ต้องบริการรัฐบาลเท่านั้นหรือจึงเป็นเนติบริกร?
นับตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
ลองมองย้อนกลับไปถึงพฤติกรรมของบรรดานักกฎหมายที่ออกมาหาเหลี่ยมคูทางกฎหมายเพื่อการโค่นทักษิณ หรือยอม “งดเว้น” ไม่พูดหลักกฎหมายบ้างในบางเรื่อง เพราะเห็นว่าเป็นผลดีต่อกระบวนการโค่นทักษิณ
ไล่มาตั้งแต่ ...
การยกกษัตริย์ขึ้นนำในระบอบประชาธิปไตยไทย
การนั่งใบ้กินครั้งที่สนธิ-ประมวลไปพูดเรื่องพระราชอำนาจที่คณะนิติศาสตร์ มธ. ทั้งๆที่สิ่งที่สนธิ-ประมวลพูดนั้นมันขัดกับนิติรัฐและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายกาจ
การนั่งใบ้กินตอนทหารตบเท้าไล่สมัครจากกรณีวิจารณ์เปรม (หนำซ้ำมีนักกฎหมายหญ่ายยยไฟแรงบางคนออกมาด่าสมัครด้วยซ้ำว่าไปกินอะไรเข้าถึงกล้าวิจารณ์เปรม)
การกลับมาของจารุวรรณ สตง. ทั้งๆที่เถียงกันทางกฎหมายแทบตาย แต่มีสัญญาณหนึ่งมาปุ๊บ การกลับมาของจารุวรรณก็หมดข้อสงสัยจากนักกฎหมาย
การขอนายกฯพระราชทานโดยอ้างมาตรา ๗
จนล่าสุดหาทางให้การเลือกตั้งเป็น “โมฆะ” ทั้งหมด
ทั้งหลายเหล่านี้ ก็เป็นการนำกฎหมายมารับใช้การเมืองเหมือนกัน แต่การเมืองที่ว่าเป็นการเมืองที่อยู่คนละฟากกับทักษิณ
ดังนั้น หากเราเรียกวิษณุ บวรศักดิ์ โภคิน ว่าเนติบริกร ด้วยเหตุที่ว่า เอากฎหมายไปรับใช้รัฐบาล เราก็อาจเรียกนักกฎหมายที่เอากฎหมายไปเพื่อโค่นทักษิณว่าเนติบริกรได้ดุจกัน
ผมไม่ได้ตำหนิ การนำกฎหมายไปรับใช้เป้าหมายของตน ไม่น่าผิดหากเรานำกฎหมายมาใช้ให้สอดรับกับมโนธรรมสำนึกหรืออุดมคติของตน
เพียงแต่สงสัยว่า ในเมื่อนำกฎหมายไปรับใช้อุดมคติหรือเป้าหมายของตนเองแล้ว เหตุใดจึงไม่กล้ายืดอกรับอย่างเต็มภาคภูมิ
เหตุใดจึงกลายเป็น “ผู้ทรงศีล” มากกว่านักกฎหมายฟากรัฐบาล เหตุใดจึงถือสิทธิ์ในการบริภาษเหล่าเนติบริกรฟากรัฐบาลได้อย่างเต็มที่
หรือนักกฎหมายคนใดที่ต้องการโค่นทักษิณ ย่อมกลายเป็นผู้มีศีลธรรมขึ้นทันที
ลองมองย้อนกลับไปถึงพฤติกรรมของบรรดานักกฎหมายที่ออกมาหาเหลี่ยมคูทางกฎหมายเพื่อการโค่นทักษิณ หรือยอม “งดเว้น” ไม่พูดหลักกฎหมายบ้างในบางเรื่อง เพราะเห็นว่าเป็นผลดีต่อกระบวนการโค่นทักษิณ
ไล่มาตั้งแต่ ...
การยกกษัตริย์ขึ้นนำในระบอบประชาธิปไตยไทย
การนั่งใบ้กินครั้งที่สนธิ-ประมวลไปพูดเรื่องพระราชอำนาจที่คณะนิติศาสตร์ มธ. ทั้งๆที่สิ่งที่สนธิ-ประมวลพูดนั้นมันขัดกับนิติรัฐและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายกาจ
การนั่งใบ้กินตอนทหารตบเท้าไล่สมัครจากกรณีวิจารณ์เปรม (หนำซ้ำมีนักกฎหมายหญ่ายยยไฟแรงบางคนออกมาด่าสมัครด้วยซ้ำว่าไปกินอะไรเข้าถึงกล้าวิจารณ์เปรม)
การกลับมาของจารุวรรณ สตง. ทั้งๆที่เถียงกันทางกฎหมายแทบตาย แต่มีสัญญาณหนึ่งมาปุ๊บ การกลับมาของจารุวรรณก็หมดข้อสงสัยจากนักกฎหมาย
การขอนายกฯพระราชทานโดยอ้างมาตรา ๗
จนล่าสุดหาทางให้การเลือกตั้งเป็น “โมฆะ” ทั้งหมด
ทั้งหลายเหล่านี้ ก็เป็นการนำกฎหมายมารับใช้การเมืองเหมือนกัน แต่การเมืองที่ว่าเป็นการเมืองที่อยู่คนละฟากกับทักษิณ
ดังนั้น หากเราเรียกวิษณุ บวรศักดิ์ โภคิน ว่าเนติบริกร ด้วยเหตุที่ว่า เอากฎหมายไปรับใช้รัฐบาล เราก็อาจเรียกนักกฎหมายที่เอากฎหมายไปเพื่อโค่นทักษิณว่าเนติบริกรได้ดุจกัน
ผมไม่ได้ตำหนิ การนำกฎหมายไปรับใช้เป้าหมายของตน ไม่น่าผิดหากเรานำกฎหมายมาใช้ให้สอดรับกับมโนธรรมสำนึกหรืออุดมคติของตน
เพียงแต่สงสัยว่า ในเมื่อนำกฎหมายไปรับใช้อุดมคติหรือเป้าหมายของตนเองแล้ว เหตุใดจึงไม่กล้ายืดอกรับอย่างเต็มภาคภูมิ
เหตุใดจึงกลายเป็น “ผู้ทรงศีล” มากกว่านักกฎหมายฟากรัฐบาล เหตุใดจึงถือสิทธิ์ในการบริภาษเหล่าเนติบริกรฟากรัฐบาลได้อย่างเต็มที่
หรือนักกฎหมายคนใดที่ต้องการโค่นทักษิณ ย่อมกลายเป็นผู้มีศีลธรรมขึ้นทันที
26 ความคิดเห็น:
ผมเขียนกรณี "วิ่งหาศาล" เพื่อให้เลือกตั้งโมฆะส่งประชาชาติธุรกิจไปแล้ว
ว่าจะเอามาปรับปรุงเพิ่มเติมในส่วนพระราชดำรัส ๒๕ เมษาอีกเล็กน้อย เพื่อส่งลงโอเพ่น
ยอมรับว่าเขียนเรื่องนี้ เสียวมากๆ และก็คงมีแต่คนด่า เสี่ยงต่อการโดนเพื่อนร่วมวิชาชีพ ครูบาอาจารย์ ตำหนิ แต่มันอึดอัดทนไม่ไหว เพราะสิ่งที่เป็นอยู่มันขัดกับมโนธรรมสำนึกของผมอย่างร้ายแรง
Keep the faith
Protect the spirit of law
that's "etat de droit" , folks !!
อืม....... อาจารย์ปึ๋งตั้งข้อสังเกตได้น่าคิดดีครับ
ปึ๋งเอ้ย...ถ้าตอนนี้นายเป็นผู้การเรือดำน้ำแล้วบล็อคนี้เป็นเรือดำน้ำละก็....นายคงต้องปล่อยสัญญาณ
"เตรียมรับแรงกระแทก!!"
อีกไม่นานทอร์ปิโดหลายลูกคงมาถึงปล็อคนี้เป็นแน่แท้
-_-'
ผมไม่แน่ใจว่า
เราจะมอง การเอา "ธงนำ" ครั้งนี้ ของศาลอย่างไรกันดี
ศาลปกครอง แทบจะไม่เก็บอาการเลยว่า
อยากจะให้ผลการตัดสินออกมาในรูปแบบใด..
ทั้งที่ ยังไม่ได้พิจารณาตัดสินใดๆๆเลยด้วยซ้ำ
หากจะมองว่า
ศาล คือตัวแทนของกษัตริย์ ในการตัดสินคดีความ มาแต่โบราณกาล
เพราะ กษัตริย์ ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะมานั่งตัดสินเรื่องราวต่างๆของสังคม แบบยุคอดีต
เราก็คงจะต้องยอมรับกลายๆว่า
ถึงที่สุดแล้ว
ศาลก็จะต้องเป็น เนติบริกร ให้สถาบันกษัตริย์ไปเช่นกัน...
เพียงแต่ว่า
ธงนำ ที่สถาบัน นำมาบอกไว้นั้น
มันจะไปถูกใจฝ่ายไหน และ ขัดใจผู้ใด
อันนี้ ก็คงพิจารณาเป็นกรณีไป...
เรื่องการตั้ง ธงนำ การตัดสิน ของศาล ในแบบที่เป็นอยู่นี้
บอกตามตรงว่า
ผมไม่เห็นด้วยเลย
และ ทำให้ดู ร้ชั้นเชิงเอามากๆ
ปล. รออ่านงานของอาจารย์ใน ประชาชาติ นะครับ
เสียวเรื่องเพื่อนร่วมวิชาชีพบ่นให้ คงเป็นเรื่องธรรมดามั้งครับ ปัญญาชนน่าจะเปิดกว้างในความคิดเห็นที่แตกต่าง ห่วงแต่เรื่องเบื้องสูงเท่านั้นแหละ ผมมีความรู้สึกว่าอาจารย์เขียนฉวัดเฉวียนไปมาหลายตอนแล้วนา กลัวพวกโลกทรรศน์คับแคบจะมาอ่านเจอน่ะครับ
เรื่องเนติบริกร นี่เคยพูดถึง กรณี ของคุณไชยันต์ เหมือนกัน .... นักกฎหมายที่บิดเบี้ยวกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือ คุณไชยันต์ ก็น่าจะยิ่งแย่กว่าเป็นไหน ๆ
ในสถานการณ์แบบนี้หลายคนคงต้องปาดหัวกับการพยายามหาเหตุให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ทั้งที่จริงๆแล้ว ก็ไม่มีเหตุไหนร้ายแรงพอจะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะเลย ครั้งนี้คงเป็นเรื่องที่มีการตั้งธงไว้แล้ว ส่วนตัวก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันที่เรื่องมาในทิศทางแบบนี้ แบบนี้ก็เสียหลักกฎหมายหมด ไม่รู้ว่าทุกวันนี้เรายังยึดหลักการปกครองโดยกฎหมายอยู่หรือเปล่า แย่จัง
นัย ของ เนติบริกร คือ นัย เลว ไม่เข้าใจหรือ
ส่วนใครใช้กฎหมายเพื่อโค่นทักษิณ จะกลายเป็นผู้ทรงศีล แล้วไง ทักษิณมันมีศีลมากนักหรือ แล้วการพูดว่าเป็น กลุ่มนักกฎหมายดังกล่าวเป็น เนติบริกร ดูจะเลอะเลือนซะยิ่ง
พวกซ้ายจัดไม่ประนีประนอม แท้จริงก็คือ พวกโลกทรรศน์แคบ หัดแหกอายตนะรับฟังเสียงผู้ทุกข์ยากบ้าง
ผมว่าบล็อกนี้นับวันจะวิปริต ผิดมนุษย์ขึ้นเรื่อยๆ
ตอปิโด ลูกที่หนึ่ง
ย้อนกลับไปอ่านอีกครั้ง
บล็อกตอนนี้ของคุณน้อง ดูจะ UGLY และ Bull Shit! ที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา
ว่าจะลองให้อาจารย์ บรรเจิด อาจารย์เจริญ อาจารย์อมร มาอ่านดู
ไอ้ความเห็นข้างบนนี่ขี้ฟ้องจัง
เลียตูดผู้ใหญ่ระวัง ขี้ติดลิ้นนะครับ
ผมจะบอกอะไรพวกคุณ โดยเฉพาะคุณกล้า
ผมเป็นคนไม่ชอบเล่นการเมือง และผมเป็นคนตรงๆ
ผมจะฟ้องผมก็ฟ้องตรงๆ ทั้งที่ผมไม่บอกก็ได้ว่าจะฟ้อง
ทั้งนี้เนื่องจาก มีไอ้หมาใน บล็อก บล็อก มันคาบข่าวไปบอก อ.วรเจตน์ ว่าผมวิจารณ์อาจารย์ จนผมต้องขึ้นไปเคลียร์กับแก แต่อ.วรเจตน์ท่านน่ารักพอที่จะฟังความบ้าของผม
ส่วน อ.วรเจตน์จะรู้ว่าผมวิจารณ์หรือไม่ ผมไม่กลัว แต่ผมรู้สึกอุบาทว์กับไอ้พวกใจหมาในบล็อกมากกว่า และในเมื่อมันใจหมาไม่เปิดเผยชื่อ ผมก็ขอเล่นเกมส์บ้าง เพราะหลักฐานมันชัดเจนว่ะ
ส่วนความเป็นพี่น้อง ผมขอคิดดูอีกที เพราะรู้สึกว่า นายนิติรัฐเนี่ยไม่มีความจริงใจในการคบหาสักเท่าไร ปล่อยให้ไอ้อิท 42 เด็กเมื่อวานซืนมาด่าผม โดยไม่ออกมาขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบ เมื่อน้องไม่ให้เกียรติปล่อยหมามาเห่าแบบเลอะเทอะ ผมก็ต้องทบทวนความสัมพันธ์เหมือนกัน
ส่วนที่คุณกล้า บอกว่าให้มาอ่านตอนก่อนๆ ผมบอกได้เลยว่า ความบ้าระห่ำของผม
ก็เกิดมาจาก ความบ้า การไร้ความเป็นสุภาพบุรุษของท่านนั่นแหละ จะให้ผมพูดอีกไหม ท่านจำได้ไหมตอนผมด่า ระบอบทักษิณเรียงตัว ใครวะมาปกป้องแบบไม่มีปัญญาพิเคราะห์ เมื่อท่านไม่ให้เกียรติ ด่าทอผมก่อนทั้งที่ตอนแรกผมตอบโต้ด้วยความสุภาพ ใยผมต้องให้เกียรติคนอ่อนด้อยเยี่ยงท่านด้วย
ผมบอกคุณกล้าให้นะ วันหลังจะด่าชาวบ้าน หัดแหกกบาลดูพฤติกรรมตัวเองโดย ไม่เช่นนั้น ผมจะกระโดดถอนหงอกให้หมดกบาล
ผมด่าศาลรัฐธรรมนูญที่ท่านทำงานอยู่ ท่านก็ออกมาปกป้องโดยที่ท่านก็รู้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญบางส่วนมันเลวชาติแค่ไหน
ผมด่าไอ้หมัก ท่านก็ปกป้อง ท่านรู้ไหมว่า ไอ้หมัก มันทำเลวกับชาติบ้านเมืองแค่ไหน
ท่านจำได้ไหม มีคนเคยบอกว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ส่ง ควายไปเรียน เห็นจะจริง
นอกจากนี้ การที่ผมจะฟ้องใครผมใช้ตัวเองฟ้องความคิดที่ว่า crazycloud เป็นใคร ผมว่าพี่กล้าคิดผ่านแว่นขี้ขลาดของท่านมากกว่ามั้ง
ส่วนความเห็นหลังจากผม ผมให้อภัยที่ด่าผมเลียขี้ เพราะ ถือว่าเป็นพวกโง่ไม่รู้เรื่อง แต่ชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน
สำหรับทุกท่าน ที่ผ่านมา ผมเขียนบล็อกด้วยความสุภาพ ตลอด แต่เมื่อมันมี ไอ้ควาย มันมาขวิดผมจุก
มีไอ้หมาขี้ฟ้อง มีไอ้พวกลิ้วล้อหน้าโง่ออกมาเห่าหอน จะผิดอะไรไหม ถ้าผม จะคว้ากระบอง คือ คำพูดแบบหยาบๆมาทุบหัวกบาล สัมพเวสีเหล่านี้ เล่น
ฮา ฮา ฮา
"- สำหรับผม ผมคนเลิกสนใจคุณ เพราะคุณไม่มีคุณค่าพอที่จะเสวนาด้วยอีกต่อไป"
ถูกต้องแล้วคร้าบบบ คุณบุญชิตฯ
เคยตบกะโหลกเตือนสติมันหลายหนแล้ว แต่ยังคงไร้ซึ่งการเปลี่ยนแปลง
เลิกตอแยกะมันน่ะดีแล้ว
เห็นเค้าพูดกันบ่อย จะลองใช้ดูบ้างเป็นไร
Saadtra disobedience
ตอบคุณกล้า ใช่ หากท่านต้องการเช่นนั้น
เพราะ คุณเคยทำหมากับผม แล้วมาปัจจุบันก็ยังหมาไม่เลิก
จำได้ไหม มาบอกในบล็อกว่าผมอมเงิน นั่นแหละ นั่นแหละ ทีเด็ดที่ทำเอาผมหน้าชา คุณเป็นใครวะผมอยากรู้เหมือนกัน หมาหรือคน ผมจำได้นะ
ส่วนประเด็น อ.วรเจตน์ ผมคิดว่า หมาแถวๆนี้แหละมันคาบไปบอก ส่วนผมลองขู่ดู กลัวกันอะดิ
ส่วนคุณจะสนใจผมหรือไม่ ผมไม่สนหรอก เพราะคนอย่างคุณ ผมพยายามช่วยให้รอดจากหลายครั้ง แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ เสือกมองไม่เห็นความปราถนาดีเอง อย่างงี้แหละ แล้วแต่คุณ ผมไม่ซีเรียส อย่าว่าแต่เสียไป ได้ใจจากคุณผมยังไม่เคยได้ จึงไม่มีอะไรต้องเสีย
สำหรับคุณกล้า ในฐานะใดก็ได้ ผมขอแนะนำให้คุณให้คุณนก ไปซื้อ แผ่นของ สุภัทรา อินทรภักดี นักร้องในวงดนู ชุดดอกซากุระบาน ส่งไปให้ จะเยี่ยมมาก แม้หากท่านมองผมเป็นศัตรู ก็ไม่เป็นไร นึกขึ้นได้ว่าชอบเพลงดนูเหมือนกัน เลยแนะนำ
ขอให้ทุกท่านไม่ว่าจะมองว่าผมเป็นเช่นไรจงมีความสุข
ส่วนผมสนุกสนานดี สุขบ้าง เหงาบ้าง และไร้รูปเช่นเดิม เพราะไร้แล้ว ไร้เลย
ชุดดอกซากุระของคุณสุภัทรา อินทรภักดี ออกมาตั้งแต่ปี 2547 แล้วครับ
บานจนโรยและบานใหม่ไปหลายรอบละ
ขนาดแนะนำยังมีแอบวางยาเลย คุณบุญชิตระวังนะครับ
เอ่อพี่ๆคับอย่างนักกฎหมายทุกคนทุกคนก็เป็นเนติบริกรหมดดิครับ
นักกฎหมายฝ่ายรัฐบาลก็คือเนติบริกร
นักกฎหมายฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลก็คือเนติบริกร
ศาลก็เป็นเนติบริกรไปแล้ว (ในสายตาของหมีพู)
แล้วlawfirm ที่ทำงานให้นักธุรกิจ,ทนายของคู่ความ 2 ฝ่าย,อัยการในฐานะทนายแผ่นดิน,นิติกรในส่วนราชการต่างๆ,อาจารย์ในมหาวิทยาลัย ก็เป็นเนติบริกรไปด้วยหรือป่าว?
เพราะแต่ล่ะก็ต้องทำงาน เพื่อที่ทำงานที่ตัวเองทำอยู่ทั้งนั้นนี่
ผมไม่ได้มาถามกวนตีนนะ คือผมอยากรู้ว่าท่านๆคิดยังไง
แล้วแบบไหนถึงจะไม่เป็นเนติบริกรล่ะคับ
ผมว่าเนติบริกร คือ คนที่ใช้เทคนิคทางกฎหมายเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตัวเองต้องการ โดยไม่ได้คำนึงถึง "ความมั่นคงของหลักกฎหมาย" หรือ "กระบวนการโดยชอบด้วยกฎหมาย" แต่อย่างใด
ความจริงแล้วศาลคงไม่ใช่ เนติบริกร ของกษัตริย์ นะผมว่า
แต่ที่ในหลวง ทรงมีพระราชดำรัส นั่นเป็นการตีความกฎหมายระดับรัฐธรรมนูญที่สำคัญครั้งหนึ่งของไทยทีเดียว
ฐานะสถาบันที่สำคัญอย่างยิ่งในรัฐธรรมนูญ
และด้วยพระบารมี แน่นอนว่าทุกฝ่ายต้องสดับตรับฟัง
ผมว่า พระราชดำรัสของพระองค์ นี่เองถือเป็นการหยุดยั้งการกระทำและผลร้ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากผลงานของพวกเนติบริกรของทั้งสองฝ่าย
แฟนคุณดนู นี่ใจร้ายจังเลยครับ
ผมอาจจะช้าที่ไปค้นเจอ ผมก็แนะนำตามประสาซื่อ อะไรจะระแวงกันขนาดนั้น
คนพูดจาไม่หวานหู ไม่มีอะไรหรอกครับ
คนส่วนใหญ่หมดตัว หมดใจ ก็เพราะปากหวาน
ยังไงก็ดีใจที่ได้เจอคอเดียวกันเพิ่มขึ้นอีกคน
ขอใช้สิทธิพาดพิงเล็กน้อย
ผม ชื่นชมและนับถือ คุณ ศาสตรา โตอ่อน เพราะนับถือในความกล้าและความเสียสละของเขาในการต่อสู้อย่างตรงๆกับระบอบทักษิณที่ทรงอิทธิพลสูงในยุคสมัยที่เผด็จการทหารปลาสานาการไป ในขณะที่คนอื่นที่ชิงชังระบอบทักษิณต่างพากันเป็นอีแอบและรอเสวยสุขจากประโยชน์ที่คุณศาตราและพวกสร้างไว้... หรือถึงที่สุดแล้ว ผมนับถือหัวใจของเขาที่หาญกล้าสู้กับระบอบทักษิณ ทั้งๆที่ต้นทุนส่วนตัวทางสังคมน้อยมาก
คุณศาสตราไม่ใช่อาจารย์ คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่ใช่ลูกผู้ลากมากดีที่ไหน และสิ่งที่คุณศาตราเชื่อและกระทำล้วนแต่ตอบสนองอุดมการณ์ส่วนตนที่สูงไปกว่าเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว
คนแบบนี้ ต่างหากที่ผมให้คุณค่าและยกย่อง ผมไม่สนใจภาษาที่มีคนบอกว่าหยาบคาย จะสุภาพหรือหยาบคายผมมองลึกไปที่วิญญาณของภาษาที่ซ่อนไว้ ผมไม่สนใจที่มีคนบอกว่างานของคุณศาสตราไม่มีตรรกะทางวิชาการทื่ลึกซึ้งพอ ในง่หลังนี้ ผมสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ผมบริภาษนักวิชาการชั้นนำโดยเฉพาะสายเศรษฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยไทย ที่ดัดจริตทำตัวสูงส่งกว่าสังคมศาสตร์สายอื่นๆแต่ปราศจากมาตรฐานทางวิชาการไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานในระดับสากล หรือมาตรฐานทางวิชาการที่ควรจะเป็นในประเทศไทย แต่ยังบังอาจแอบอ้างมาตรฐานทางวิชาการไปพิพากษาคนอื่น
ผมนับถือในหัวใจของคุณศาสตรา ที่ขนาดของหัวใจใหญ่กว่าหลายคนนัก และผมเองไม่ค่อยเห็นคนรุ่นเดียวกันที่ใจนักเลงและใจนักสู้อย่างนี้มานานแล้ว เมื่อพบเห็น หัวใจผม อดคารวะไม่ได้
ผมสัมผัสได้ว่าหัวใจคุณศาสตราปวดร้าวแค่ไหนที่รุ่นพี่ มิตรสหาย และน้องรักต่างพากันปฏิเสธและดูแคลนตลอดจนวิพากษ์การอุทิศตัวและวิญญาณไปสู้กับระบอบทักษิณ บางท่านมาในโฉมนิรนาม จองล้างจองผลาญ คุณศาสตราด้วยประเด็นหยุมหยิม
แม้ว่าผมจะสนับสนุนนโยบายทางเศรษฐกิจของพรรคไทยรักไทยก็ตาม แต่เมื่อพบผู้ที่ควรค่าแก่การนับถือ ผมออกปากแสดงความนับถืออย่างตรงๆ คนแบบนี้ได้เป็นเพื่อนถือว่าโชคดี ได้เป็นศัตรูถือว่าคู่ควร
โปรดอ่าน ความคิดล่าสุดของผมเกี่ยวกับระบอบทักษิณได้ที่
http://www.fringer.org/?p=105
และหลังจากนี้ ผมตัดสินใจถอนตัวจากการแสดงความเห็นเชิงสังคมและการเมืองแล้ว
ขออภัยหากผมเขียนชื่อ คุณ ศาสตรา โตอ่อน ผิด เนื่องจากข้อจำกัดในแสดงผลหน้าจอของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผมใช้งาน
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ผมเสนอให้ อ. ปึ๋ง ลบ comment ที่ไม่สร้างสรรค์ของ anonymous นะครับ
รวมทั้ง comment อื่นๆ (ของผมด้วยก็ไม่เป็นไร) ด้วย ตามแต่คุณจะเห็นสมควร ไม่อยากให้เนื้อหาทางวิชาการที่มีคุณภาพของคุณต้องมาด่างพล้อยเพราะ comment ที่ไม่มีสาระแบบนี้น่ะครับ
ความเห็นด้านบน ก่อนถึงความเห็นของศรัทธา
ผมขอลบทิ้งนะครับ
เพราะหยาบไปนิด เกรงว่าผู้ถูกพาดพิงจะ "พาล" มาหาว่าผมเป็นคนทำ
เพราะเห็น "พาล" ไปเรื่อย ว่าผมใช้สาวกมาด่าเขา
ผมเสียใจเป็นที่สุดที่คน "เคย" รู้จัก และ สนทนาด้วยกันหลายครั้ง กลับคิดว่าผมทำแบบนี้
ขอแสดงความเสียใจกับ อ. ปึ๋ง ด้วยเช่นกันครับ
คนเราก็ไม่ใช่ว่าใครอื่นไกล รู้จักกันมาแต่ไหนแต่ไร เรื่องแบบนี้ถ้ายังจะมากล่าวหากัน มันก็ดูไม่ค่อยมีเหตุผล
นี่แหละครับ คือเหตุผลที่ผมต้องขอให้ อ. ปึ๋ง ลบ comment ทิ้งบ้าง
ไม่ลบอาจจะถูกพาลได้
www0815
adidas superstars
dsquared2
nike chaussure femme
dsquared
hermes belts
soccer boots
nike huarache femme
oakley sunglasses wholesale
nike air max 90
ugg boots clearance
hermes handbags
nike air max 2019
supreme outlet
cheap jordans
yeezy boost
adidas superstars
michael kors
balenciaga speed
coach handbags
nike air max 95
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก