วันอังคาร, กรกฎาคม 18, 2549

วาระแจ้งเพื่อทราบ (อีกแล้ว)

งานตอนใหม่ล่าสุดของผมในโอเพ่น
http://www.onopen.com/2006/01/714

เขียนขึ้นมาเพราะอยากให้เข้าใจกันให้ถูกว่า “องคมนตรี” ไม่ใช่สิ่งเดียวกันกับ “กษัตริย์”

จากนั้น ควรตามไปอ่าน “เสาหลักทางจริยธรรมชื่อเปรม” ของธนาพล อิ๋วสกุล ในฟ้าเดียวกัน ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๑ ๒๕๔๙

มีบล็อกดีๆมาฝาก

๑. บล็อกของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
http://somsakj.blogspot.com/
http://somsakwork.blogspot.com/

๒. บล็อกของปราบดา หยุ่น
http://typhoonkoon.blogspot.com/

แถมด้วยเว็บไซต์ของห้องสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เกือบทุกเล่ม
http://library.tu.ac.th/newlib2/dcms/dcms.html

อันนี้ไว้ดาวน์โหลดหนังสือหายาก
http://library.tu.ac.th/newlib2/newweb/rarebook/rarebook.html

ทิ้งท้ายด้วย ขอแสดงความยินดีกับสหายทางวิชาการแบบคนละขั้วของผม Ratio scripta เนื่องในโอกาสที่มันสอบผ่านผู้ช่วยผู้พิพากษา ผมเชื่อมั่นว่าเพื่อนผมคนนี้สามารถ “วิชาการ” ได้ดีพร้อมๆกับ “วิชาชีพ”

อนึ่ง ผมจะเดินทางไปออสเตรียประสาชายโสด ภายใต้ทริป “หนุ่มน้อยตะลุยดานู้บ” ตั้งแต่วันที่ ๑๙ ก.ค. ถึง ๒๖ ก.ค. คงไม่ได้เข้ามาป้วนเปี้ยนในบล็อกสักระยะ

แล้วพบกันใหม่

วันเสาร์, กรกฎาคม 15, 2549

กระทู้นี้ทำเอาผมเคลิ้ม

เมื่อวาน ก่อนนอน เข้าไปหากระทู้ในโต๊ะสวนลุมเพื่อคลายเครียดจากการเมือง (ไม่อยากฝันเห็นหน้าสนธิใส่เสื้อเหลืองน่ะครับ)

ไปเจอกระทู้ของคุณคนนี้เข้า อ่านแล้วทั้งขำ ทั้งอิจฉา ทั้งเอาใจช่วย ทั้งหวนรำลึกถึงตอนเยาว์วัย

ลองย้อนอ่านกันดูนะครับ

http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4502592/L4502592.html
http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4508288/L4508288.html
http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4511184/L4511184.html
http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4514151/L4514151.html
http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4516812/L4516812.html
http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4523248/L4523248.html
http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4535248/L4535248.html

ผมอ่านจบแล้ว อยากกลับไปเป็นนักศึกษาอีกจัง

การจีบสาวแล้วอยู่ในช่วงลุ้นว่าจะหมู่หรือจ่า จะสารวัตรหรือนายพล นับเป็นช่วงเวลาที่เร้าใจที่สุด มองไปทางไหนก็เป็นสีชมพูไปหมด ฮี่ฮี่

เฮ้อ ทำไงดีๆ

ว่าแล้วก็อยากกลับไทย ไปให้สาวๆหักอกเล่นอีกจัง ฮ่าๆๆ

วันศุกร์, กรกฎาคม 14, 2549

คำถามชวนคิด

๑. “กษัตริย์” เป็นสิ่งเดียวกับ “สถาบันกษัตริย์”?
๒. “กษัตริย์” หรือ “สถาบันกษัตริย์” เป็นสิ่งเดียวกับ “ชาติ” และ “ศาสนา” ?
๓. ข้อความคิดว่าด้วย “พลเมือง” หรือ “ประชาชน” ไม่มีอยู่จริงในประเทศไทย?

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 13, 2549

เรียกประเทศไทยเฉยๆไม่ได้นะคร้าบบบพี่น้อง

เห็นข่าวสภาทนายแถลงการณ์ให้ทักษิณขอพระราชทานอภัยโทษเพราะเขียนจดหมายถึงบุช โดยเรียกว่า "ไทยแลนด์" เฉยๆ ไม่ยอมใช้ "คิงดอม ออฟ ไทยแลนด์"

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000089946

อะไรจะจับผิดกันหยุมหยิมขนาดนั้น

เฮ้อ....

แล้วนี่จะมีคนบ้าจี้หาว่า "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" อีกป่ะนี่

สงสัยต่อไป วันไหนทักษิณปวดขี้ นั่งส้วมอยู่ บังเอิญเพลงชาติตอนแปดโมงเช้ามาพอดี ยืนตรงเคารพธงชาติไม่ทัน สายลับของลุงธิไปเห็นเข้า ไปรายงานลุงธิ ทักษิณอาจโดนข้อหา "ไม่รักชาติ" "ไม่จงรักภักดี" อีกกระมัง

งานนี้ ถึงขั้นต้องขอ "พระราชทานอภัยโทษ" กันเลยหรือ งงอยู่เหมือนกัน

เมื่อไรบ้านเราจะแยก "ชาติ" ซึ่งเป็นชุมชนในจินตนาการ ออกจาก "สถาบันกษัตริย์" ให้ได้เสียทีหนอ

จะเรียกได้มั้ยว่าตอนนี้ "สถาบันกษัตริย์" กลายเป็นสิ่งเดียวกับ "ศาสนา" และ "ชาติ" ไปเสียแล้ว

วันจันทร์, กรกฎาคม 10, 2549

Adieu Zizou


ความมหัศจรรย์ซีดานบังเกิดขึ้นอีกครั้งในนัดชิงชนะเลิศ

แต่ครั้งนี้เป็นความมหัศจรรย์แง่ลบ

ซีดานไม่ได้จบอาชีพค้าแข้งด้วยแชมป์โลกและนักเตะยอดเยี่ยมของรายการดังที่หลายคนคาดหวัง ทว่าซีดานกลับ “เลือก” จบอาชีพค้าแข้งด้วยใบแดงใบที่สิบสอง

ใบแดงใบสุดท้ายในชีวิตนักเตะ

หลายคนผิดหวังกับลูกโหม่งมหาประลัยใส่ท้องมาเตรัสซี่

หลายคนเห็นใจ บ้างก็แปลกใจ ไฉนซีดานผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากถึงทำกิริยาเยี่ยงนี้

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ ...

ถ้าย้อนกลับไปเมื่อครั้งฟุตบอลโลก ๑๙๙๘ นัดแรกของฝรั่งเศสเจอกับซาอุดิอาระเบีย ซีดานก็ระเบิดอารมณ์ด้วยการเหยียบเข้าที่ยอดอกของนักเตะซาอุฯ ถูกกรรมการอัปเปหิออกจากสนาม และโดนโทษห้ามแข่งสองนัด

หรือย้อนมาใกล้อีกนิด ตุลาคม ๒๐๐๐ ยูเวนตุสพบฮัมบูร์กในยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก ซีดานบันดาลโทสะเอาหัวโหม่งหน้าของนักเตะฮัมบูร์ก เช่นเคย เขาโดนไล่ออกและโดนโทษห้ามแข่งถึง ๕ นัด

ตลอดชีวิตค้าแข้งของซีดาน เขาไม่ใช่ “มิสเตอร์ ไนซ์กาย” เหมือนแกรี่ ลินิเกอร์ อย่างที่หลายคนคาดคิดหรืออย่างที่สื่อและสังคมพยายามสร้างให้เขาเป็น แต่เขาเป็นศิลปินลูกหนังคนหนึ่งไม่ต่างกับก็องโตน่า หรือมาราโดน่า มีอารมณ์โกรธ มีแรงฮึดสู้ พร้อมจะโต้ตอบแบบแผลงๆ พอๆกับที่มีลูกยิงหรือการผ่านบอลมหัศจรรย์

การต่อสู้ดิ้นรนตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้เขามีบุคลิกในสนามสองมุม มุมหนึ่ง เขามีบุคลิกที่เคร่งขรึม สงบนิ่ง พูดน้อย จนเราไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ อีกมุมหนึ่ง ซีดานก็พร้อมที่จะระเบิดอารมณ์ทำอะไรที่คาดไม่ถึงได้เสมอๆ

ชั่วไม่กี่นาที ซีดานสร้างความมหัศจรรย์ด้วยลูกโหม่ง

โหม่งบอลให้บุฟฟ่อนปัดปลายมือ และ...

โหม่งท้องมาเตรัสซี่

ถ้าโหม่งแรกเป็นประตู ก็คงไม่มีโหม่งที่สอง และซีดานก็อาจจบชีวิตนักเตะแบบสมบูรณ์แบบดังเทพนิยาย

แต่เมื่อโหม่งแรกมีบุฟฟ่อนมาขัดขวาง โหม่งที่สอง ก็พาให้เขาพบจุดจบที่ไม่สวยงามเท่าไรนัก

นี่แหละ... ฟุตบอล

เทพนิยายที่คาดว่าจะสมบูรณ์แบบ ปิดฉากอย่างไม่มีริ้วรอย ไม่อาจเกิดขึ้นได้เสมอไป บางครั้ง ความไม่สมบูรณ์ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของกีฬาลูกกลมๆประเภทนี้เหมือนกัน

อาดิเออ ซิซู

วันศุกร์, กรกฎาคม 07, 2549

๑๑ นักเตะประจำฟุตบอลโลก ๒๐๐๖

ผู้รักษาประตู
จานลุยจิ บุฟฟ่อน (อิตาลี)
ตำแหน่งนี้คงเป็นเอกฉันท์ ผู้ท้าชิงอย่างริคาร์โด้ของโปรตุเกสมาโชว์ฟอร์มขั้นเทพเอาในนัดหลังๆ แต่บุฟฟ่อนเด่นทุกนัด

แบ็คขวา
มิเกล (โปรตุเกส)
ผมตัดสินใจเลือกมิเกล โดยตัดซามบร็อตต้าและซาโญลออกไปอย่างเสียดาย ด้วยเหตุผลที่ว่ามิเกลเด่นทั้งรับและรุก จับตัวจี๊ดจ๊าดดีๆอย่างร็อบเบน โจ โคล จนไปไม่เป็น แถมเติมเกมรุกได้เร้าใจมาก นัดเจออังกฤษนี่เปิดบอลจนนับไม่ถ้วน ส่วนซามบร็อตต้าในรอบแรกยังไม่เด่นมาก ในขณะที่ซาโญลก็ดีที่เกมรับแต่เกมรุกสู้มิเกลไม่ได้

กองหลังตัวกลาง
ลิลิยิง ตูราม (ฝรั่งเศส)
ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (อิตาลี)
กองหลังตัวกลางคู่หูจากยูเวนตุส คงติดทีมรวมดาราของแทบทุกคน ที่พอจะเบียดได้ก็เห็นจะมีคู่หูจากเชลซี คาร์วัลโญ่ – กัลล่าส์ และตัวเก๋าอย่างอยาล่า เสียดายมาไม่ถึงรอบรองชนะเลิศ เลยหลุดโผของผมไป

แบ็คซ้าย
ฟาบิโอ กรอสโซ่ (อิตาลี)
ลาห์มโชว์ฟอร์มได้ดีในสามนัดของรอบแรก ส่วนกรอสโซ่เริ่มเด่นตั้งแต่รอบสองจนถึงนัดชิง แต่กรอสโซ่มีส่วนร่วมกับชัยชนะของอิตาลีในหลายนัด ตั้งแต่เป็นที่มาของจุดโทษนัดเจออสเตรเลีย และยิงประตูดับฝันเยอรมันในรอบรอง กรอสโซ่จึงเฉือนฟิลิป ลาห์มไปได้หวุดหวิด

กองกลาง
ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ (อาร์เจนติน่า)
ปาทริค วิเอร่า (ฝรั่งเศส)
ซีเนอดีน ซีดาน (ฝรั่งเศส)
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส)

กองกลางตัวรับ ผมเลือกมาสเชราโน่และตัดมาเกเลเล่ออกไปแบบรักพี่เสียดายน้อง ด้วยเหตุผลสองข้อ ข้อแรก มาสเชราโน่แบกการตัดเกมของอาร์เจนติน่าไว้ทั้งหมด เพราะกองกลางคนอื่นที่เหลือเล่นบุกแหลกไม่มียั้ง อาร์เจนติน่าไม่มีผู้เล่นคนไหนที่ทดแทนเขาได้เลย ข้อสอง ทีมรวมดาราของผมมีนักเตะฝรั่งเศสเยอะเกินไปแล้ว

ที่เหลือผมเลือกวิเอร่า มาคุมจังหวะเกม แถมมีทีเด็ดแอบสอดไปทำประตูได้ เสียดายเหมือนกันที่ตัดปีร์โล่ ออกไป จริงๆผมก็ชอบปีร์โล่นะ เขาเล่นบอลเหมือนเป็นควอเตอร์แบ็คในอเมริกันฟุตบอลเลย วางบอลยาวได้เสียทุกครั้ง แต่ปีร์โล่บางนัดก็ดีใจหายบางนัดก็หายไปเลย อีกสองคน ซีดานนี่คงเป็นเอกฉันท์ ส่วนโรนัลโด้ รายการนี้ผมว่าเขาเล่นเด่นมาก ฟอร์มดีกว่าเล่นให้แมนฯยูฯ เลี้ยงจี้พากองหลังไปได้เยอะและอาจเอาฟาวล์ได้ด้วย

กองหน้า
มิโรสลาฟ โคลเซ่ (เยอรมัน)
เธียร์รี่ อองรี (ฝรั่งเศส)

โคลเซ่ ในฐานะว่าที่เจ้าของรองเท้าทองคำ อย่างไรก็ต้องติดทีมรวมดารา ส่วนอองรี ผมเลือกโดยเบียดเอาโพดอลสกี้ไป ด้วยแท็คติก ๔-๕-๑ ของโดเมเน็กเลยทำให้เราเห็นอองรียิงน้อยไปหน่อย แต่เขาก็มีประโยชน์ต่อทีม บางนัดยิงไม่ได้ แต่ก็วิ่งช่วยทีมได้เยอะ

โค้ช
ฟิลิปเป้ สโคลารี่
ครบเครื่อง บู๊บุ๋น แก้เกม จิตวิทยา กระตุ้นลูกทีม

ส่วนทีมนี้ ลองจัดแบบรวมดารา ๑๑ คน จาก ๑๑ ทีม

ผู้รักษาประตู
ดิด้า (บราซิล)

กองหลัง
มิเกล (โปรตุเกส)
คันนาวาโร่ (อิตาลี)
อยาล่า (อาร์เจนติน่า)
แอชลีย์ โคล (อังกฤษ)

กองกลาง
บาร์เน็ตต้า (สวิต)
เอสเซียง (กาน่า)
ซีดาน (ฝรั่งเศส)
ร็อบเบน (ฮอลแลนด์)

กองหน้า
โคลเซ่ (เยอรมัน)
ทอร์เรส (สเปน)

วันพุธ, กรกฎาคม 05, 2549

Allez les bleus, Allez les vieux


ก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้น ไม่มีใครเหลียวมองฝรั่งเศสเท่าไรนัก

ฟุตบอลโลกเริ่มขึ้นแล้ว ก็ยังไม่มีใครคาดคิดว่าฝรั่งเศสจะไปได้ไกล

เข้ารอบสอง คิดกันว่าฝรั่งเศสเสร็จกระทิงหนุ่มแน่

รอบแปดทีม คงรอดยากเมื่อมาเจอเต็ง ๑ ตลอดกาลอย่างบราซิล

แต่แล้ว ขุนพล เลส เบลอส์ ก็ลบคำสบประมาท มาถึงรอบรองชนะเลิศ และอาจเป็นไปได้ที่จะเข้าชิงหรือคว้าแชมป์

หลายคนสงสัยกันว่า ฝรั่งเศสมีดีที่ไหน เห็นทีหนีไม่พ้นลูกเก๋า และเกมรับที่เหนียวแน่น กล่าวกันว่า นักเตะแต่ละคนลงไปเล่นกันเอง ใช้ประสบการณ์เดินเกมกันเอง อิทธิพลของโค้ชมีน้อยมาก

โดเมเน็กเองก็ย้ำเสมอว่าเขาเป็น Sélectionneur ไม่ใช่ Entraineur (Sélectionneur แปลว่า ผู้เลือก ในขณะที่ Entraineur แปลว่า ผู้ฝึกสอน วงการฟุตบอลฝรั่งเศสจะใช้คำว่า Sélectionneur สำหรับโค้ชทีมชาติ และใช้คำว่า Entraineur สำหรับโค้ชสโมสร)

หลายคนล้อเลียนทีมตราไก่ว่า แก่เกินแกง หากินกับขุนพลตัวเดิมๆ ปรากฏว่าผลงานดีเกินคาด กองเชียร์ตราไก่เลยขึ้นป้ายเชียร์เอาคืนว่า “ Allez les bleus, Allez les vieux” ประมาณว่า “เลส์ เบลอส์ สู้สู้ ไอ้แก่ สู้สู้”

สื่อสเปนและสื่อบราซิลพยายามยั่วยวนว่าจะจัดการให้ซีดานได้เล่นเป็นแมทช์สุดท้าย

แต่ด้วยฟอร์มขั้นเทพของซีดาน ก็ทำให้หลายๆคนหน้าแตกไปตามกัน

หลังแมทช์ชนะบราซิล สื่อมวลชนเข้าไปถามซีดานทันทีว่า “ด้วยฟอร์มสุดยอดแบบนี้ จะเลิกเล่นจริงๆหรือ” ซีดานตอบกลับไปอย่างเจ็บแสบว่า “โอเค ผมจะเล่นฟอร์มระดับนี้ให้ดูอีกสองนัด”

ซีดานเป็นศูนย์รวมจิตใจของทีมจริงๆ จะว่าไปอาจกลบรัศมีของโดเมเน็กเสียหมด เห็นได้จากก่อนจะเริ่มครึ่งหลังนัดเจอบราซิลซีดานเรียกนักเตะมาล้อมเขาเผื่อสั่งการและกระตุ้นลูกทีม

นอกจากฟอร์มขั้นเทพของซีดานที่มาถูกที่ถูกเวลาแล้ว ต้องขอบคุณพวกปิดทองหลังพระอย่าง โคล้ด มาเกเลเล่ เห็นพลังการวิ่งไม่มีหมดของมาเกเลเล่แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าปีนี้เขาอายุ ๓๓ ปี

อีกประการหนึ่ง คือ แผงหลัง ๔ คน ๔ แชมป์ จาก ๔ ประเทศ วิลลี่ ซาโญล จากบาเยิร์น มิวนิค ลิลิยอง ตูราม จากยูเวนตุส วิลเลียม กัลลาส์ จากเชลซี และเอริค อบิดาล จากลียง ตลอด ๕ นัด เสีย ๒ ประตู ลูกหนึ่งมาจากความเผอเรอนัดเจอเกาหลีใต้ และอีกลูกมาจากลูกโทษของสเปน

แผงหลังนับเป็นจุดเด่นที่สุดของฝรั่งเศสชุดนี้ เหนียวแน่นมาตั้งแต่รอบคัดเลือก เสียประตูยาก ไม่มีแพ้ ส่วนจะชนะหรือไม่ ขึ้นอยู่กับซีดานและอองรีจะเดินเกมได้ดีแค่ไหน เมื่อฟอร์มของซีดานและอองรีกลับเข้าที่พอดีตั้งแต่เข้าสู่รอบสอง ตราไก่เลยติดปีกจนถึงขณะนี้

โชคยังช่วยอีกที่โดเมเน็คตัดสินใจหนีบเอาริเบรี่มาด้วย และยังมั่นใจส่งเป็น ๑๑ ตัวจริงตลอด และริเบรี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

รอบรองชนะเลิศ มีสิ่งที่น่ากังวลใจ ๒ ข้อ

ข้อแรก ซีดานและตูรามมีใบเหลืองติดตัว ต้องลุ้นให้ทั้งคู่อยู่รอดปลอดภัยในนัดนี้ เพื่อโอกาสในการลงนัดชิงชนะเลิศซึ่งเป็นนัดสุดท้ายในนามทีมชาติของทั้งสองคน

ข้อสอง มันสมองและจิตวิทยาของบิ๊กฟิล ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหนือกว่าโดเมเน็คหลายขุม

ส่วนที่กังวลกันว่าเกมตุกติกของโปรตุเกสอาจทำให้ฝรั่งเศสเสียใบเหลือง ใบแดงได้ แต่ด้วยความเก๋าระดับนี้ คิดว่าน่าจะรู้ทันโปรตุเกส

รอบชิง ทีมสีเสื้อเหมือนกัน อาจมาเจอกัน เหมือนรีแมทช์นัดชิงชนะเลิศยูโร ๒๐๐๐