วันพุธ, มกราคม 25, 2549

วาระแจ้งเพื่อทราบ (๔)

เรื่องแรก

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมตระเวนราตรีคนเดียว ณ สถานที่เดิมๆ ละแวกถนนข้าวสาร
ผมดีใจในเรื่องต่อไปนี้
๑. มีเพื่อนมนุษย์มากมายที่พร้อมจะเข้ามาผูกมิตรกับผม อาจด้วยว่าเขาเหล่านั้นสงสัย สงสาร หรืออยากจะสงเคราะห์กับการที่ผมมานั่งละเลียดวิตามินแอลตามลำพัง แม้บางครั้งผมอาจรู้สึกรำคาญใจบ้าง เพราะผมอยากมาปล่อยอารมณ์คนเดียว แต่ผมก็ซาบซึ้งใจในไมตรีที่เขาเหล่านั้นหยิบยื่นให้ผม
๒. ผมพบสุภาพสตรีหลายคนที่มีน้ำจิตน้ำใจให้กับผม (แม้ผมเคยกล่าวเมื่อคราวก่อนว่าผมจะพยายามหลีกเลี่ยงปัญหานารีก็ตาม)
๓. ผมพบโชเฟอร์จำนวนมากที่เป็นมิตร

เช่นกัน ผมพบเรื่องเศร้าใจ ดังนี้
๑. ผมพบโชเฟอร์ที่จ้องจะเอารัดเอาเปรียบผมอยู่รายหนึ่ง เขาลืมกดมิเตอร์ และพึ่งนึกออกเมื่อรถวิ่งไปได้ประมาณ ๕๐๐ เมตร เมื่อถึงที่หมาย มิเตอร์ราคา ๙๑ บาท แต่เขาขอผม ๑๕๐ บาท ผมเถียงอยู่ และยื่นเงินให้ ๑๐๐ บาท ลงจากรถไป
๒. ผมไม่ชอบที่เจ้าหน้าที่มักกวดขัน บังคับใช้กฎหมาย กับคนทำมาหากิน หาเช้ากินค่ำ ดังจะเห็นได้จากเทศกิจที่วิ่งไล่จับแม่ค้าที่ถนนข้าวสาร ตำรวจที่จ้องจับแท็กซี่ สามล้อ มอเตอร์ไซค์
๓. ผมยังปล่อยวางปัญหาเดิมๆของผมไม่ได้เสียที ล่าสุดมีสายมารายงานให้ทราบถึงข่าวร้ายอีก ซึ่งก็ยังไม่ยืนยันว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผมพยายามไม่โกรธแค้น ไม่แปรความชอบเป็นความเกลี่ยด แต่ที่ผมติดใจก็แค่เพียง "ในฐานะเพื่อนมนุษย์กัน เขาทำกันได้ถึงเพียงนี้หรือ"
๔. ผมกล่าววาจาที่ไม่ดี ไม่รักษาน้ำใจกับหญิงคนหนึ่งที่ผมคิดว่าเธอเป็นลำดับต้นๆในการหยิบยื่นน้ำใจให้ผมเสมอมา วันนั้นผมหงุดหงิดและตกอยู่ในภาวะอปกติจริงๆ หากเธอโผล่มาแถวนี้ ขอความกรุณารับคำขอโทษจากใจจริงของผมไปด้วย

เรื่องที่สอง

ผมผิดหวังกับคุณสนธิในเรื่องการนำขบวนไปทำเนียบมาก ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียว คือ เขาละทิ้งขบวน และประเด็นนี้คุณสนธิก็ยังไม่ออกมาชี้แจงว่าเหตุใดจึงทิ้งขบวนไป การอ้างว่าคนละกลุ่ม เขาสั่งให้เลิกแต่ขบวนไม่เลิกเอง ย่อมไม่สมเหตุสมผล

เช่นนี้แล้ว การที่คุณสนธิจะอ้างการชุมนุมของเขาไปเปรียบกับ ๑๔ ตุลา ๒๕๑๖ ว่าจะทำให้ ๑๔ ตุลา เป็นของเล่นไปนั้น ผมเห็นว่า แม้เพียงขี้ฝุ่น ม็อบคุณสนธิก็ไม่เทียบถึง

เรื่องที่สาม

ผมผิดหวังกับพฤติกรรมของน้าเหลี่ยมทั้ง "เรียลิตี้แก้จน" ที่อาจสามารถ และ "เรียลิตี้แก้รวย" ที่ชินคอร์ป

ในส่วนของแก้จน ผมไม่พิสมัยกับการแจกเงินแบบนี้

ในส่วนของแก้รวย ผมไม่ชอบท่าทีของน้าเหลี่ยม ก่อนขาย ๒-๓ วัน บอกไม่รู้ๆ เรื่องของลูก ขายเสร็จให้สัมภาษณ์ได้ยืดยาวชนิดที่หนุ่มโอ๊คในฐานะผู้ถือหุ้นคงตอบไม่ได้ขนาดนี้ คงคิดว่าคนไทยกินแกลบกระมัง
ผมไม่ชอบความไม่จริงใจของน้าเหลี่ยมที่ออกมาพูดว่าลูกๆต้องการขจัดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนให้กับพ่อ พุทโธ่ ... เหตุใดสำนึกเช่นนี้จึงเกิดช้านัก ทำไมไม่จัดการโอนหุ้นให้ทรัสต์ดูแลก่อนรับตำแหน่งนายกฯ ถ้าสวมบทเป็นเตมีย์ใบ้ยังดูดีเสียกว่า

1 ความคิดเห็น:

Blogger Soulseeker กล่าวว่า...

น้าเหลี่ยมเหลี่ยมแล้วเหลี่ยมอีก
สนธิอีกปลุกปั่นแล้วปลุกปั่นเหล้า(เล่า อิอิ)
คนที่เบื่อ,เซ็ง,ทุกข์คือพวกเรา
น่าจะจับใส่ขวดเหล้าแล้วดองยา

ยูโทเปียเยียโทปูกูละเบื่อ
ใครจะเชื่อศํพท์แสงวิปลาส
ที่มนุษย์ขี้เหม็นตดออกมา
เพราะสุดท้ายขี้มนุษย์หนาใหญ่กว่าใจ

นิติรัฐนัฐติริกูละเซ็ง
จะมาเบ่งบัญญัติมาเพื่อห่าเหว
ไม่เห็นมันปฏิบัติทำแต่เลว
ไอ้พวกขี้เหลวเป๋วรัฐบาล

ความคิดคนหรือจะเป็นแค่นำตก
รั้งจะตกรั้งจะร่วงสนุกสนาน
มีแต่คนระยำอันธพาล(รวมผมด้วย)
ที่เผาผลาญรุมแดกพระแม่โลก

12:18 หลังเที่ยง  

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก