หลายคนดีใจกับรัฐประหารครั้งนี้
หลายคนปากบอกไม่เห็นด้วย แต่ในใจกลับลิงโลด (พวกนี้นับว่าน่าเกลียดกว่าพวกแรก)
คนเหล่านี้นำประเด็นรัฐประหารไปผูกกับทักษิณ จึงนำมาซึ่งความยินดีปรีดากับรัฐประหารที่ทำให้ "ทักษิณ... ออกไป"
ผมเห็นว่าเป็นคนละเรื่องไม่ว่าจะรัฐประหารใครก็ตาม เมื่อเป็นรัฐประหารที่กระทำต่อระบอบประชาธิปไตย กระทำต่อรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย กระทำต่อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เราก็ควรลุกขึ้นต่อต้านทั้งสิ้น
ดังนั้น ผมจึงไม่เห็นความจำเป็นที่เราต้องประกาศว่า "เราไม่เอาทักษิณ" พร้อมกับบอกว่า "เราไม่เอารัฐประหาร"ไม่จำเป็นเลยที่ต้องออกตัวก่อนว่าเราไม่เอาทักษิณ เพื่อให้ภาพลักษณ์ออกมาดูดี
เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลทำนองว่า "มันเกิดขึ้นมาแล้ว เรามาทำต่อให้ดีเถอะ" ในเมื่อรัฐประหารไม่ถูกต้อง แล้วเหตุใดจำต้องยอมรับความไม่ถูกต้องด้วยเล่า (ต้องไม่ลืมว่าเวลาที่ทักษิณทำอะไรมากมายที่ไม่ถูกต้อง ยังออกมาต่อต้านกันอย่างกว้างขวาง)
น่าแปลกใจมากที่ผู้มีปัญญาหลายคน ภาคประชาชน กล้าหาญที่จะยืนท้าทายต่อทักษิณ แต่กับรัฐประหารที่ไม่ได้มาตามครรลองประชาธิปไตย และมีที่มาที่อัปลักษณ์กว่าทักษิณยิ่งนัก กลับไม่พบเห็นผู้มีปัญญาและโด่งดังออกมาต่อสู้
แม้หลายคนจะไว้วางใจในตัวหัวหน้าคณะรัฐประหาร เพราะเป็นทหารอาชีพ ไม่มีแรงทะเยอทะยานทางการเมือง สำหรับผม หัวหน้าคณะรัฐประหารล้มละลายไปแล้ว เพราะยืนยันมาตลอดว่าไม่มีรัฐประหาร ทหารอยู่ในแถว ทหารไม่ยุ่งการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพึ่งให้สัมภาษณ์เมื่อ ๑๓ กย ว่าไม่มีรัฐประหารแน่นอน
เพียงเท่านี้ เขาก็ไม่มีความน่าเชื่อถืออีกต่อไป หากบอกว่าเป็นความจำเป็นตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป แล้วเราจะไว้ใจได้อย่างไร วันข้างหน้าเขาอาจจะอ้างความจำเป็นเพื่อกระทำการคุกคามประชาธิปไตยอีก
เหตุผลของพวกปฏิบัตินิยมที่เห็นว่าแม้รัฐประหารไม่ถูกต้อง แต่ก็ทำให้โล่งอกและกำจัดทักษิณออกไปได้ ผมเห็นว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า ไม่จริงเสมอไปที่รัฐประหารแล้วจะทำให้เราไม่มี "ทักษิณ" หรือ "คนแบบทักษิณ" บนเวทีการเมืองไทย
หากถามว่าไม่เอารัฐประหารแล้วจะเอาอะไร จะให้นองเลือดหรือเรารู้ได้อย่างไรว่าหากไม่มีรัฐประหาร แล้วจะนองเลือด หากคณะรัฐประหารเชื่ออย่างนั้น ทำไม่ไม่ไปดูแลไม่ให้นองเลือดแทน ทำไมต้องรัฐประหาร หรือว่ามีความพยายามจะทำให้มีนองเลือด
ก็ในเมื่อจะมีเลือกตั้งอยู่แล้ว ทำไมไม่ใช้ช่องทางเลือกตั้งกำจัดทักษิณ หากบอกว่าเลือกไปทักษิณก็ชนะอีก นั่นแสดงว่าไร้น้ำยาที่จะจัดการทักษิณและยังไม่ให้ราคากับคะแนนเสียงของประชาชน เหมือนเล่นหมากรุกแล้วแพ้ ก็ล้มกระดาน
พวกที่เหมาไปให้ทักษิณ ทำนองว่า "เป็นทักษิณนี่แหละที่ทำลายประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ" หรือ "เป็นทักษิณนี่แหละที่พาการเมืองมาถึงทางตันแบบนี้" ผมเห็นว่าเป็นเหตุผลตื้นๆ เพื่อโยนขี้ให้ทักษิณเท่านั้น
หากเห็นว่า "ทักษิณ" ข่มขืนประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ แล้วเราจะยอมให้ "คณะรัฐประหาร" มาข่มขืนซ้ำ อย่างนั้นหรือ?
ถึงอย่างไร ดีๆชั่วๆ สมัยทักษิณ เราก็ด่าได้อย่างเต็มปาก แต่กับคณะรัฐประหาร ผมยอมรับว่ากลัว
ภายใต้รัฐประหารที่สงบ สงบจนหลายคนบอกว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี เป็นความงดงาม ผมกลับมองว่ายิ่งอันตราย หมายความว่าสังคมไทยยินดีปรีดา เพิกเฉย ไม่อนาทรร้อนใจต่อรัฐประหารอีกแล้ว สังคมไทยพร้อมจะยอมรับวิธีการใดก็ได้เพื่อจัดการความขัดแย้ง
รัฐประหารครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า แม้จะผ่าน ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ มา ๗๔ ปี ประเทศไทยก็ยังไม่เคยเป็นของประชาชน หากเป็นของคนที่พร้อมจะกดปุ่ม คนที่พร้อมจะตบเท้า คนที่พร้อมจะขนอาวุธออมา
บางทีประชาธิปไตยแบบ "ไทยๆ" ที่เรียกกัน อาจหมายความว่า "อภิชนาธิปไตย" ก็เป็นได้
พึงระวังไว้เสมอว่า เมื่อโจรอยู่ในบ้าน เจ้าของบ้านจ้างโจรมาปราบ ก็ย่อมได้โจรอีกคนกลับมาอยู่ในบ้านอยู่ดี
หมายเหตุ ผมพยายามไม่เรียกชื่อเต็มของคณะรัฐประหาร ๑๙ กันยา เพราะชื่อกับการกระทำไม่สอดคล้องกัน เมื่อรัฐประหาร "ไม่มีทาง" ที่จะเป็นประชาธิปไตย แล้วจะให้เรียกชื่อคณะรัฐประหารไปในทำนองว่าเป็น "ประชาธิปไตย" ได้อย่างไร