วันอาทิตย์, มีนาคม 22, 2552

Lascia ch`io pianga


Lascia ch`io pianga


By George Frideric Hendel (1685-1759)

Aria from "Rinaldo"


Lascia ch`io pianga

mia cruda sorte,

E che sospiri la liberta!


E che sospiri,

E che sospiri la liberta!


Lascia chio pianga

mia cruda sorte

E che sospiri la liberta!


In duolo infranga

queste ritorte

de miei martiri

sol per pieta!


Lascia ch`io pianga

mia cruda sorte

E che sospiri la libertà


E che sospiri,

E che sospiri la liberta!


Lascia ch`io pianga

mia cruda sorte

E che sospiri la liberta!


....


ปล่อยให้ข้าฯได้หลั่งน้ำตาเถิด
กับชะตากรรมอันโหดร้าย
และปล่อยให้ข้าฯได้คร่ำครวญหวนไห้ถึงเสรี

ความทุกข์ทรมานอาจช่วยยุติความสัมพันธ์อันปวดร้าว
ด้วยความเจ็บปวดของข้าฯ

เพื่อความรักอันน่าเวทนา

วันศุกร์, มีนาคม 13, 2552

ความอ่อนโยนเป็นความปวดร้าวของข้าพเจ้า


Si dolce è'l tormento


Claudio Monteverdi (1567-1643)


Ch'in seno mi sta,

Ch'io vivo contento

Per cruda beltà.

Nel ciel di bellezza

S'accreschi fierezza

Et manchi pietà:

Che sempre qual scoglio

All'onda d'orgoglio

Mia fede sarà.


La speme fallace

Rivolgam' il piè.

Diletto ne pace

Non scendano a me.

E l'empia ch'adoro

Mi nieghi ristoro

Di buona mercè:

Tra doglia infinita,

Tra speme tradita

Vivrà la mia fè.

Per foco e per gelo

Riposo non hò.

Nel porto del Cielo

Riposo haverò.

Se colpo mortale

Con rigido strale

Il cor m'impiagò,

Cangiando mia sorte

Col dardo di morte

Il cor sanerò.


Se fiamma d'amore

Già mai non sentì

Quel riggido core

Ch'il cor mi rapì,

Se nega pietate

La cruda beltate

Che l'alma invaghì:

Ben fia che dolente,

Pentita e languente

Sospirimi un dì.

วันศุกร์, มีนาคม 06, 2552

นกไร้ขา อยากหยุดบิน


นกไร้ขา ได้แต่บิน บิน และบิน

เหนื่อยก็นอนในสายลม
ในชีวิตจะลงดินก็เพียงครั้งเดียว...
เมื่อถึงวันตาย


หยกไจ๋ "Days of being wild"
...........


ไอ้ตัวที่ไม่มีขารึ
เก็บเอาไว้หลอกผู้หญิงเถอะ

นกหรือ? นกบ้าอะไร

คุณก็แค่คนเมาที่ผมเจอในไชน่าทาวน์ !!!


ตำรวจหนุ่ม "Days of being wild"
............


เราเป็นนกไร้ขา หรือเราเป็นคนเมา???


หากเราเป็นนกไร้ขา...


เราอยากหยุดบิน


หากเราเป็นคนเมา...


โปรดอย่าใส่ใจ นิทานเรื่อง "นกไร้ขา" นี่เป็นเพียงคำเพ้อเจ้อ

วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 14, 2552

วาเลนไทน์ - วาเลน(ทบ)ทวน


เนื่องในวันวาเลนไทน์ ขอเอาเพลง Que reste-t-il de nos amours มาฝาก

เพลงนี้ ร้องครั้งแรกโดย Charles Trenet

จากนั้นก็เอามาร้องใหม่กันอีกหลายคน

ล่าสุด คือ Patrick Bruel ในอัลบั้ม Entre deux

ในโลกภาษาอังกฤษ มีการนำทำนองนี้ไป แล้วแต่งเนื้อใหม่ ในชื่อว่า "I wish you love" ซึ่งความหมายไม่ตรงกับภาคฝรั่งเศส


เมื่ออ่านเนื้อเพลงนี้แล้ว อาจพบว่าน่าเศร้าอยู่บ้าง

แต่วาเลนไทน์ มิใช่เป็นเพียงวันแห่งความรักเท่านั้น

หากยังควรเป็น วันทบทวนความรักด้วย

ว่า...

รักของเรายังคงเหลืออยู่?


.......


Ce soir le vent qui frappe à ma porte

Me parle des amours mortes

Devant le feu qui s' éteint


Ce soir c'est une chanson d' automne

Dans la maison qui frissonne

Et je pense aux jours lointains


Que reste-t-il de nos amours

Que reste-t-il de ces beaux jours

Une photo, vieille photo

De ma jeunesse


Que reste-t-il des billets doux

Des mois d' avril, des rendez-vous

Un souvenir qui me poursuit

Sans cesse


Bonheur fané, cheveux au vent

Baisers volés, rêves mouvants

Que reste-t-il de tout cela

Dites-le-moi


Un petit village, un vieux clocher

Un paysage si bien caché

Et dans un nuage le cher visage

De mon passé


Les mots les mots tendres qu'on murmure

Les caresses les plus pures

Les serments au fond des bois

Les fleurs qu'on retrouve dans un livre


Dont le parfum vous enivre

Se sont envolés pourquoi?


รัตติกาลนี้ สายลมพัดผ่านมาเคาะประตูบ้านของผม

เสียงนั้นบอกผมถึงความรักที่ตายจากไปแล้ว

ต่อหน้ากองไฟที่มอดลง


รัตติกาลนี้ มีเพลงแห่งฤดูใบไม้ร่วง

ก้องดังอยู่ในบ้านอันหนาวเหน็บราวกับถูกแช่แข็ง

นั่นทำให้ผมได้คิดถึงวันเก่าๆ ....


ความรักของเรายังคงเหลืออยู่ไหม?

วันคืนที่สวยงามยังคงเหลืออยู่ไหม?

ภาพหนึ่ง ภาพเก่าๆภาพหนึ่ง เมื่อครั้งยังเยาว์วัย


ถ้อยคำบอกรักอันหวานชื่น ยังคงเหลืออยู่ไหม?

เดือนเมษายนกับนัดของเรา

ความทรงจำดีๆเหล่านั้นยังตามมาหลอกหลอนผม

อย่างไม่หยุดหย่อน


ความสุขที่ร่วงหล่นลงมา

เส้นผมที่สยายท่ามกลางสายลม

จูบอันแผ่วเบา

ความฝันอันไม่หยุดนิ่ง

ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ ยังคงเหลืออยู่ไหม?

บอกผมที


หมู่บ้านเล็กๆ

ระฆังใบเก่า

ธรรมชาติงดงามซ่อนตัวอยู่

และในม่านหมอก ก็มีใบหน้าอันงดงามปรากฏ

เป็นได้แค่อดีตที่ผ่านพ้นไป


คำที่เราเฝ้าพะเน้าะพะนอต่อกัน

คำหยอกล้อแสนบริสุทธิ์

คำสาบานในป่าลึก

ดอกไม้ที่คั่นหน้าหนังสือ ซึ่งกลิ่นของมันรัญจวนใจยิ่ง

ทั้งหมดได้หลุดลอยจากเราไปแล้ว

ด้วยเหตุใดหรือ?

วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 10, 2552

ท่านทำมาหากินอะไร ถึงได้ร่ำรวยขนาดนี้ ท่านเพียงแต่ออกแรงเกิดมาเท่านั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้



"Non, monsieur le Comte, vous ne l'aurez pas... vous ne l'aurez pas.

Parce que vous êtes un grand seigneur, vous vous croyez un grand génie ! ...

Noblesse, fortune, un rang, des places, tout cela rend si fier !

Qu'avez-vous fait pour tant de biens ? Vous vous êtes donné la peine de naître, et rien de plus.

Du reste, homme assez ordinaire ! tandis que moi, morbleu ! perdu dans la foule obscure, il m'a fallu déployer plus de science et de calculs, pour subsister seulement, qu'on n'en a mis depuis cent ans à gouverner toutes les Espagnes"

Le monologue de Figaro (acte V, scène 3)

Pierre Augustin Caron de Beaumarchais, Le Mariage de Figaro, 1778.

..........

"ไม่ ท่านเคานท์ ท่านไม่มีวันที่จะได้เธอ ไม่มีทางเป็นอันขาด

เพราะท่านเป็นเจ้านายใหญ่โต ท่านจึงคิดเอาเองว่าท่านเป็นอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่

ชาติตระกูลขุนน้ำขุนนาง ทรัพย์สินเงินทอง ยศฐาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่งแห่งที่ ไอ้ของพรรค์นี้แหละที่ทำให้ท่านหยิ่งจองหอง

ท่านทำมาหากินอะไร ถึงได้ร่ำรวยขนาดนี้ ท่านเพียงแต่ออกแรงเกิดมาเท่านั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้

พ้นจากเรื่องนี้ ท่านก็เป็นคนธรรมดาๆอย่างพวกเรานี่เอง แต่ข้าสิ ให้ตายเถอะ ข้าขลุกอยู่กับฝูงชนที่วุ่นวายสับสนมืดมน มันทำให้ข้าต้องใช้สรรพวิทยาการต่างๆนานา เพื่อเอาตัวเองให้รอด แหม่ มันมากมายเหลือคณากว่าที่พวกเขาต้องใช้ในการปกครองราชอาณาจักรสเปนตลอดร้อยปีเสียอีก"

บทพูดคนเดียวของฟิการ์โร่ (องก์ที่ ๕ ฉากที่ ๓)

ปิแอร์ ออกุสแต็ง การอง เดอ โบมาร์เชส์, การแต่งงานของฟิการ์โร่, ๑๗๗๘.


วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 07, 2552

Muñequita linda, Te quiero dijiste


Te quiero dijiste tomando mis manos entre tus manitas de blanco marfil


Y sentí­ en mi pecho un fuerte latido después un suspiro


Y luego el chasquido de un beso febril


Muñequita linda de cabellos de oro, dos dientes de perla, labios de rubí


Dime si me quieres como yo te adoro, si de mí te acuerdas como yo de ti.


A veces escucho un eco divino que envuelto en la brisa parece decir:


Sí,­ te quiero mucho, mucho mucho mucho tanto como entonces, siempre hasta morir.


A veces escucho un eco divino que envuelto en la brisa parece decir:


Sí­ te quiero mucho mucho mucho mucho tanto como entonces siempre hasta morir.


A veces escucho un eco divino que envuelto en la brisa parece decir:


Sí, te quiero mucho, mucho mucho mucho tanto como entonces siempre hasta morir...


.....


"ฉันรักคุณ" คำนี้ที่คุณเคยเอ่ยกับผม พร้อมกับกุมมือของผมด้วยมืออันขาวนวลคู่นั้น


แล้วผมก็รู้สึกระทึกและสั่นสะท้านไปทั้งทรวง


ทันใดนั้น ก็มีจุมพิตอันร้อนแรง


Muñequita linda ผมสีทอง ฟันขาวดังไข่มุก ริมฝีปากดังทับทิม


บอกผมสิว่าคุณต้องการความรักจากผม ว่าคุณต้องการให้ผมอยู่เคียงข้างคุณหรือไม่


ผมได้ยินเสียงจากพระเจ้า ล่องลอยอยู่ในสายลมว่า...


ใช่ ฉันรักคุณมาก มาก มาก มาก และมากกว่าก่อน... และตราบจนวันตาย


ผมได้ยินเสียงจากพระเจ้า ล่องลอยอยู่ในสายลมว่า...


ใช่ ฉันรักคุณมาก มาก มาก มาก ตราบจนวันตาย เหมือนดังที่เคยเป็นมา

วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 03, 2552

หนังสือใหม่ของข้าพเจ้า


สนพ โอเพ่น พิมพ์รวมเล่มบทความเก่าๆของผมเหมือนเดิม


และเพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบผู้อ่านจนเกินไป ที่ต้องอ่านงานเก่าๆของผม ผมจึงเขียนบทนำขนาดยาวมาก ขึ้นใหม่ เพื่อเป็นการรีวิว ตลก ภิวัตน์ ตลอดสามปี


คิดว่าเดือนนี้ น่าจะวางแผง


ระหว่างนี้ ชมปกเรียกน้ำย่อยก่อนได้ครับ