วันอังคาร, เมษายน 18, 2549

ฟ้าเดียวกันเล่มใหม่มาแล้ว

แม้จะตกเป็นเหยื่อของสงครามแย่งชิงความจงรักภักดี แต่ "ฟ้าเดียวกัน" ก็ยังยืนหยัดสู้ไม่ถอย

กองบรรณาธิการเดินหน้าต่อสู้คดี และยังประกาศพิมพ์ฉบับสถาบันกษัตริย์กับสังคมไทยเพิ่มอีก ๖,๐๐๐ เล่ม

ล่าสุด ฉบับใหม่ประจำเดือน มกราคม - มีนาคม ๒๕๔๙ วางแผงแล้ว

มาช้าไปนิด แต่เนื้อหาในฉบับก็คุ้มค่ากับการรอคอย

ทราบมาจากเว็บบอร์ดมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนว่า ฉบับนี้เน้นหนักที่บทความของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เรื่อง สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

สมศักดิ์เคยโพสบางส่วนลงในเว็บบอร์ดมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนแล้ว น่าสนใจมาก

นักกฎหมายอย่างผม อดใจรอไม่ไหวที่จะอ่าน

จะว่าไปองค์กรแห่งนี้ราวกับเป็นแดนสนธยา ยากแก่การตรวจสอบ เพื่อนผมทำงานที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเล่าให้ฟังว่า องค์กรนี้ปฏิเสธไม่ยอมให้ สตง. เข้าไปตรวจสอบ โดยอ้างคาถากันผีประจำตัวว่า "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" และ "จาบจ้วงเบื้องสูง"

โอ้ นี่มัน สนง.ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นะครับ ไม่ใช่พระคลังข้างที่

เป็นนิติบุคคลมหาชน แยกออกจาก "วัง" ออกมาชัดเจน มีมืออาชีพเข้าไปบริหาร หากำไรเต็มที่

ไม่ต้องดูอื่นไกล ธนาคารเอย โรงปูนเอย ที่ดินเอย

แล้วจะไม่ให้อยู่ภายใต้การตรวจสอบขององค์กรอื่นได้อย่างไร

อีกเรื่อง ต่อเนื่องกัน บทความของธนาพล อิ๋วสกุล “ธุรกรรมอำพราง" เริ่มต้นเป็นชินคอร์ป แต่ทำไมจบลงด้วย สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

เข้ากับสถานการณ์ปฏิรูปการเมืองรอบ ๒ (อีกแล้ว) สมชาย ปรีชาศิลปกุล ขอท้าทายวิจารณ์งานของอมร จันทรสมบูรณ์ เรื่อง "คอนสติติวชันแนลลิสม์ ทางออกของประเทศไทย" ซึ่งนักกฎหมายมหาชนกอดไว้เป็นคัมภีร์

ผมดีใจมากที่สมชายเขียนเรื่องนี้ อยากให้มีคนวิพากษ์งานของอมรบ้าง เพราะนักกฎหมายมหาชนติดกับ "ขนบ" ที่เกรงบารมีของอมรจนไม่กล้าวิจารณ์อมรออกสาธารณะ

บทความอื่นๆน่าสนใจทั้งสิ้น เข้มข้นในแนวทางของฟ้าเดียวกันเหมือนเดิม ดังนี้

“การเมืองของวาทกรรมสงครามเวียดนาม” โดย พวงทอง ภวัครพันธุ์

“เสาหลักทางจริยธรรมชื่อเปรม” โดยธนาพล อิ๋วสกุล

บทวิเคราะห์ “โวหารของภาพและงานเขียน: การเมืองที่มองไม่เห็น” นพพร ประชากุล สายพิน แก้วงามประเสริฐ ยุกติ มุกดาวิจิตร และประชา สุวีรานนท์

“ทุนนิยมโลกกับความเสื่อมของสมบูรณาญาสิทธิราชย์สยาม”

“รัฐไทยกับทุนนิยม”

“แบบจำลองโลกอนาคตในสายตาบรรษัทข้ามชาติ”

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล “ถาม” สุพจน์ ด่านตระกูล “ตอบ” ว่าด้วยการขึ้นครองราชย์ ร.๘

มนุษยภาพ ขบวนการชาวนาฟิลิปปินส์ ตอนจบ ว่าด้วย การต่อสู้กับการปฏิวัติเขียวยุคทุนข้ามชาติ โดยเพ็ญนภา หงส์ทอง

วิเคราะห์ “หลักฐานใหม่” ความขัดแย้งระหว่างธีรยุทธ กับพคท. และเอกสารที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธาณะมาก่อน โดยธิกานต์ ศรีนารา

เห็นแต่ละเรื่องแล้ว น่าเสียวเหมือนกันว่าจะตกเป็นเหยื่อของสงครามแย่งชิงความจงรักภักดีอีกหรือไม่

อย่างไรก็ตามจากการตกเป็นเหยื่อครั้งนี้ ก็เกิดข้อดีที่ทำให้เราได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นพิจารณาว่าถึงเวลาหรือยังที่สังคมไทยจะโตพอที่จะเปิดพื้นที่ให้กับหนังสือแบบนี้

แนะนำให้หาซื้อกันมาอ่านนะครับ

หาไม่เจอ หายาก ลองไปที่นายอินทร์ แพร่พิทยา และศูนย์หนังสือจุฬา มีแน่นอน

ส่วนผม สหายผู้เปี่ยมไปด้วยไมตรีจิตอย่าง Ratio Scripta ตกปากรับคำเรียบร้อยแล้วว่าจะจัดส่งมาให้

แต่มันบอกผมว่า อย่าลืมหาสาวให้มันคน

27 ความคิดเห็น:

Blogger bact' กล่าวว่า...

มีให้อ่านออนไลน์มั๊ยคร้าบบบบ :P

8:48 หลังเที่ยง  
Blogger Etat de droit กล่าวว่า...

เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนนำบทความของสมชาย ปรีชาศิลปกุลมาลงไว้แล้ว

เชิญอ่านได้ที่

http://www.midnightuniv.org/midnight2545/document95089.html

9:43 หลังเที่ยง  
Blogger Etat de droit กล่าวว่า...

http://www.midnightuniv.org/midnight2545/document95089.html

เอาใหม่ เมื่อกี๊ลงลิงค์ไม่ครบ

9:43 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มันเป็นเรื่องที่ เราๆท่านๆ ที่อาศัยในตัวเมือง
ทราบกันดี

ข่าวต่างๆ จากรั้ว จากวัง ที่ออกมา
ก็ดูเหมือนเป็นข่าวที่ จ้องทำร้าย หรือ จ้องทำลาย สถาบันโดยตรงเสมอมา..


ที่น่าสนใจยิ่งคือ
บางครั้งและบ่อยครั้งที่ ข่าวเหล่านั้น
กลับมีการปล่อยออกมาจากในรั้ว ในวังเสียเอง...

และ แน่นอนว่า เมื่อข่าวกระจายออกไป
คนก็พร้อมที่จะเชื่อ ไม่เว้นแต่ พวกกษัตริย์นิยมจริงๆ
หรือ พวกนิยมกษัตริย์แบบซุบซิบ

ประเทศเรา มันก็เลยแปลกๆๆอย่างนี้ครับ

เดือนก่อนนี้
ใน pantip.com ห้องประวัติศาสตร์ (ในส่วนคาเฟ่ ห้องสมุด)
ก็มีการโจมตี สศษ. มากมาย

กระแสการโจมตี ก็เรื่องเดิมๆคือ เอา lese majeste มาซัด โครมใส่กันไป

โดยขาดการมองแบบ ภาพรวมและสิ่งที่อยู่ในเนื้อความที่ สศษ.เขียนไว้

ผมว่า
เราคงต้องใช้เวลาอีกนานทีเดียว
กว่าที่ระบบตรวจสอบอย่างเต็มรูปแบบ (และควรจะเป็น) จะสามารถเข้าไปได้ถึงใน องค์กรที่คุณ บุญชืตฯ บอกไว้ครับ

ยิ่งในปัจจุบัน องค์กรตรวจสอบที่ผู้คนฝากความหวังไว้มาก อย่าง สตง.

ก็มีผุ้นำ ที่พูดจาทีไร ก็อ้างอิง
ความเป็นข้าราชการ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาโดยตลอด (เมื่อ สองวันก่อน ก็เพิ่งพูดอีกรอบ..)

แล้ว เราจะไปหวังอะไรเล่าครับ..

5:33 ก่อนเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นอกเรื่องหน่อยนะครับ เห็นพูดเรื่องสตง.

คุณหญิงฯไปอภิปรายที่ไหนจำไม่ได้แน่ชัด

แกบอกว่าส.ว.ชุดนี้บางส่วนมีการรับเงินในห้องน้ำ

ส.ว.สุรชัย ดนัยตั้งตระกูล คนเปิดโปงเรื่องนี้ (และคุณชวนก็นำไปขยายความต่อ)ตอบกลับมาทันทีว่า...

"ที่มีการจ่ายเงิน ก็จ่ายเงินเพื่อให้เลือกคุณหญิงฯ..."

พวกคุณคิดว่างัย

7:31 ก่อนเที่ยง  
Blogger bact' กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ :)

4:39 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แหมพวกที่ปล่อยข่าวไร้นามนี้ ไม่ได้เห็นยังไงหรอกครับ

ตัวผู้อะเป่า???

4:55 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

หนูบุญชิตนี่แน่จิง

3:54 หลังเที่ยง  
Blogger วังแดง กล่าวว่า...

ถูกต้องแล้วค่ะ
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นั้นไม่ใข่ข้าราชการ หรือรัฐวิสาหกิจค่ะ
หากแต่ตั้งขึ้นด้วยพระราชบัญญัติเฉพาะค่ะ
การเชียร์นักการเมืองนั้น ดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใข่เรื่องของสำนักงานค่ะ
ส่วนการขึ้นราคาค่าเช่าขอได้โปรดเข้าใจว่า แต่เดิมนั้นค่าเช่าคิดแบบสัญญระยะยาว (30 ปี) โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงค่าเช่า ทำให้ค่าเช่าในปีที่ 30 นั้นถูกมาก ๆ แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับสมัยมากขึ้น เนื่องจากที่ดินของสำนักงานฯ มีราคาแพงขึ้นาก แต่ค่าเช่าถูก ทำให้การใช้ประโยชน์ไม่เหมาะสม ทำให้เมืองกลายเป็นแหล่งเสื่อมโทรมได้ และทำให้ไม่เป็นธรรมกับบุคคลที่ต้องซื้อที่ดินเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้สำนักงานฯต้องปรับเปลี่ยนค่าเช่าให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงกล่าวคือจะคิดจากมูลค่าประมาณ 1-3 เปอร์เซนต์ของพื้นที่ดิน ทำให้อาจมีผู้รู้สึกว่าค่าเช่าแพงขึ้นมาก แต่หากเทียบกับศักยภาพที่ดินแล้วดิฉันคิดว่าคุ้มค่ะ อีกประการหนึ่งที่ดินของสำนักงานเป็นที่เช่า หากครบอายุสัญญาและสถานที่เช่าทรุดโทรมก็เหมาะสมที่จะต้องพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เมืองหรือประเทศเกิดความเจริญโดยรวมขึ้น
ส่วนที่กล่าวว่าสนง.ไม่จ่ายภาษีของให้ยกประเด็นออกเป็นทรัพย์สินส่วนพระองคืและทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และทรัพย์ที่เป็นสาธารณะสมบัติ
ทรัพย์ที่เป็นสาธารณสมบัติเช่นพระบรมมหาราชวังนั้นไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้วเพราะเป็นราขการ
ทร้พย์สินส่วนพระองค์จะต้องเสียภาษี ถือเป็นพระกรุณาธิคุณที่ทรงเล็งเห็นว่าพระองค์ก้เป็นคนธรรมดาสมควรที่จะเสียภาษี
ส่วนทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องเสียภาษีเนื่องจากถือว่าสถาบันพระมหากษ้ตริย์ สถาบันของชาติอย่างหนึ่ง
ส่วนที่ทำไมสตง.ไม่สามารถตรวจสอบจได้ เนื่องจากสตง. มีหน้าที่ตรวจสอบเงินภาษีอากรของประชาชน แต่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษ้ตริย์ ถือเป็นทรัพย์ส่วนพระมหากษ้ตริยื และเป็นทรัพย์ที่มิได้มาจากภาษีอากร เนื่องจากสำนักงานฯ มีรายได้เป็นของตนเองมิได้พึ่งพาเงินภาษีอากรจึงไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่กรณีที่สำนักงานฯ ไปลงทุนในบริษัทต่างๆ อาทิ ซิเมนต์ไทย ธนาคารพาณิชย์ ฯลฯ บริษัทเหล่านั้นจะต้องเสียภาษีนิติบุคคลอยู่แล้ว ส่วนรายได้จากที่ดินสำนักงานจะจ่ายในรูปของภาษีโรงเรือน (ให้ผู้เช่าเป็นผู้รับภาระ)

3:33 หลังเที่ยง  
Blogger วังแดง กล่าวว่า...

อ้ออีกนิดค่ะ
พนักงานตรงนั้นเป็นพนักงานองค์กรของรัฐ
แต่เป็นองค์กรที่มีรายได้เป็นของตนเองนะค่ะ ไม่ได้เป็นเงินภาษีอากรอย่างองค์กรอื่น เปรียบเทียบง่ายๆ คือ เราถือว่าสถาบันกษัตริย์เป็นสัญลักษณ์ของชาติแบบหนึ่ง สำนักงานทรัพย์สินเสมือนเป็นสมบัติของพระองค์ท่าน (แต่ไม่ใข่ทรัพย์ส่วนพระองค์อันนั้นจะแยกออกไปค่ะ)
เงินที่สำนักงานฯ ได้นั้นจะได้นำไปทำนุบำรุงประเทศในรูปแบบต่างๆ อย่างที่ท่านเห็นพระองค์ทรงปฎิบัติพระราชภาระกิจมากมาย ก็มิได้นำเงินภาษีอากรประชาชรมาใช้นะคะ แต่เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงใช้เงินในรูปแบบต่างๆ มาทำประโยชน์ให้กับประชาชนค่ะ

3:37 หลังเที่ยง  
Blogger Unknown กล่าวว่า...

การป้องกันไม่ให้แผ่นดินไทยลุกเป็นไฟ มีหนทางสายเดียว คือสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันในระหว่างคนไทยซึ่งอยู่รวมกันภายในชาติครั้งใหม่ นิยามของความเป็นชาติไทย มีอย่างหนึ่งได้แก่ภาษาไทย ซึ่งมีไว้ใช้สำหรับเชื่อมต่อสายสัมพันธ์ของกันและกัน แต่จากการค้นคว้ามานานนับ๒๐ปีพบว่า การเรียนรู้ภาษาไทยของคนไทย มีความวิปริตเพราะถูกบิดเบือนไป โดยปัญญาชนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ ซึ่งสมควรยกประโยชน์ให้ท่าน ทั้งนี้เพราะเราสูญเสียข้อมูลเอกสารวิชาการไปพร้อมกับการสูญสิ้นเอกราชและอิสรภาพเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าครั้งที่๒นั้นเอง เพราะฉะนั้นอย่าใส่ร้ายป้ายสีด่าทอกันเลยทุกคนล้วนมีปมจิตด้วยกันทั้งนั้น

2:31 ก่อนเที่ยง  
Blogger Unknown กล่าวว่า...

การป้องกันไม่ให้แผ่นดินไทยลุกเป็นไฟ มีหนทางสายเดียว คือสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันในระหว่างคนไทยซึ่งอยู่รวมกันภายในชาติครั้งใหม่ นิยามของความเป็นชาติไทย มีอย่างหนึ่งได้แก่ภาษาไทย ซึ่งมีไว้ใช้สำหรับเชื่อมต่อสายสัมพันธ์ของกันและกัน แต่จากการค้นคว้ามานานนับ๒๐ปีพบว่า การเรียนรู้ภาษาไทยของคนไทย มีความวิปริตเพราะถูกบิดเบือนไป โดยปัญญาชนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ ซึ่งสมควรยกประโยชน์ให้ท่าน ทั้งนี้เพราะเราสูญเสียข้อมูลเอกสารวิชาการไปพร้อมกับการสูญสิ้นเอกราชและอิสรภาพเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าครั้งที่๒นั้นเอง เพราะฉะนั้นอย่าใส่ร้ายป้ายสีด่าทอกันเลยทุกคนล้วนมีปมจิตด้วยกันทั้งนั้น

2:32 ก่อนเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมเพิ่งเข้ามาอ่านได้ไม่กี่วัน บอกตรงๆ พวกคุณคิดอะไรกันอยู่เป็นคนไทยกันหรื่อเปล่า ผมเป็นลูกคนจีนแท้ๆ พ่อ,แม่ผมอายุ 80กว่าแล้ว ยังใช้ใบต่างด้าวอยู่เลย แต่สอนผมและพี่น้องทุกคนให้รักเทิดทูลในหลวงของคนไทย เพราะท่านไม่เคยแยกว่าคนไทย.จีน,แขก หรือคนเชื่อชาติใดท่านช่วยหมดทุกคน และทุกวันนี้ท่านยังทรงงานอยู่เลย และท่านทำเพื่อใคร ท่านทำให้ประชาชน,ชาวไร่,ชาวนาและคนไทยทุกคน ท่านทำไปโดยไม่ได้อะไรตอบแทน แต่พวกคุณมาทำกันแบบนี้สมควรแล้วหรือ พวกคุณไปดูคุณทักษิณดีกว่าทุกวันนี้เขาทำอะไรของเขา เอาชื่อติดธงชาติ ให้พวกลูกน้องไปด่าป๋าเปรมอยู่ทุกวัน และตัวทักษิณก็ยังเคยป๋าเปรมเลย และที่ผมรับไม่ได้คือเมื่อปี่ 49 ที่อยุธยาให้พวกลูกน้องเอาธงชาติ,ธงทรงพระเจริญมาโปกตอนรับทักษิณที่แบบนี้พวกคุณถึงไม่ยอมด่าทักษิณ พวกคุณอยู่ประเทศไทยทำมาหากินกันอย่างมีความสุขได้ทุกวันนี้เพราะใคร ถ้าไม่ใช้พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์หรือ ผมคิดว่าประเทศไทยทุกตรางนิ้วเป็นของพระเจ้าอยู่เหนื่อหัวของคนไทยทุกคน

7:17 ก่อนเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ให้ท่าน ที่อ่านแล้ว ใช้ปัญญาในการคิดให้กว้างๆ ว่า ขณะนี้ (2551) เกิดอะไรขึ้นบ้าง ใครที่เป็นคนเกเร.. ใครคือผู้ป้องกัน ปกป้อง ประเทศไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประเทศไทย.. เราเป็นแบบของเรา ทำไมต้องให้พวกเรียนหนังสือจากเมืองนอกแล้วโง่ ไม่มีปัญญามาปรับใช้กับบ้านเราได้ ถ้าท่าน คิดพิจารณา ดูตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว จนมาถึงรัฐบาลนี้..เกิดอะไรขึ้น ตำรวจ ... ปล่อยให้พวกกุ้ย รุมกระทืบคนแก่... พวก นปก. ที่เอาก้อนอิฐตัวหนอน ขว้างใส่ตำรวจ ที่มีแต่กระบอง... แล้วบอกว่า ตำรวจทำรุนแรง... ใช้คำหยาบคายที่หน้าบ้านพลฯเอกเปรม รมว.สาธารณะสุข จะยกเลิก CL ยา โดยหวังแต่เพียงกลัวฝรั่งมัน.. แต่คนไทยกว่าค่อนประเทศต้องตายลง ไม่สนใจ... รมว.มหาดไทย.. เป็นพวกกุ้ย ใช้กิริยาถ่อย สถุน... มาได้ไม่เท่าไหร่ ลูกที่มีข้อหาค่าคนตาย ได้ยศกลับคืนแล้วบอกว่าไม่รู้เรื่อง พอตกเย็น ก็จัดงานเลี้ยงโต๊ะจีนที่บ้าน... ฯลฯ และอีกมากมาย พี่น้องที่ยังไม่รู้สิ่งใด ลอง รับสื่ออื่นๆ ให้กว้างๆ หลายหลายสำนักหน่อยครับ.. อย่าอยู่แต่ ช่อง 3 5 7 ที่ไม่มีอะไรเลย นอกจากเอาละครน้ำเน่า ทำลายจิต มาให้ดู ตอนนี้บ้านเมือง วิกฤตแล้ว ยังจะสบายใจมาดูละครหรอครับ... มีแต่พวกเรา ประชาชนชาวไทย ในข้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้นครับ ที่จะช่วยชาติ และในหลวงของเราได้เท่านนั้น

4:43 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมรักทักษิณ เพราะทักษิณมีความเป็นศิลปิน
ผมรักทักษิณ เพราะทักษิณชอบดูละครหลังข่าว ...เหมือนผม
ผมรักทักษิณ เพราะทักษิณอายุมากแล้ว แต่ยังชอบเซ็กกับเด็ก ๆ ...เหมือนเพื่อนรุ่นพี่ผมคนหนึ่ง ที่ผมนับถอก
ผมรักทักษิณ เพราะทักษิณ แม้จะโกง แต่ก็โกงอย่างมีศิลป์ คือแอบโกงอย่างเงียบ ๆ และทำได้เยอะด้วย ...เหมือนเพื่อนรุ่นพี่ผมคนหนึ่ง ที่ผมนับถอก แต่เรื่องแดงเสียก่อน ไม่เช่นนั้น เราจะได้ภูมิใจที่ประเทศเรามีเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก
ผมรักทักษิณ เพราะทักษิณมีจิตวิทยาสูง คือรู้ว่าจะใช้คนได้อย่างไร ทักษิณรู้จักวิธีการโน้มน้าว คนชอบเงิน)ให้มันไปเลย เอามันมาใช้งาน
ผมจึงรักทักษิณ ด้วยเหตุนี้ โอ้ทักษิณ แม้ใครเรียกท่านว่า ไอ้หน้าเหลี่ยม แต่ผมยังรัก

จาก เสียวว้อย

5:19 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ศาลมีหลักพิจารณาถูกฝิดของกฎหมายที่เจตนาแล้วสรุปโดยหลักธรรมที่มีอยู่ในตนเอง ทุกเหตุผลมีเจนตาเป็นเครื่องชี้นำ คำตัดสินไม่เป็นกลางแน่นอนแต่ไก้ลความจริงที่ยอมรับได้เสมอ

8:55 ก่อนเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พึ่งเข้ามาอ่านค่ะรู้สึกว่าคนไทยเรายังรู้น้อยเกินไปเกี่ยวกับหน่วยงานของรัฐจึงใช้ความไม่รู้จริงของคนไทยด้วยกันมาหลอกกันอยากรู้อะไรก็ศึกษากันเอานะคะเพราะประเทศไทยเสรีพอจะศึกษาหาตำรับตำรามาอ่านกันไม่ต้องให้คนอื่นมาจูงจมูกนะคะคิดดีทำดีพูดดีค่ะอย่าได้โกรธเคืองใส่ร้ายป้ายสีกันเลยนะคะตายแล้วบาทเดียวก็เอาไปไม่ได้หรอกค่ะ

1:49 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ggggggg

6:57 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ggggggg

6:57 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คนไทยหรือปล่าว

6:59 หลังเที่ยง  
Blogger พันทมิตร กล่าวว่า...

สุดยอด

5:43 หลังเที่ยง  
Blogger พันทมิตร กล่าวว่า...

พวกมึงอย่าคิดทำลาย ชาติ ศาส กษัติย์ พวกเราทหารใต้ยอมตายเพื่อชาติ

5:45 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไปตายเถอะ !

1:58 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไปตายซะ ไอ้พวกหนักแผ่นดิน ถ้าพวกมรึงไม่อยากอยู่ในแผ่นดินนี้ที่มีองค์พระมหากษัตรย์เป็นประมุข
พวกมรึงก็จงออกจากความเป็นไ่ทยไปเลย หรือพวกมรึงกล้าประกาศกลางสาธารณชนหรือเปล่า
ว่าพวกมรึงเห็นต่้างอย่างไร มรึงกล้ากันไหม ถ้ากล้าก็ออกมา รับรองได้ว่าพวกมรึงตายแบบไม่มีแผ่นดินให้เผาแน่ หรือพวกมรึงแน่แค่ได้แต่เห่าอยู่แต่ในนี้ แน่จริงออกมาสิวะ
ไอ้พวกเสียชาติเกิดเอ้ยยย

5:16 หลังเที่ยง  
Blogger panon กล่าวว่า...

เราควรแยกสาระ และมองด้วยเหตุด้วยผล ไม่มีอคติ กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ในการตัดสินใจ สิ่งที่ควรแยกออกก่อนคือ ข้อความที่เป็นฝ่ายเดียว ข้อความที่เน้นความถูกผิด ข้อความที่มุ่งแต่คำว่าแพ้ ชนะ ต้องตัดออกจากการตัดสินใจเป็นอันดับแรก เพราะข้อความที่กล่าวมาข้างต้น ล่วงเป็นข้อความที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง มุ่งเน้นที่จะเอาชนะกัน และเกลียดชังกัน

9:23 ก่อนเที่ยง  
Blogger พานทองเทียม กล่าวว่า...

พวกล้มล้าง ที่โพสลงเนี่ย พวกเดียวกัน คนเดียวกัน
สร้างกระแส ปลุกระดมคนอื่น ควยจริงๆ คนรึป่าว
สาดๆๆๆ

3:32 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ชั่ว ช้า เกิดมาเคยทำอะไรให้แผ่นดินบ้าง

ไม่ต้องไปคิดเรื่องการใหญ่ใผ่สูงจะปกป้อง โน่นนี่ของชาติหรอก แค่พวกมึงเอาความรู้ที่มีอยู่ มาทำประโยชน์ให้แผ่นดิน ก็พอแล้ว พวกมึงแค่เอื้อเฟื้อ แก่คนรอบข้าง มีน้ำใจกับคนไทยด้วยกัน ก็พอแล้ว

ไอ้พวกการศึกษายิ่งทำให้พวกมึงชั่วขึ้น

6:00 ก่อนเที่ยง  

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก