วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 26, 2549

ความยอกย้อนทางประวัติศาสตร์หรือความไร้เดียงสากันแน่

ไม่น่าเชื่อ ณ พ.ศ. นี้ เราจะได้ยินเพลงคนกับควาย เพลงแสงดาวแห่งศรัทธา บนเวทีชุมนุมที่ต้องการนายกฯพระราชทาน

ไม่น่าเชื่อ ณ พ.ศ. นี้ เราจะได้ยินเพลง "เราสู้" พร้อมกับเพลง "ถั่งโถมโหมแรงไฟ"

ไม่น่าเชื่อ ณ พ.ศ. นี้ เราจะได้เห็นภาคประชาชนไปเข้าร่วมกับขบวนการถวายพระราชอำนาจ

ไม่น่าเชื่อ ณ พ.ศ. นี้ เราจะได้เห็นกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อ "ประชาธิปไตย" แต่เป็นประชาธิปไตยแบบต้องการนายกฯมาจากการพระราชทาน

นี่เป็นความยอกย้อน ความสับสน หรือเป็นการจงใจละเลยไม่สนใจประวัติศาสตร์ เป็นความไร้เดียงสากันแน่

วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 25, 2549

ระวัง... ย้อนรอย ถอยหลังเข้าคลอง

ข่าวล่าสุด แนวร่วมโค่นทักษิณยังยืนยันจะชุมนุมต่อไปแบบไม่ชนะไม่เลิก
ฝ่ายค้านอาจจะร่วมกันไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง
มีกระแสรณรงค์ให้ประชาชนคว่ำบาตรไม่ไปเลือกตั้ง

แน่นอนที่สุดคนอย่างทักษิณไม่เคยยอมแพ้ ไม่ยอมลาออก
แนวร่วมโค่นทักษิณก็เดินหน้าต่อไม่หยุดยั้ง
ฝ่ายค้านผสมโรงไม่ส่งคนลงสมัครอีก

เมื่อหาทางออกไม่ได้ ผ่าทางตันไม่ได้
เกรงว่าจะเกิดเงื่อนตายปมใหม่

เมื่อนั้น เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทยบ่อยครั้งคงย้อนกลับมาให้เห็นกันอีก

ทักษิณลาออกตามคำร้องขอของ "ใครบางคน"
ล้มรัฐธรรมนูญ
ตั้งนายกรัฐมนตรีพระราชทาน
ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
ร่างรัฐธรรมนูญใหม่
จัดการเลือกตั้งใหม่
ทักษิณสูญพันธุ์จากการเมืองไทย พรรคไทยรักไทยถึงกาลอวสาน


แล้วเราจะทำอย่างไรดี?

ครั้นตอนนี้ทักษิณจะกลับลำแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อปฏิรูปการเมืองรอบที่สองก็สายเกินไป เพราะไม่มีสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

เพื่อให้ระบอบประชาธิปไตยไทยเดินหน้าต่อไป ไม่ถอยหลังลงคลอง

วิงวอนขอให้ทักษิณผ่าทางตัน ด้วยการให้สัตยาบันว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา ๓๑๓ เพื่อสร้างกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่โดยตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และให้ประชาชนลงประชามติ จากนั้นทั้งฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านก็เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง เมื่อได้สภาฯใหม่ก็เริ่มกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปฏิรูปการเมืองรอบที่สองทันที

จริงอยู่ ในทางการเมือง เราพบเห็นการฉีกสัตยาบันอยู่เสมอ

แต่ผมเชื่อว่าทักษิณคงไม่กล้าเบี้ยว ถ้าทักษิณเบี้ยวอีก เราก็เริ่มชุมนุมกันใหม่ และงานนี้ทักษิณคงจะไม่รอด

ทางออกนี้น่าจะสวยงามและสง่างามกับทักษิณ ทำให้ทักษิณมีที่ยืนในสังคมไทยได้
และยังรักษาระบอบประชาธิปไตยให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างไม่สะดุด

มิฉะนั้น กงล้อประวัติศาสตร์การเมืองไทยก็จะหมุนย้อนซ้ำรอยเดิม
เด็ดหัวนายกรัฐมนตรี ... นายกรัฐมนตรีพระราชทาน ... รัฐธรรมนูญใหม่ ... เลือกตั้งใหม่ ... ไม่พอใจนายกรัฐมนตรี ...เด็ดหัวนายกรัฐมนตรี ... เรียกร้อง “อำนาจพิเศษ” เพื่อโค่นนายกรัฐมนตรีและตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่

วนไปวนมาอยู่อย่างนี้

ผมอยากให้สังคมไทยเติบโตด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพา “ผู้ใหญ่” อยู่ร่ำไป

ทั้งสามฝ่าย ถอยกันคนละก้าวเถอะครับ

วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 20, 2549

สอยมันลงมา!!!

สอยมันลงมา

มีคนบางคน ไปทำไม่ดี
เพื่อให้ถึงดวงดาวจุดหมายที่ใฝ่ฝันไว้
มีคนบางคน พอไปได้ดี
หลงลืมตัวความชั่วเลวร้ายเริ่มออกอาการ
มีคนบางคน สันดานไม่ดี
ทำอะไรที่ไหนกับใครเมื่อไหร่บรรลัย
พลเมืองดี มีอุดมการณ์
ใครไม่ดีต้องคอยขัดขวางช่วยกันทำลาย

ดาวยังรู้ร่วงตก นกยังหล่นจากฟ้า
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีสิทธิถูกสอยลงมา
เตรียมตัวเอาไว้

สอยมันลงมาไหม สอยมันลงมา
สอยมันลงมาไหม สอยมันลงมา

มีคนบางคน ทำแต่ความดี
จนเด่นดังร่ำรวยได้สมใจใฝ่ฝันไว้
มีคนบางคน ไปได้ดิบดี
ไม่เคยหลงลืมตัวความดีทุกอย่างคงเดิม
มีคนบางคน คนสันดานดี ทำอะไรที่ไหนกับใครเมื่อไหร่เจริญ
พลเมืองดี ทนดูไม่ไหว
ใครได้ดีกว่าตนอิจฉาต้องบ่อนทำลาย

...............

เพลงนี้แต่งคำร้อง ทำนองโดย น้าโป่ง หินเหล็กไฟ เรียบเรียงโดย น้าโต หินเหล็กไฟ เห็นว่าเข้ากับบรรยากาศ "ท้ากกกกกก ษิณ ...ออกไป" เลยเอาเนื้อเพลงมาให้ดูกัน ใครอยากฟังก็ลองเข้าไปที่เว็บไซต์ของวงหินเหล็กไฟได้ที่ http://www.stonemetalfire.com

ฝากถึงสาวกหินเหล็กไฟทุกท่าน ๙ มีนาคมนี้ หินเหล็กไฟจะออกอัลบั้มที่ ๔ เป็นการนำเพลงเก่า ๑๑ เพลงมาร้องใหม่ในสไตล์อคูสติก และมีเพลงใหม่อีก ๒ เพลง

เพลงเก่าทั้ง ๑๑ เพลง ได้แก่ นางแมว, ยอม, เพื่อเธอ, พลังรัก, ก่อนจะสาย, สองคน, สู้, หลงกล, คิดไปเอง, ศรัทธา, สัญญา
ส่วนเพลงใหม่อีก ๒ เพลง คือ ดีดี , อภัย

จะว่าไปงานนี้อาร์เอสไม่โปรโมทเลย ในฐานะที่อาร์เอสเป็นบริษัทแม่ของ เรียล ชัวร์ ค่ายของหินเหล็กไฟ ก็น่าจะลงแรงโปรโมทกันหน่อย ชุดก่อนที่ออกกลางปีที่แล้ว ก็เงียบ ไม่โปรโมท เชียร์แต่เกิร์ลลี่ เบอรี่, ฟิล์ม, ดีทูบี, โฟร์ มด เซ็งจัง

อยากให้หินเหล็กไฟยกพลออกไปทำเองซะเลย

ยังไงใครเป็นสาวก SMF อย่าพลาดนะครับ ๙ มี.ค. วางแผงทั่วประเทศ

วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 13, 2549

ไปตามหาพระจันทร์กันไหมครับ

สวัสดีซ้ำซ้ำกันอีกซักครั้ง
เก็บความเหงามาคืนเธอก่อนจะไป
ไม่อยากพกมันเลย ไม่อยากเก็บไว้
ฉันให้เธอเก็บไปแล้วกัน

* จะไม่มาหาแล้ว ไม่บอกคิดถึง
ไม่เก็บฟ้าหาดาวมาใส่แจกัน
ไม่มีฉันคนเดิม ไม่มีอีกทั้งนั้น
โลกใบเก่ามันเก่าเหลือเกิน

**แค่จะมาบอกเธอ ว่าฉันจะไปให้ถึงพระจันทร์
แค่จะมาบอกกัน ถ้าเธออยากไปก็ตามฉันมา
สุดถนนที่ปลายขอบฟ้า
อยากเห็นว่าเธอยืนอยู่

*** ปลดปล่อยตัวเองจากกรอบวันใด
I’ll Take You To The Moon

................

ผมว่าเพลงของพี่เจี๊ยบ วรรธนา เพลงนี้เนื้อหาดีมากนะครับ

มันเป็นเพลงอกหัก แต่เป็นเพลงอกหักที่มีความหวังมากๆ

ความหวังที่จะไปถึงพระจันทร์

จะมาหรือไม่ ก็ไม่เป็นไร

แต่ถ้าอยากตามหาพระจันทร์ ก็เชิญมาร่วมทางด้วยกัน

อยากให้เพลงรัก เพลงอกหักของบ้านเรามีเนื้อหาดีๆแบบนี้เยอะๆ

ฟังแล้วเศร้า แต่เศร้าแบบมีกำลังใจ

วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 11, 2549

ของฝากถึงแนวร่วมโค่นทักษิณ

๑. ยุติการรณรงค์แนวทางถวายคืนพระราชอำนาจ เพราะเป็นแนวทางที่บั่นทอนระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายกาจ การโค่นทักษิณผู้ไม่เป็นประชาธิปไตยไม่ควรใช้แนวทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน

๒. ยึดมั่นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธตามสันติวิธี อดทนอดกลั้นต่อสิ่งยั่วยุทางอารมณ์ หากกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มใช้ความรุนแรง พึงระวังไว้เสมอว่ารัฐบาลมี “อาวุธ” ทรงพลังที่ซ่อนอยู่ คือ การบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วยการประกาศให้พื้นที่ชุมนุมอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ผลก็คือ รัฐบาลสามารถสั่งยุติการชุมนุม ใช้กำลังปราบปราม ห้ามสื่อเสนอข่าว ฯลฯ

๓. การชุมนุมควรลดความก้าวร้าวและหยาบคาย การนำภาพนักการเมืองมาให้ผู้ชุมนุมเหยียบย่อมเป็นภาพไม่น่าดูและกระตุ้นให้ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลเกิดอารมณ์โกรธแค้น คงยังไม่ลืมความรุนแรงที่ซ่อนอยู่และถูกปลุกให้ตื่นเมื่อเช้ามืด ๖ ต.ค. ๒๕๑๙ จนเกิดภาพฝูงชนรุมทำร้ายนักศึกษาที่เหลือเพียงร่างไร้วิญญาณ

๔. การชุมนุมควรเพิ่มเนื้อหาสาระมากขึ้น ให้มากไปกว่าการโห่ร้องราวกับเชียร์มวย ให้มากไปกว่าการดูคอนเสิร์ต

๕. ควรกำหนดคนพูดบนเวทีให้เป็นระบบ ไม่ควรพูดเนื้อหาซ้ำซ้อน อย่างวันที่ ๑๑ ก.พ. มีแต่ประเด็นขายรัฐวิสาหกิจ คุณเพียร ยงหนู คุณศิริชัย ไม้งาม คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข พูดซ้ำๆแต่เรื่อง กฟผ.

๖. การไฮด์ปาร์คเพื่อปลุกมวลชนไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดหยาบคาย กักขฬะ ขึ้นกู มึง เหี้ย ห่า วิพากษ์ทักษิณว่าปากเสีย พูดจาหยาบคาย เมื่อมีโอกาสพูดบ้างก็ไม่ควรทำแบบทักษิณ

๗. ข้อนี้ฝากถึงคุณสนธิโดยตรง ยุติการใส่เสื้อเหลืองและอ้างถึงสถาบันกษัตริย์ แต่ให้กลับไปใช้แนวทางที่เป็นความถนัดและสร้างความนิยมให้แก่คุณสนธิ นั่นคือ การแฉความไม่ชอบมาพากลของคุณทักษิณ

๘. ข้อนี้ฝากถึง อมธ. ดำเนินแนวทางล่ารายชื่อถอดถอนคุณทักษิณต่อไป แต่ต้องพึงระวังไม่ให้นักการเมือง เช่น ชูวิทย์ ฉวยโอกาสเข้ามาสร้างคะแนนนิยม รวมทั้งต้องไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายสนธิ ฝ่ายค้าน หรือฝ่าย “อำนาจพิเศษ”

๙. กลุ่มชุมนุมควรหมั่นแถลงข่าวทุกวันหลังปิดการชุมนุม เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน

๑๐. ควรปรึกษาหารือทิศทางที่จะเดินต่อไป อย่ายึดติดเพียงแค่เอาทักษิณออกไปจากตำแหน่ง ต้องไม่ลืมว่าหากทักษิณออกไปจริง มีอีกหลายกลุ่มคอยฉกฉวยชิ้นปลามันชิ้นนี้ ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาสอนเราเสมอว่า เมื่อเสียงปืนสิ้นสุด เมื่อฝุ่นควันหายตลบ เมื่อการรบเสร็จสิ้น คนที่ร่วมต่อสู้ได้เพียงค่าทำศพหรือค่ารักษาพยาบาล

วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 10, 2549

ทำไมต้องให้เราอยู่แต่ห้องเรียน?

ไม่เข้าใจกับคำพูดที่ว่า "เป็นอาจารย์ก็ไปสอนหนังสือลูกศิษย์ให้ดี ไม่ใช่มาไล่นายกฯแบบนี้"

คนพูดรู้ได้อย่างไรว่าอาจารย์เหล่านั้นสอนหนังสือไม่ดี หรือทำหน้าที่ขาดตกบกพร่อง

คนพูดไม่คิดหรือว่าการแสดงออกของอาจารย์นับเป็นการสอนหนังสือชั้นดีอีกทางหนึ่ง

ที่น่าสงสัย หน้าที่ของอาจารย์มีเพียงประการเดียว คือ สอนหนังสือ อย่างนั้นหรือ? อาจารย์จะแสดงจุดยืนทางการเมือง ออกมาอธิบายวิชาการให้สังคม ไม่ได้อย่างนั้นหรือ? ทำไมต้องไล่ให้กลับเข้ามหาวิทยาลัยเสมอไป?

.............

ไม่เข้าใจกับความเห็นตามกระดานข่าวสาธารณะทำนองว่า "นักศึกษาออกมาทำอะไร ทำไมไม่กลับไปเรียนหนังสือ" หรือ "อย่ามาทำเป็นช่วยบ้านเมืองเลย เอาตัวเองให้รอด กลับไปเรียนให้จบ ๔ ปีเสียก่อนเถอะ"

คนคิดแบบนี้ไม่คิดบ้างหรือว่า มันคนละประเด็นกัน การแสดงออกทางการเมืองก็เป็นเรื่องหนึ่ง การเรียนหนังสือก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แล้วไปรู้ได้อย่างไรว่านักศึกษาเหล่านั้นไม่ได้ตั้งใจเรียนหนังสือ

ผมไม่ทราบว่ามีที่ไหนบังคับว่า นักศึกษามีหน้าที่เรียนอย่างเดียวเท่านั้น

วันหนึ่ง ถ้าเขาเห็นว่าเรื่องบางเรื่องไม่ถูกต้อง จำเป็นต้องคัดค้าน เขาไม่มีสิทธิเสรีภาพกระทำอย่างนั้นหรือ

แล้วที่นักศึกษากระทำอยู่ก็เป็นวิถีทางตามรัฐธรรมนูญโดยแท้ มิได้เดินออกนอกกรอบแต่ประการใด

.................

ขอให้กำลังใจคณาจารย์และนักศึกษาที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพของตนเพื่อแสดงออกทางการเมือง

เห็นด้วยกับเนื้อหาหรือไม่เป็นอีกเรื่อง

แต่อย่างน้อย เขาเหล่านั้นก็ใช้สิทธิเสรีภาพอันพึงมีพึงได้ของตน และพิสูจน์ให้เห็นว่า "ความกล้าหาญอย่างมีเหตุมีผล" ยังมีจริงในสังคมไทยที่ไร้เดียงสาทางการเมือง

..................

- ทิ้งท้าย -

ฝากวรรคทองวรรคนี้ไปให้คุณสนธิและแนวร่วมถวายพระราชอำนาจ วรรคทองนี้เป็นวรรคสุดท้ายในบทความของเกษียร เตชะพีระในมติชนรายวัน ศุกร์ที่ ๑๐ ก.พ.

"ใช่หรือไม่ว่า ที่กำลังดังกังวานอยู่ตอนนี้คือเสียงเรียกร้องหา political tutelage (คนที่ช่วยกำกับดูแลทางการเมืองหรือ "พี่เลี้ยง" - เจ้าของบล็อก) กันอีก อันสะท้อนอาการ political immaturity (ไร้เดียงสาทางการเมือง ไม่บรรลุนิติภาวะทางการเมือง - เจ้าของบล็อก) เรื้อรัง แถมเป็น self-inflicted political immaturity (สภาวะไร้เดียงสาทางการเมืองที่กัดกร่อนกินจากภายในตัวของตัวเอง - เจ้าของบล็อก) มากกว่าอื่น?"

วันพุธ, กุมภาพันธ์ 08, 2549

สงสัย

สงสัย ๑
ถ้าไม่เอาทักษิณต้องเป็นพวกสนธิ ถ้าไม่เอาสนธิต้องเป็นพวกทักษิณ มีทางที่ไม่เอาทั้งสนธิและทักษิณหรือไม่?

สงสัย ๒
ด่าว่าทักษิณเป็นคนชั่ว คนโกง เผด็จการ ไฉนจึงต้องการโค่นทักษิณแล้วกลับไปหาแนวทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างการถวายคืนพระราชอำนาจด้วยเล่า คนไทยไม่มีสติปัญญาเพียงพอในการสรรหาผู้นำเองหรือ ทำไมต้องพึ่งพา “อำนาจศักดิ์สิทธิ์” อยู่ร่ำไป

สงสัย ๓
ทำไมต้องเคารพธงชาติทุก ๘ โมงเช้าและ ๕ โมงเย็น ทำไมต้องมีเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนชมภาพยนตร์ ถ้าไม่ทำจะผิดหรือไม่ ถ้าไม่ทำจะเป็นคนไม่รักชาติหรือไม่ แล้วชาติคืออะไร

สงสัย ๔
เหตุใดการรณรงค์เกณฑ์ทหารต้องนำความรักชาติมาเกี่ยวข้อง คนที่ไม่เกณฑ์ทหารจำเป็นต้องไม่รักชาติอย่างนั้นหรือ ก็เพราะรักชาติจึงไม่เกณฑ์ทหาร เพราะ ไม่อยากให้มีการรบ อยากให้มีแต่สันติ อย่างนี้จะเรียกไม่รักชาติได้อย่างไร

สงสัย ๕
ทำไมจึงปรากฏตรรกะอุบาทว์ทำนองว่า “วิจารณ์อยู่ได้ หัดลงมือทำบ้าง” หรือ “เก่งแต่ปาก แน่จริงลงมาทำดิ” หรือ “ด่าจัง ทำไมไม่มาทำเองวะ” หรือ “พวกนี้อยู่แต่ห้องสมุด ลงมือทำไม่เป็นหรอก” จำเป็นด้วยหรือที่ผมต่อว่าแม่ค้าว่าผัดกระเพราไม่อร่อยเลย แล้วผมจำต้องผัดกระเพราเป็น

สงสัย ๖
สังคมไทยเติบโตด้วยภูมิปัญญาของตนเอง ด้วยความเข้มแข็งของตนเอง โดยไม่ต้องพึ่ง “เจ้านาย” ทุกประเภทได้หรือไม่

สงสัย ๗
เอะอะอะไรก็ว่า “รักชาติ” “ช่วยชาติ” “กู้ชาติ” ชาติเป็นอะไรหรือครับ เคยรณรงค์โดยไม่ต้องอ้างชาติบ้างไหม

สงสัย ๘
เอาหุ้นเบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้นเกี่ยวอะไรกับการรณรงค์ไม่ให้ดื่มสุรา แล้วทำไมม็อบต้านเบียร์ช้างถึงมีผู้ชุมนุมกินเบียร์ แถมยังยี่ห้อช้างเสียอีก

สงสัย ๙
หลักการนับเลขของแต่ละคนไม่เหมือนกันหรือ ทำไมบางคนว่าคนไปเป็นแสน บางช่องว่าห้าหมื่น บางเล่มว่าสามหมื่น บางสื่อว่าสองหมื่น

วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 07, 2549

เสือ ๑๑ ตัว

http://www.kampee.com/music/ (คลิกที่เพลงเสือ ๑๑ ตัว)

- พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ -

เพราะมีหัวใจไม่แข็งไม่อ่อน
พอสาวออดอ้อน แค่มองก็สั่นก็ไหว
ถึงบทจะรัก จะชอบ จะหลงสาวใด
ทำไมมันง่ายเกินไป ยังไม่เข้าใจตัวเอง

หัวใจก็มีแค่เพียงสี่ห้อง
ไม่วายเดือดร้อน รุมเร้า ทุกคราว ทุกข์ใจ
สี่ห้องดวงใจ หลายคนเบียดเสียดข้างใน
ที่ยังไม่แน่นเกินไป ยังเหลือเผื่อไว้ที่หนึ่ง

ไม่ใช่ขุนแผน ไอ้เรื่องเจ้าชู้ไม่ได้ตั้งใจ
มันเกิดมาเองทุกคราวครั้งไป
นี่ต้องเห็นใจกันบ้างนะครับ
แต่เรื่องความรัก รักจริงรักยิ่งจริงใจ
ไม่ว่ากับสาวคนไหนผมให้ทั้งใจ ให้จนหมดตัว

ถึงมอง ถึงเห็น เป็นเสือตัวหนึ่ง
ถ้ามองให้ซึ้ง นี่เพียงเสือสิบเอ็ดตัว
เสือตัวสุดท้าย เขี้ยวเล็บยังไม่น่ากลัว
เสือน้อยทั้งใจ ทั้งตัว เป็นเสือตัวที่ สิบเอ็ด

ไม่ใช่ขุนแผน ไอ้เรื่องเจ้าชู้ไม่ได้ตั้งใจ
มันเกิดมาเองทุกคราวครั้งไป
นี่ต้องเห็นใจกันบ้างนะครับ
แต่เรื่องความรัก รักจริงรักยิ่งจริงใจ
ไม่ว่ากับสาว คนไหนผมให้ทั้งใจให้จนหมดตัว

ถึงมอง ถึงเห็น เป็นเสือ ตัวหนึ่ง
ถ้ามองให้ซึ้ง นี่เพียงเสือสิบเอ็ดตัว
เสือตัวสุดท้าย เขี้ยวเล็บยังไม่น่ากลัว
เสือน้อยทั้งใจ ทั้งตัว เป็นเสือตัวที่สิบเอ็ด

..............

ผมชอบเพลงนี้มาก ลองฟังกันดู อย่างไรเสียผมก็ "ไม่ใช่ขุนแผน ไอ้เรื่องเจ้าชู้ไม่ได้ตั้งใจ มันเกิดมาเองทุกคราวครั้งไป นี่ต้องเห็นใจกันบ้างนะครับ" แต่ว่าเรื่องความรักของผมนี่นะ "รักจริงรักยิ่งจริงใจ ไม่ว่ากับสาวคนไหน ผมให้ทั้งใจให้จนหมดตัว" ๕๕๕

วันพุธ, กุมภาพันธ์ 01, 2549

คำพูดย่อมเป็นนายผู้พูด

"ไม่มีเลย เดินช็อปปิ้ง กินข้าว สนุกสนานอยู่กับลูกกับเมีย คนมันอยากเขียน เขียนอะไรก็ได้ คนมันอยากกุข่าว กุอะไรก็ได้ แต่ตนยังไม่พบใครเลย พบแต่ศูนย์การค้าซูเปอร์ มาร์เก็ต แมคโดนัลด์ และโรงแรม"
ทักษิณ ชินวัตร สัมภาษณ์หลังจากเที่ยวปีใหม่ที่สิงคโปร์

"ไม่รู้ๆ ต้องไปถามลูกผม ผมไม่ได้เป็นเจ้าของ ลูกผมเป็นเจ้าของ ผมไม่ได้แนะนำลูก มีแต่ลูกแนะนำผม เพราะลูกเป็นเจ้าของ ทุกวันนี้ผมยังต้องขอเงินเมียใช้”
ทักษิณ ชินวัตร ๒๐ ม.ค. ๒๕๔๙

"ไม่รู้เรื่อง เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ถ้าผู้ใหญ่ขายตนก็คงขายตาม"
พานทองแท้ ชินวัตร

"เขาประชุมตกลงกันเองแล้วก็ตัดสินใจว่า อยากให้พ่อทำงานการเมืองได้เต็มที่ ลูกรู้ว่าพ่อทำงานก็อยากให้ทำงานเต็มที่ นั่นคือสิ่งที่ลูกเขาตกลงใจกัน”
ทักษิณ ชินวัตร ๒๓ ม.ค. ๒๕๔๙

"เป็นเรื่องของทางลูกๆ ที่อยากให้พ่อทำงานให้บ้านเมืองเต็มที่จะได้ไม่ต้องถูกกล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เขาประชุมกันเองและก็ตัดสินใจว่าขายดีกว่า”
ทักษิณ ชินวัตร ๒๓ ม.ค. ๒๕๔๙

..................

“ผมน่ะ อยากแช่งให้รวยทุกคน เพราะรัฐจะได้เก็บภาษีได้มากๆ”
ทักษิณ ชินวัตร พูดกับนักธุรกิจต้นเดือนมกราคม ๒๕๔๙

“เรื่องนี้เป็นกติกาสากล ประกาศใช้มาตั้งแต่สมัยนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เนื่องจากเป็นการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงไม่ต้องเสียภาษี เรื่องนี้มีกติกา มีกฎหมาย ไม่มีใครไปฝ่าฝืนได้”
ทักษิณ ชินวัตร ตอบนักข่าวกรณีขายหุ้นชินคอร์ปโดยไม่เสียภาษี


"ไม่เกี่ยวเลย ไม่มีเลย ตรงไปตรงมา ผมตัวเบ้อเร้อเท่อ ผมทำอะไรไม่ตรงไปตรงมาได้อย่างไร โธ่ ผมไม่ใช่ตัวเล็กๆ ที่ไหน มาลอดเล็ดอะไรได้ที่ไหน ผมตัวเบ้อเร้อเท่อ มันต้องยิ่งตรงไปตรงมาอยู่แล้ว"
ทักษิณ ชินวัตร ตอบนักข่าวกรณีขายหุ้นชินคอร์ปโดยไม่เสียภาษี

"อิจฉาล่ะสิ...แค่นั้น ตัวเดียวเท่านั้น"
ทักษิณ ชินวัตร ตอบนักข่าวกรณีขายหุ้นชินคอร์ปได้ ๗๓,๐๐๐ ล้านบาท

"มันขายง่ายเหมือนขายขนมเข่งที่ไหนเล่า แหม! เงินตั้งเยอะแยะ ปัดโธ่! นี่เงิน 7 หมื่นกว่าล้าน ใครจะมาซื้อง่ายๆ จะมีคนมีตังค์กี่คนในโลกนี้ มันไม่เหมือนกับขายขนมเข่งที่เดินไปในตลาดก็ขายได้"
ทักษิณ ชินวัตร ตอบนักข่าวกรณีแทนที่จะขายหุ้นชินคอร์ปตั้งแต่ ๕ ปีก่อน

“ด้วยแต่ก่อนๆ มาการเก็บภาษีที่ดินและโรงร้านกรมพระคลังข้างที่ยังไม่ได้เคยเสียภาษีให้กับเจ้าพนักงานสรรพากรเลย บัดนี้ฉันมาไตร่ตรองดู เห็นว่าทรัพย์สมบัติของฉันทั้งหลายที่เป็นส่วนตัวก็เท่ากับเป็นทรัพย์สมบัติของคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่เหตุใดฉันมาเอาเปรียบแก่คนทั่วไป ซึ่งดูไม่เป็นการสมควรเลย ส่วนของๆ ผู้อื่นจะไปเก็บเอากับเขา ของๆ ตัวเองจะเกียจกันเอาไว้เพราะคนธรรมดาทั่วไปใครที่มีทรัพย์สมบัติเป็นที่ดินหรือโรงร้าน เมื่อถึงคราวที่เจ้าพนักงานจะเก็บภาษี เขาต้องเสียภาษีให้กับเจ้าพนักงานตามส่วนมากและน้อยของทรัพย์สมบัติที่เขามีอยู่ ตัวฉันเอง ถ้านอกจากในทางราชการแล้ว ฉันก็ถืออยู่ว่าฉันเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ทรัพย์สมบัติของฉันที่มีอยู่ก็นับว่าเป็นส่วนมาก ถ้ารัฐบาลจะแบ่งผลประโยชน์ของตนที่ได้มาจากทรัพย์สมบัติทั้งหมดนั้นบ้าง ฉันมีความยินดีเต็มใจที่จะเฉลี่ยให้เป็นการอุดหนุนชาติและบ้านเมืองอย่างคนสามัญด้วยเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอให้เจ้าพระยายมราชเก็บภาษีอากรในที่ดินและโรงร้าน ซึ่งนับว่าเป็นสมบัติของส่วนตัวฉันเองอย่างเช่นที่ได้เคยเก็บมาจากคนอื่นๆ ทั่วไปนั้น”
พระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวถึงเสนาบดีกระทรวงนครบาล

...............

“เมื่อวานผมดูข่าวจาก CNN ทราบว่าขณะนี้สภาของสหรัฐกำลังแก้ไขกฎหมายใหม่ ทั้งนี้เพราะบริษัทต่างๆ ไม่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐ แต่ไปจดทะเบียนในประเทศอื่นๆ เช่น ในปานามาบ้าง หรือที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่ไม่รักชาติ เพราะถือว่าเป็นการเลี่ยงภาษี..."
ทักษิณ ชินวัตร ๒๐ พ.ค. ๒๕๔๕

“เริ่มต้นที่เรื่องของแอมเพิล ริช ต้องเรียนให้ทราบว่าตั้งขึ้นมา 7 ปีมาแล้ว คือเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2542 โดย ฯพณฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในตอนที่ตั้งขึ้นนั้นท่านถือหุ้น 100%”
สุวรรณ วลัยเสถียร โฆษกตระกูลชินวัตร ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙