กระฎมพี และ ชาวนา
ก็ยังมีช่องว่างทางความคิด กันพอสมควรอยู่
ถึงออกมาในรูปของ การลูบหลัง(ก่อน) และ ตบหัว (อย่างแรง ทีหลัง) ในการให้สัมภาษณ์อย่างนี้...
ตอลสตอยหรือไม่ ไม่แน่ใจ กล่าวแกมประชดประชัน ชนชนสูง ไว้ว่า
"เราจะรักชาวนา และเข้าใจชาวนา จนกว่าเราจะกระโดดลงจากหลังของเขา"
คนชั้นสูง ชั้นกลาง ชั้นปัญญา ที่มีอานุภาพมากกว่า อย่างมากก็แค่ แสดงความคิด แหลมๆ หักๆ แต่น้อยคนมากที่จะลงมาสัมผัสและแก้ไข สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ใช้สมองนั่งถองคนอื่นครับ ต้องใช่ใจ และก็ ใจ
ซึ่งมหาบุรุษในยุคนี้ เห็นจะมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระมัง
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pol04010749&day=2006/07/01
เอามาให้อ่านต่อ...
การออกมาประกาศต่อหน้าบรรดาข้าราชการระดับสูงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับบุคคลที่มี "บารมี" เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการล้มรัฐบาลนั้น
ถือว่าเป็นการเปิดเกมรุกสำคัญที่วางเดิมพันครั้งใหญ่ ซึ่งหมายถึงอนาคตของ พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวชินวัตร รวมทั้งพรรคไทยรักไทยที่จะดำรงอยู่บนผืนแผ่นดินไทยได้หรือไม่
ก่อนการเปิดเกม 2-3 สัปดาห์ผู้บริหารระดับสูงของพรรคไทยรักไทยได้มีการวิเคราะห์กันอย่างละเอียดว่าควรดำเนินการทางการเมืองอย่างไร ซึ่งมีทางเลือก 2 ทางคือ 1.การถอยและยอมกระจายตัวเป็นพรรคเล็ก 2-3 พรรค 2.เดินหน้าสู้โดยการตัดตอน "อำนาจพิเศษ" ไว้ที่บุคคลมีบารมีเพราะทราบดีถึงบุคลิกภาพของฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างดี โดยดูจากประวัติศาสตร์
ในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณเลือกแนวทางที่ 2 แต่ได้มีการวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน แน่นอนว่าการประกาศต่อหน้าข้าราชการระดับอธิบดีขึ้นไปถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดี
เป้าหมายสำคัญคือการลากเอาฝ่ายตรงข้ามออกมาสู่เวทีใหญ่ให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมให้มากที่สุด เพราะเชื่อว่าวิธีการนี้อาจทำให้เกิดสภาวะ "ม้วนกลับ" แม้หมิ่นเหม่ต่อการถูกหักมุม แต่หากสำเร็จถือว่าคุ้มค่า เพราะสถานการณ์ที่ผ่านมาถือว่าถึงจุดต่ำสุดจนแทบไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
ที่จริงแล้วก่อนการเดินเครื่องเต็มสูบ คนในพรรคไทยรักไทยเริ่มจับทิศทางของหัวหน้าพรรคได้ตั้งแต่มีการจ่ายน้ำเลี้ยงครั้งใหญ่หัวละ 2 แสนบาท หลังจากที่แห้งแล้งมานาน จนเกิดต้องคิดกันไปต่างๆ นาๆ ว่าเป็นท่าทีที่ "ทิ้ง" พรรคแล้ว
สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณปักใจเชื่อว่าบุคคลมากด้วยบารมีเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น นอกจากคำบอกเล่าจากคนคุ้นเคยแล้ว ยังมีเทปบันทึกของบุคคลในแวดวงตุลาการรายหนึ่งที่อ้างคำสั่งบางประการของผู้มากด้วยบารมี ซึ่งเชื่อว่าเนื้อหาในเทปม้วนนี้จะถูกส่งใต้ดินกระจายข่าวสู่สังคมออกไป
แต่ที่ต้องจับตามองอย่ากะพริบคือร่างพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมยุบสภาเพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เพราะจะเป็นตัวตัดสินทั้งหมดว่าเกมที่ "ทักษิณ" วางไว้สำเร็จหรือล้มเหลว ....
http://ta.bz/chakri ประวัติศาสตร์ชาติไทย ประชาธิปไตยที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย ฟังหูไว้หูค่ะ
www0815
ugg boots on sale 70% off
ralph lauren uk
michael kors outlet online sale
uggs outlet
nike huarache
manolo blahnik
jordan 8
jordan shoes
oakley sunglasses wholesale
coach outlet
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก