วันอาทิตย์, ธันวาคม 25, 2548

Chiangmai : Alone but Alive

ผมเดินทางมาเชียงใหม่ครั้งแรกเมื่อ ๕ ปีที่แล้ว จำได้แม่นว่ามันเป็นวันก่อนคริสต์มาส ๑ วัน ปี ๒๕๔๓ ครานั้นผมมาเป็นหมู่คณะลิงทะโมน (หรือใครบางคนจะเรียกว่า “เสือ” สุดแท้แต่”) เป้าหมายร่วมมีเพียงประการเดียว คือ มายลสาวเชียงใหม่ที่ใครๆต่างร่ำลือว่า “ของเขาดีจริง”

ตอนนั้น เราไปกัน ๖ นาย รถ ๒ คัน ดื่มกินตลอดทาง (เว้นคนขับ) ทุกเย็น เราจะแต่งตัวหล่อ ออกจากนิวาสถานราว ๕ โมงเย็น กลับเข้ารังอีกทีเกือบตี ๕ บ้างก็มีสาว บ้างก็กลับมาแห้งเหี่ยว สุดแต่วาสนาของแต่ละคนและแต่ละวัน

สนุกดีครับ ตามประสาวัยคึกคะนอง

มาครั้งนี้... ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ผมเดินทางมาคนเดียว ก็ได้รสชาติไปอีกแบบ

ตอนนี้ผมนั่งอยู่ริมน้ำปิง พร้อมกับบรั่นดี อาหาร และคอมพิวเตอร์ มีเสียงเพลงเบาๆขับกล่อม

ผมตั้งใจจะมาทำภารกิจบางอย่าง แต่คิดว่าภารกิจนั้นน่าจะล้มเหลว ถึงแม้ไม่ล้มเหลววันนี้ ผมก็คาดว่าวันหน้ามันคงล้มเหลวอยู่ดี

เหตุผลของการล้มเหลวก็เป็นเหตุผลที่ไม่มีใครอาจจะเข้าใจได้

การเดินทางมาแอ่วเชียงใหม่ของผมคนเดียวครั้งนี้ ทำให้ผมได้มีเวลาอยู่กับตัวเองอย่างแท้จริง นั่งขบคิดอะไรหลายๆอย่าง จนได้ข้อสรุปว่า บางครั้งเราก็ต้องยอมแพ้ในบางสนามแข่งขัน เพื่อลงไปสู้ในสนามใหม่ที่เราชำนาญมากกว่า

ชีวิตของผมบางทีก็อาจเป็นเหมือนนักเทนนิส ที่ถนัดคอร์ตหญ้ามากกว่าคอร์ตดิน

การยอมแพ้ไม่น่าจะเป็นเครื่องหมายลดคุณค่าของเรา แต่อาจเป็นบทเรียนในการดำเนินชีวิตต่อไป

แม้ผมจะเที่ยวคนเดียว แต่ผมก็ค้นพบว่าผมมีเพื่อนอยู่เยอะแยะไปหมด เพื่อนร่วมทาง เพื่อนมนุษย์ ตลอดจนจิตวิญญาณของผมที่น่าจะเป็นเพื่อนแท้ที่อยู่กับผมทุกสถานการณ์

ใครมีเวลาว่าง ผมขอเชิญชวน มาพักผ่อนสมอง มานั่งอยู่กับตนเอง ที่เชียงใหม่ ไม่ต้องรอเวลา รอโอกาส รอเพื่อน หรือรอคนรักหรอกครับ เดินทางคนเดียวก็สนุกไปอีกแบบ

แล้วจะรู้ว่า Alone but Alive

เป็นอย่างไร

วันศุกร์, ธันวาคม 23, 2548

เบื่อการรอคอย

เบื่อการรอคอยจัง ชีวิตนี้มีแต่การรอคอย

ผมทำทุกอย่างสุดความสามารถเท่าที่ผมต้องทำและเท่าที่ผมทำได้

แต่ก็ยังไร้คำตอบ

รอต่อไป

ป.ล. ผมเขียนบทความเรื่อง"หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" เสร็จแล้ว รอลงในโอเพ่น อ่านแล้วเชิญแสดงความเห็นได้ที่บล็อกผม

วันอังคาร, ธันวาคม 06, 2548

วาระแจ้งเพื่อทราบ

มีเรื่องแจ้งให้ทราบสามเรื่องครับพี่น้อง

หนึ่ง มาช่วยโปรโมทเว็บโอเพ่นออนไลน์แบบชั่วคราว เชิญเข้าไปอ่านได้ http://www.diarii.com/ มีนักเขียนหน้าใหม่ หน้าเก่า มีทั้งของหนัก ของเบา รับรองว่าทุกเรื่องได้ทั้งสาระและอ่านสนุกลุกนั่งสบาย

ส่วนคอลัมน์ของผม ผมยึดสโลแกนเดิมครับ "เพียงคุณแวะมาชม เราก็แอบนิยมคุณในใจ" และ "รัก (คอลัมน์) ผมน้อยๆ แต่รัก (คอลัมน์) ผมนานๆ"

ตอนล่าสุด คือ คดี กฟผ. อ่านแล้วคิดเห็นอย่างไร ขอเชิญชวนมาหล่นคอมเม้นท์ได้ที่บล็อกผมครับ

นอกจากนี้ งานบางส่วนในบล็อก ก็ไปปรากฏในคอลัมน์ของผมในโอเพ่นออนไลน์ด้วย ใครจะตำหนิว่าผมเอาของเก่ามาหากิน ขอเชิญไปตำหนิ บ.ก.ปิ่น ปรเมศวร์แทน (อิอิ)

สอง เนื่องมาจากโอเพ่น ออนไลน์ ใกล้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ผมจึงขอปรับเปลี่ยนทิศทางบล็อกของผมเล็กน้อย ต่อไปบล็อกนี้คงเกือบๆจะเป็นกึ่งไดอารี่ออนไลน์ เป็นการเล่าเหตุการณ์ประจำวัน สั้นๆ นิดๆหน่อยๆ เน้นไม่เครียด ส่วนของหนัก ๔๕ ดีกรี จะไปปรากฏอยู่ในโอเพ่นออนไลน์แทน

ส่วนใครที่อยากคอมเม้นท์คอลัมน์ของผมในโอเพ่น ออนไลน์ ก็ขอเชิญมาโพสคอมเม้นท์ของท่านได้ในบล็อกนี้ครับ

สาม อนุสนธิจากพระราชดำรัส ๔ ธ.ค. ๒๕๔๘ ผมกำลังขยับปากกาเรื่อง ความผิดฐาน "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" มีจริงหรือ? คาดว่าไม่เกินหนึ่งสัปดาห์น่าจะแล้วเสร็จ โปรดติดตาม