อยากกลับฝรั่งเศสแล้ว
ผมกลับมาเมืองไทยอย่างรีบด่วนและไม่คาดคิดครั้งนี้เพื่อทำภารกิจสองเรื่อง
เรื่องแรก สำเร็จไปได้ด้วยดี เรื่องที่สอง น่าจะล้มเหลว
ตอนนี้ อยากกลับไปขลุกอยู่กับกองตำรา คอมพิวเตอร์ แบบเหงาๆ ที่ฝรั่งเศสแล้ว อยากกลับไปอยู่กับบรรยากาศทางวิชาการแบบเคย แม้มันจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ บางวันก็รก บางวันก็สะอาด บางวันเมา บางวันเหงา บางวันสุข บางวันเศร้า แต่ผมก็พึงใจกับการอยู่ที่ห้องนั้น มันเป็นที่ที่ผมรู้สึกว่ามีคุณค่าในทุกครั้งที่ผมอยู่
เฮ้อ...
คราวก่อน ก็เพียรพยายามเลื่อนวันกลับออกไป คราวนี้ กลับอยากเลื่อนวันกลับเข้ามา
ตั้งใจว่าจะกลับไปสะสางภารกิจปริญญาเอกให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่อยากใช้ชีวิตแบบสำมะเลเทเมาแบบนี้แล้ว อยากใช้ชีวิตแบบอาจารย์คนอื่นๆเขามั่ง
ยังเรียนไม่จบ แล้วกลับมาเที่ยวเมืองไทยทีไร ผมรู้สึกตนเองไร้ค่ายังไงก็ไม่รู้
กลางเดือนนี้ ผมจะแบกเป้ไปเที่ยวหลวงพระบางแบบเหงาๆ ขอเสพธรรมชาติอีกสักครั้งก่อนกลับไปลุยงานที่ฝรั่งเศส
ผมทำทุกอย่างที่ผมทำได้และต้องทำไปหมดแล้ว มันคงเป็นไปตามชะตาฟ้าลิขิต ถามว่าเสียใจ เสียเวลา เสียดายเงินมั้ย กับการกลับมาครั้งนี้ ผมตอบได้เต็มปากว่าไม่เลย ด้วยเหตุผลสองข้อ
ข้อแรก ผมจัดการเรื่องซื้อบ้านใหม่ให้พ่อ แม่ เรียบร้อยดี
ข้อสอง ผมได้คำตอบ ซึ่งผมค้นพบเอง หากผมไม่กลับมา มันก็คงค้างคาใจของผมต่อไปอยู่ดี สู้เอากันชัดเจนแบบนี้ดีกว่า
ผมปฏิญาณกับตนเองไว้ว่า จะไม่ขอข้องแวะกับปัญหานารีใดๆอีกแล้ว จนกว่าจะสำเร็จการศึกษา
แม้ใครๆจะไม่เชื่อว่าผมจะทำได้ตามที่ปฏิญาณก็ตาม
เรื่องแรก สำเร็จไปได้ด้วยดี เรื่องที่สอง น่าจะล้มเหลว
ตอนนี้ อยากกลับไปขลุกอยู่กับกองตำรา คอมพิวเตอร์ แบบเหงาๆ ที่ฝรั่งเศสแล้ว อยากกลับไปอยู่กับบรรยากาศทางวิชาการแบบเคย แม้มันจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ บางวันก็รก บางวันก็สะอาด บางวันเมา บางวันเหงา บางวันสุข บางวันเศร้า แต่ผมก็พึงใจกับการอยู่ที่ห้องนั้น มันเป็นที่ที่ผมรู้สึกว่ามีคุณค่าในทุกครั้งที่ผมอยู่
เฮ้อ...
คราวก่อน ก็เพียรพยายามเลื่อนวันกลับออกไป คราวนี้ กลับอยากเลื่อนวันกลับเข้ามา
ตั้งใจว่าจะกลับไปสะสางภารกิจปริญญาเอกให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่อยากใช้ชีวิตแบบสำมะเลเทเมาแบบนี้แล้ว อยากใช้ชีวิตแบบอาจารย์คนอื่นๆเขามั่ง
ยังเรียนไม่จบ แล้วกลับมาเที่ยวเมืองไทยทีไร ผมรู้สึกตนเองไร้ค่ายังไงก็ไม่รู้
กลางเดือนนี้ ผมจะแบกเป้ไปเที่ยวหลวงพระบางแบบเหงาๆ ขอเสพธรรมชาติอีกสักครั้งก่อนกลับไปลุยงานที่ฝรั่งเศส
ผมทำทุกอย่างที่ผมทำได้และต้องทำไปหมดแล้ว มันคงเป็นไปตามชะตาฟ้าลิขิต ถามว่าเสียใจ เสียเวลา เสียดายเงินมั้ย กับการกลับมาครั้งนี้ ผมตอบได้เต็มปากว่าไม่เลย ด้วยเหตุผลสองข้อ
ข้อแรก ผมจัดการเรื่องซื้อบ้านใหม่ให้พ่อ แม่ เรียบร้อยดี
ข้อสอง ผมได้คำตอบ ซึ่งผมค้นพบเอง หากผมไม่กลับมา มันก็คงค้างคาใจของผมต่อไปอยู่ดี สู้เอากันชัดเจนแบบนี้ดีกว่า
ผมปฏิญาณกับตนเองไว้ว่า จะไม่ขอข้องแวะกับปัญหานารีใดๆอีกแล้ว จนกว่าจะสำเร็จการศึกษา
แม้ใครๆจะไม่เชื่อว่าผมจะทำได้ตามที่ปฏิญาณก็ตาม
7 ความคิดเห็น:
สวัสดีครับ พอดีเข้ามาอ่านแล้วได้คิดบ้าง ดีครับผม
ไงก็ ตั้งใจสานต่อที่ตั้งใจดีกว่านะครับ ดีกว่า สุรา นารี พาชี..
คิดถูกแล้วละ ขอให้สำเร็จสมความตั้งใจ
pattaya
ในฐานะปิยมิตรของปิยบุตร (เหมือนเอกลักษณ์ของเอกบุรุษมะ)
และกัลยาณมิตร
อนุโมทนาจิต
สาธุ สาธุ สาธุ
สู้ต่อไปน้อง ... นำภาพงาม ๆ ของหลวงพระบาง ลงบล๊อก บ้างดิ ...อยากดู ไม่เคยไป
ไอ้น้องชาย ซามูไรพเนจร
ศิษย์พี่มิบังอาจสอนสั่ง
แต่การศึกครั้ง กระโน้นที่ทุ่ง จันทราฮาร่า ย้ำเตือนจิตใจซามูไรเลือดโชกอย่างพี่ได้ดี
เคล็ดลับวิชาในตำราเล่มที่หนึ่ง นั่นก็คือ "การทำใจให้สงบ" มันยากว่ะแต่ต้องทำไอ้น้องเอ่ย
วิถีซามูไรพเนจรเยี่ยงเรา จะพ่ายแพ้ข้าศึกเห็นจะมีเพียงศัตรูตัวฉกาจตัวเดียวเท่านั้น คือ ตัวของเรา จิตใจอันอ่อนล้าของเรา
ศิษย์พี่แนะนำเคล็ดคัมภีร์ สุดยอด คือ คัมภีร์เล่มเหลือง ของปรมาจารย์นัท ฮัน (เมตตาภาวนา) มิต้องเสาะหาไกล มันอยู่ในร้านนายอินทร์ โลกพระจันทร์ ชั้นสองเลี้ยวซ้าย
เชื่อพี่สักครั้ง ศิษย์น้อง ของเขาดีจริงๆค่ะ
การกลับไปนั่งสมาธิ ใต้เงื้อมงำของน้ำตก คือวิถีซามูไรในการชำระตนเองให้กลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง
ซาโยนาระ
เชื่อจ้า เชื่อ
^_^
ขอให้บรรลุโดยไวค่ะ
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก