เก็บมาฝาก
ก่อนเริ่มปั่นวิทยานิพนธ์วันนี้ ขอแว้บมาอัพเดทบล็อกเสียหน่อย
ไปอ่านเจอเรื่องน่าสนใจ เก็บมาฝากกัน ๓ เรื่อง
เรื่องแรก
เป็นกิจวัตรหลังตื่นนอน ผมต้องกินกาแฟ กับอ่านหนังสือพิมพ์ Le Monde ผ่านทางเน็ต เจอข่าวน่าสนใจ
วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๐๐๗ ศาลแขวงเมืองมงต์เปลลิเยร์พิพากษาลงโทษปรับนายจอร์จ เฟรช เป็นเงิน ๑๕,๐๐๐ ยูโร พร้อมสั่งให้นายเฟรชพิมพ์เผยแพร่คำพิพากษานี้ผ่านหนังสือพิมพ์ ๖ ฉบับ
กล่าวสำหรับนายเฟรชผู้นี้ เป็นประธานแคว้น ลองเกด็อก รูซิลยง (แคว้นนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส มีมงต์เปลลิเยร์เป็นเมืองหลวงประจำแคว้น ตำแหน่งประธานแคว้น ก็คือ ผู้บริหารสูงสุดในแคว้นนั้น) สังกัดพรรคสังคมนิยม
ความเดิมเริ่มจาก เมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๖ มีพิธีสดุดีเกียรติยศให้แก่อดีตโฆษกของประชาคม Pied-Noir ที่เมืองมงต์เปลลิเยร์ (พวก Pied-Noir หมายถึง ชาวฝรั่งเศสที่เกิดในแอลจีเรีย ในสมัยที่แอลจีเรียยังเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศส Pied-Noir ผู้มีชื่อเสียง ก็เช่น อัลแบร์ กามูส์ นักเขียน, ปาทริค บรูแอล นักร้อง)
ปรากฏว่ากลุ่ม Harki (หมายถึง คนแอลจีเรียที่เข้าร่วมกับกองทัพฝรั่งเศสเพื่อไปรบกับแอลจีเรีย ถ้าใครได้ดูหนังเรื่อง Indigène ที่นักแสดงนำชายสามคนได้รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองกานส์ คงจะพอทราบ) ได้เข่าร่วมพิธีดังกล่าวด้วย
บังเอิญว่าพิธีนี้จัดขึ้นโดยสมาชิกพรรค UMP พรรครัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งเป็นพรรคมรดกตกทอดมาจากระบอบชาร์ล เดอโกลล์
เป็นชาร์ล เดอโกลล์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสในสมัยนั้นที่มีนโยบายแข็งกร้าวกับแอลจีเรีย ไม่เต็มใจปล่อยให้แอลจีเรียเป็นเอกราช
นายเฟรชก็เลยบันดาลโทสะ บริภาษด่าพวก Harki เสียเละเทะว่า “พวกคุณมาร่วมงานกับพวก Pied-Noir ได้ยังไง งานนี้จัดโดยพวกโกลลิสต์ พวกนี้มันส่งคุณไปตายในสงครามกับแอลจีเรีย เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกมันในแอลจีเรีย แล้วพวกคุณยังมาเลียร้องเท้ามันอีก พวกคุณเป็นทาส (Sous-hommes) ไม่มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลย”
คำบริภาษรุนแรงของเฟรชทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต กลุ่ม Harki ฟ้องศาลว่านายเฟรชหมิ่นประมาทพวกตน
ด้านนายเฟรชอ้างว่า ตนไม่ได้เหมารวมกลุ่ม Harki ทั้งหมด แต่หมายถึง Harki เป็นคนๆไปที่ไปร่วมพิธีกับพวก Pied-Noir และพรรค UMP เฟรชยืนยันว่าเขายังคงสนับสนุนกลุ่ม Harki อยู่เสมอ แต่ที่พูดไปก็เพราะความโกรธ
เฟรชคงคิดว่า ก็ในเมื่อพวกโกลลิสต์ ทำเรื่องโหดร้ายกับ Harki ส่งพวก Harki ซึ่งเป็นคนแอลจีเรีย ไปรบกับคนแอลจีเรียเอง ในสงครามนั้น พวก Harki ตายไปเกือบแสนคน ไฉนดันไปร่วมพิธีกับพวกโกลลิสต์ได้อีก
นอกจากคดีนี้แล้ว เฟรชยังไปปากหมาผิดที่ผิดทางอีกครั้งด้วยการบ่นทีมฟุตบอลฝรั่งเศส
วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ก่อนฝรั่งเศสจะเตะยูโรรอบคัดเลือกกับสก็อตแลนด์ เฟรชกล่าวว่า ทีมฝรั่งเศสมีแต่นักเตะผิวดำ ฉายา เลส เบลอส์ (สีน้ำเงิน) น่าจะเปลี่ยนเป็น เลส นัวร์ (สีดำ)
น่าแปลกใจไม่น้อย เฟรชซึ่งสังกัดพรรคสังคมนิยม ฝ่ายซ้าย แต่ทำไมดันมามีรสนิยมเหยียดหยามเชื้อชาติ สีผิว เช่นนี้
คณะกรรมการสอบสวนของพรรคสังคมนิยมบอกว่า คำพูดและการกระทำของเฟรชหลายต่อหลายครั้ง ขัดกับอุดมการณ์พื้นฐานของพรรคอย่างร้ายแรง
พรรคสังคมนิยมจึงมีมติเมื่อสักครู่นี้เอง ให้เฟรชพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค
เฟรชยืนยันว่าแม้เขาจะพ้นจากสมาชิกพรรค แต่เขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่งประธานแคว้น เพราะตำแหน่งนี้ประชาชนในแคว้นเลือกเขามา ไม่ใช่สมาชิกพรรค
จะว่าไป ที่ฝรั่งเศสก็มีประเด็นอ่อนไหวที่ห้ามแสดงออกในที่สาธารณะเหมือนๆกับเมืองไทย (บ้านเราคงเป็นเรื่องกษัตริย์ที่พูดออกอากาศไม่ได้)
เท่าที่ผมสังเกตดูก็มีเรื่องการเหยียดสีผิว เชื้อชาติ ศาสนา หรือเรื่องการยกย่องหรือพูดในทำนองว่าพวกนาซีไม่ผิด (เมื่อสองปีก่อนก็มีคดีของนายบรูโน่ กอลนิช ศาสตราจารย์กฎหมายมหาวิทยาลัยลียง ๓ และรองหัวหน้าพรรค ขวาจัด ที่ไปยกย่องพวกนาซีเข้า เลยโดนนักศึกษาประท้วง เป็นเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นปิดมหาวิทยาลัยและให้นายกอลนิชพักการสอนทีเดียว)
น่าคิดว่า แล้วความเสมอภาคในเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา สีผิว จะไปขัดกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือไม่? เกิดมีใครต้องการแสดงความเห็นโดยสุจริตใจวิจารณ์ศาสนาใดศาสนาหนึ่ง หรือแสดงหลักฐานใหม่เพื่อสนับสนุนนาซี จะทำได้มากน้อยเพียงใด?
เรื่องที่สอง
มีข่าวจาก asia sentinel มาฝากกัน
Long Live the King!
http://www.asiasentinel.com/index.php?option=com_content&task=view&id=353&Itemid=31
เรื่องที่สาม
บทความของ ส.ศิวรักษ์
จากเว็บไซต์ http://www.sulak-sivaraksa.org
เรื่อง ข้อคิดความเห็นเกี่ยวกับวชิรสมโภชสิริราชสมบัติ
http://www.sulak-sivaraksa.org/th/index.php?option=com_content&task=view&id=229&Itemid=3
นอกจากเรื่องนี้ยังมีเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจอีก ลองค้นๆหาดูได้
ไปอ่านเจอเรื่องน่าสนใจ เก็บมาฝากกัน ๓ เรื่อง
เรื่องแรก
เป็นกิจวัตรหลังตื่นนอน ผมต้องกินกาแฟ กับอ่านหนังสือพิมพ์ Le Monde ผ่านทางเน็ต เจอข่าวน่าสนใจ
วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๐๐๗ ศาลแขวงเมืองมงต์เปลลิเยร์พิพากษาลงโทษปรับนายจอร์จ เฟรช เป็นเงิน ๑๕,๐๐๐ ยูโร พร้อมสั่งให้นายเฟรชพิมพ์เผยแพร่คำพิพากษานี้ผ่านหนังสือพิมพ์ ๖ ฉบับ
กล่าวสำหรับนายเฟรชผู้นี้ เป็นประธานแคว้น ลองเกด็อก รูซิลยง (แคว้นนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส มีมงต์เปลลิเยร์เป็นเมืองหลวงประจำแคว้น ตำแหน่งประธานแคว้น ก็คือ ผู้บริหารสูงสุดในแคว้นนั้น) สังกัดพรรคสังคมนิยม
ความเดิมเริ่มจาก เมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๖ มีพิธีสดุดีเกียรติยศให้แก่อดีตโฆษกของประชาคม Pied-Noir ที่เมืองมงต์เปลลิเยร์ (พวก Pied-Noir หมายถึง ชาวฝรั่งเศสที่เกิดในแอลจีเรีย ในสมัยที่แอลจีเรียยังเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศส Pied-Noir ผู้มีชื่อเสียง ก็เช่น อัลแบร์ กามูส์ นักเขียน, ปาทริค บรูแอล นักร้อง)
ปรากฏว่ากลุ่ม Harki (หมายถึง คนแอลจีเรียที่เข้าร่วมกับกองทัพฝรั่งเศสเพื่อไปรบกับแอลจีเรีย ถ้าใครได้ดูหนังเรื่อง Indigène ที่นักแสดงนำชายสามคนได้รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองกานส์ คงจะพอทราบ) ได้เข่าร่วมพิธีดังกล่าวด้วย
บังเอิญว่าพิธีนี้จัดขึ้นโดยสมาชิกพรรค UMP พรรครัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งเป็นพรรคมรดกตกทอดมาจากระบอบชาร์ล เดอโกลล์
เป็นชาร์ล เดอโกลล์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสในสมัยนั้นที่มีนโยบายแข็งกร้าวกับแอลจีเรีย ไม่เต็มใจปล่อยให้แอลจีเรียเป็นเอกราช
นายเฟรชก็เลยบันดาลโทสะ บริภาษด่าพวก Harki เสียเละเทะว่า “พวกคุณมาร่วมงานกับพวก Pied-Noir ได้ยังไง งานนี้จัดโดยพวกโกลลิสต์ พวกนี้มันส่งคุณไปตายในสงครามกับแอลจีเรีย เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกมันในแอลจีเรีย แล้วพวกคุณยังมาเลียร้องเท้ามันอีก พวกคุณเป็นทาส (Sous-hommes) ไม่มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลย”
คำบริภาษรุนแรงของเฟรชทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต กลุ่ม Harki ฟ้องศาลว่านายเฟรชหมิ่นประมาทพวกตน
ด้านนายเฟรชอ้างว่า ตนไม่ได้เหมารวมกลุ่ม Harki ทั้งหมด แต่หมายถึง Harki เป็นคนๆไปที่ไปร่วมพิธีกับพวก Pied-Noir และพรรค UMP เฟรชยืนยันว่าเขายังคงสนับสนุนกลุ่ม Harki อยู่เสมอ แต่ที่พูดไปก็เพราะความโกรธ
เฟรชคงคิดว่า ก็ในเมื่อพวกโกลลิสต์ ทำเรื่องโหดร้ายกับ Harki ส่งพวก Harki ซึ่งเป็นคนแอลจีเรีย ไปรบกับคนแอลจีเรียเอง ในสงครามนั้น พวก Harki ตายไปเกือบแสนคน ไฉนดันไปร่วมพิธีกับพวกโกลลิสต์ได้อีก
นอกจากคดีนี้แล้ว เฟรชยังไปปากหมาผิดที่ผิดทางอีกครั้งด้วยการบ่นทีมฟุตบอลฝรั่งเศส
วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ก่อนฝรั่งเศสจะเตะยูโรรอบคัดเลือกกับสก็อตแลนด์ เฟรชกล่าวว่า ทีมฝรั่งเศสมีแต่นักเตะผิวดำ ฉายา เลส เบลอส์ (สีน้ำเงิน) น่าจะเปลี่ยนเป็น เลส นัวร์ (สีดำ)
น่าแปลกใจไม่น้อย เฟรชซึ่งสังกัดพรรคสังคมนิยม ฝ่ายซ้าย แต่ทำไมดันมามีรสนิยมเหยียดหยามเชื้อชาติ สีผิว เช่นนี้
คณะกรรมการสอบสวนของพรรคสังคมนิยมบอกว่า คำพูดและการกระทำของเฟรชหลายต่อหลายครั้ง ขัดกับอุดมการณ์พื้นฐานของพรรคอย่างร้ายแรง
พรรคสังคมนิยมจึงมีมติเมื่อสักครู่นี้เอง ให้เฟรชพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค
เฟรชยืนยันว่าแม้เขาจะพ้นจากสมาชิกพรรค แต่เขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่งประธานแคว้น เพราะตำแหน่งนี้ประชาชนในแคว้นเลือกเขามา ไม่ใช่สมาชิกพรรค
จะว่าไป ที่ฝรั่งเศสก็มีประเด็นอ่อนไหวที่ห้ามแสดงออกในที่สาธารณะเหมือนๆกับเมืองไทย (บ้านเราคงเป็นเรื่องกษัตริย์ที่พูดออกอากาศไม่ได้)
เท่าที่ผมสังเกตดูก็มีเรื่องการเหยียดสีผิว เชื้อชาติ ศาสนา หรือเรื่องการยกย่องหรือพูดในทำนองว่าพวกนาซีไม่ผิด (เมื่อสองปีก่อนก็มีคดีของนายบรูโน่ กอลนิช ศาสตราจารย์กฎหมายมหาวิทยาลัยลียง ๓ และรองหัวหน้าพรรค ขวาจัด ที่ไปยกย่องพวกนาซีเข้า เลยโดนนักศึกษาประท้วง เป็นเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นปิดมหาวิทยาลัยและให้นายกอลนิชพักการสอนทีเดียว)
น่าคิดว่า แล้วความเสมอภาคในเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา สีผิว จะไปขัดกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือไม่? เกิดมีใครต้องการแสดงความเห็นโดยสุจริตใจวิจารณ์ศาสนาใดศาสนาหนึ่ง หรือแสดงหลักฐานใหม่เพื่อสนับสนุนนาซี จะทำได้มากน้อยเพียงใด?
เรื่องที่สอง
มีข่าวจาก asia sentinel มาฝากกัน
Long Live the King!
http://www.asiasentinel.com/index.php?option=com_content&task=view&id=353&Itemid=31
เรื่องที่สาม
บทความของ ส.ศิวรักษ์
จากเว็บไซต์ http://www.sulak-sivaraksa.org
เรื่อง ข้อคิดความเห็นเกี่ยวกับวชิรสมโภชสิริราชสมบัติ
http://www.sulak-sivaraksa.org/th/index.php?option=com_content&task=view&id=229&Itemid=3
นอกจากเรื่องนี้ยังมีเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจอีก ลองค้นๆหาดูได้