วันศุกร์, มิถุนายน 01, 2550

หมดหนทางสมานฉันท์

คำวินิจฉัยเมื่อ ๓๐ พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลร้ายแรง กำลังเขียนวิจารณ์แบบยาวๆอยู่ ตอนนี้ขอวิจารณ์คร่าวๆไปก่อน ดังนี้

๑. ตอกย้ำหลักการอุบาทว์เรื่องยอมรับอำนาจที่มาจากรัฐประหาร โดยไม่มีข้อโต้แย้งแต่อย่างใด น่าประหลาดมากตรงที่ ตลก. (ตุลาการนะครับ อย่าอ่านเป็น ตะ-หลก ไป) บอกว่า ยุบสภา เลือกตั้ง จ้างพรรคเล็ก กลายเป็นการเข้าสู่อำนาจโดยมิชอบ แต่ตัวบทกฎหมายที่ศาลเอามาใช้ฟันพรรคการเมือง หรือฐานที่มาของตัว คณะ ตลก. ซึ่งมาจากอำนาจรัฐประหาร ตลก. กลับไม่พูดถึง น่าคิดว่าหากมีใครหาช่องส่งเรื่องไปศาลเพื่อขอเพิกถอน คำสั่ง คปค ทั้งหมด หรือ ให้วินิจฉัยว่ารัฐประหาร ๑๙ กันยา ไม่ชอบ บรรดาศาลไทยทั้งหลายจะว่าอย่างไร

๒. ยืนยันว่า การใช้กฎหมายย้อนหลังเป็นโทษ ถ้าไม่ใช่กฎหมายอาญา สามารถทำได้ ปัจจุบันหลักการนี้ล้าสมัยไปเสียแล้ว ศาลในหลายประเทศตีความโดยยึดหลัก "ความมั่นคงแห่งนิติฐานะ" และ "การคุ้มความเชื่อถือไว้วางใจในกฎหมาย" เป็นสำคัญ ไม่ว่าโทษนั้นจะเป็นทางอาญาหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าเป็นผลร้าย ก็จะใช้ย้อนหลังไม่ได้ทั้งนั้น

๓. การให้เหตุผลประกอบคำวินิจฉัย ไม่มีน้ำหนักมากเพียงพอ หลายประเด็นนำคุณค่าทางการเมืองมาวินิจฉัย บางประเด็นนำคำกล่าวของปรปักษ์ของผู้ถูกฟ้องมาพิจารณาเป็นสำคัญอีกด้วย (กรณีคำให้การของสุเทพ)

๔. โครงสร้างคำวินิจฉัย ไม่มีอะไรมากไปกว่า นำคำฟ้อง คำให้การ มาร้อยเรียงกัน แล้วก็ตัดสินฟันธง นอกนั้นก็เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจพรรคไทยรักไทยโดย คณะ ตลก.

๕. สร้างบรรทัดฐานประหลาด เช่น การยุบสภา ศาลเข้าไปเกี่ยวข้องได้อย่างไร ทั้งๆที่ยุบสภาเป็นเรื่องการเมือง เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีโดยแท้ ไม่มีที่ไหนในโลกให้ศาลเข้ามาตรวจสอบการยุบสภา

๖. การเชื่อมโยงกรณีธรรมรักษ์และเสี่ยเพ้ง เมื่อเปรียบเทียบกับการเชื่อมโยงกรณีสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สุเทพ และไทกร น่าจะไม่เป็นธรรม

๗. คำวินิจฉัย ๓๐ พ.ค. คือ การรัฐประหารซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ปิดหนทางสมานฉันท์ และเป็นการปลุกคนขึ้นมาสู้กับเผด็จการ คราวนี้จะพึ่งบารมีพระราชดำรัสเหมือนปีที่แล้ว คงยากอยู่ ต้องไม่ลืมว่ายามใดที่คนรู้สึกว่าถูกรังแก ไม่ได้รับความเป็นธรรม จะเอาอะไรมาหยุดก็คงยากทั้งนั้น

๘. ทำให้เกิดแนวร่วมต่อต้านรัฐประหารมากขึ้น ได้แก่ กลุ่มที่ค้านอยู่แต่เดิม ๑๒ กลุ่ม, คนรักทักษิณ, สมาชิกพรรคไทยรักไทย, ก๊วนอดีต สส ไทยรักไทย ที่รีบแยกตัวออกไปเลียบู๊ต คมช แต่มาโดนตัดสิทธิ์, ชาวบ้านทั่วไปที่เริ่มรู้สึกว่า คมช เข้ามาไม่เห็นมีอะไรดี

๙. ผมเสียดายโอกาสที่วงการตุลาการไทยจะสร้างมิติใหม่ให้แก่สังคม กลับกลายเป็นว่า คำวินิจฉัยเมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ไม่เพียงแต่ทำให้พรรคไทยรักไทยตายเท่านั้น หากยังทำให้ตุลาการตายไปจากนิติรัฐและประชาธิปไตยอีกด้วย

๑๐. คำวินิจฉัยนี้แสดงให้เห็นเลยว่า วงการตุลาการไม่ใช่กลไกสำคัญในการแก้ปัญหาหรือวิกฤตให้กับสังคมไทย ตรงกันข้าม ถ้าพูดแบบ หลุยส์ อัลทูสแซร์ ก็คือ ตุลาการเป็นกลไกปราบปรามของรัฐ (appareil répressif de l'Etat) เป็นเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพที่รับใช้สถาบันหรือองค์กรใดองค์หนึ่งที่มีอำนาจนำในสังคม ที่สร้างคุณค่า ความเชื่อ อุดมการณ์ให้สังคม (ซึ่งอัลทูสแซร์เรียกว่า appareil idéologique de l'Etat)

๑๑. จากเหตุการณ์คำวินิจฉัยนี้ ยิ่งทำให้ผมมั่นใจเกินร้อยว่า เราควรต่อต้านกระบวนการตุลาการภิวัตน์ให้ถึงที่สุด แน่นอนเราต้องมีกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐโดยองค์กรตุลาการ แต่นั่นไม่ใช่ตุลาการภิวัตน์

๑๒. เมื่อคืน ผมนอนไม่หลับ ผมไม่รู้ว่าเราจะเรียนจะสอนกฎหมายไปเพื่ออะไร แม้กระทั่งองค์กรผู้ใช้กฎหมาย ที่เราเคยเชื่อๆกันมาตลอดว่า อย่างน้อยก็พอไว้วางใจได้อยู่บ้าง มีหลักมีเกณฑ์ มีเหตุมีผลอยู่บ้าง กลับกลายมาเป็นผู้ค้ำจุนเผด็จการทหารไปเสียเอง ผมคิดว่าตั้งแต่กรณี นายกฯ ม๗, คดีเพิกถอนเลือกตั้ง, ๑๙ กันยา จนถึงคำวินิจฉัยล่าสุดนี้ ทำให้วงการกฎหมายตกต่ำ

เราจะเรียนจะสอนกันทำไม เมื่อเรียนกันมาแล้ว ในท้ายที่สุด ใครมีปืน ก็คือผู้ชนะ ใครมีอำนาจ คนนั้นถูกต้อง

เราอาจต้องสอนกฎหมายรัฐธรรมนูญ แบบรุ่นก่อนๆที่ต้องสอนในเชิงหลักการทั่วไป เพราะไม่มีตัวบทรัฐธรรมนูญให้สอน หรือถ้ามี ก็เป็นตัวบทที่ทหารครองเมือง ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

หรือถ้านักศึกษาบางคนอยากไปสอบเนติบัณฑิต ผู้พิพากษา อัยการ เจอข้อสอบแบบคำวินิจฉัยเมื่อวาน จะตอบอย่างไร

๑๓ ที่ผมกล่าวไปในบล็อกวันก่อนว่า วิกฤตอาจจะจบก็ได้ในปลายปีนี้ ด้วยนกหวีดแบบเดิม ตอนนี้ผมเปลี่ยนความเห็นแล้ว ผมคิดว่า เราอาจหลีกหนีการนองเลือดไปไม่พ้น และต้องตระหนักไว้ด้วยว่า ตุลาการเป็นผู้ร่วมปิดประตูสมานฉันท์นี้

30 ความคิดเห็น:

Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมมองโลกในแง่ดีว่า ตลก. ตัดสินแบบนี้ เป็นภัยกับตัวเองในอนาคต และเปิดโอกาสให้มีรายการเช็คบิลกันได้ง่ายๆขึ้น แบบเอาหอกตัวเองแทนตัวเองเลยทีเดียว

สมมติในอนาคต เกิดการพลิกแผ่นดินครั้งใหญ่ อำนาจที่เคยคุ้มครองเหล่าบรรดาตุลาการผู้มากบารมีหมดไปแล้ว ประชาชนพร้อมใจกันปฏิรูปอำนาจศาล

มีการตรากฎหมาย ว่าด้วยตุลาการในศาลมหาชน ว่าผู้ที่เป็นตุลาการรัฐธรรมนูญก็ดี หรือตุลาการศาลปกครองก็ดี จะต้องผ่านการศึกษาในสาขากฎหมายมหาชนมาโดยตรงในระดับสูงกว่าปริญญาตรี หรือผ่านการอบรมกฎหมายมหาชนจากสถาบันการศึกษาของรัฐ

ตุลาการที่บังอาจตัดสินคดีโดยขาดคุณสมบัติเช่นว่านี้ ถือว่าจงใจบิดเบือนความยุติธรรม ให้ถูก “มาตรการทางกฎหมาย” เพิกถอนปริญญาบัตรเสีย และเรียกคืนเงินเดือนที่รับไปตลอดอายุราชการคืน

ทั้งหมดเป็นมาตรการทางกฎหมายเพื่อมุ่งคุ้มครองมาตรฐานในการพิจารณาวินิจฉัยคดี

ไม่ใช่โทษอาญา

น่าสนใจไหม ?

6:07 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เห็นด้วยทั้งหมด เว้นแต่ประเด็นการนองเลือด

update จาก "กระแส" ในเมืองไทย ผมเชื่อว่า หากจะมีการนองเลือด สาเหตุคงไม่ได้มาจากเรื่องการยุบพรรค ทำ (นิติ)รัฐประหาร ครั้งนี้แน่ๆ

ในฐานะที่อยู่ที่นี่ กระแสคนที่ยังยิ้มแย้่ม เป็นไพร่ฟ้า หน้าใส กันเหมือนเดิม

สำหรับคนที่อยู่ไกล คุณดูได้ง่ายๆจากตลาดหุ้น วันนี้หุ้นดีดตัวขึ้นไปหลายจุด ถ้าจำไม่ผิดจะทำ record ในรอบหลายเดือน (มั้ง)

มุมมองส่วนตัว ผมมองว่าสังคมโดยรวมยัง "หรี่ตา" ให้เรื่องคราวนี้อยู่มาก เหมือนๆกับเมื่อครั้ง "ดอกไม้" ตอน 19 กันยานั่นแหละครับ

.
.
.

แม้ไม่ได้คร่ำหวอดเกี่ยวข้องในแวดวงกฏหมาย
แต่ก็ยังรู้สึก "เศร้าใจ" ไม่น้อยเมื่อคืนวันที่ 30 พ.ค.

เดาได้ไม่ยากว่าเจ้าของบล็อกจะเศร้าใจมากกว่าเพียงใด

6:49 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตลก. คงไม่วิเคราะห์ว่า ตัวเองเป็นศาลเถื่อนมั๊ง ... พี่ได้อ่าน กรณียุบ ปชป. โดยละเอียดแล้ว ต้องยอมรับ เหตุผลในการวินิจฉัย ในการตัดความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหาร พรรรค ปชป. กับ ตัวแทน หากเปรียบเทียบกับกรณี ทรท. ก็ต้องถือว่า คำพิพากษานี้ อุบาทว์ พอสมควรเลย

รู้สึกเสื่อมศรัทธา คนที่เคยรู้จัก และเคยเป็นอาจารย์ ที่ทำหน้าที่ ตลก. นี้ พอสมควร ... ไม่น่ามาทำอะไรเสียคนตอนแก่

เศร้าใจกับวงการกฎหมายไทย ....

8:13 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คนที่ยังยิ้มแย้ม หน้าใสอยู่ คงดูเอเอสทีวีเป็นอาจิณกระมัง

8:38 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

น่าสงสารประเทศไทยจังคะ

9:55 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ที่จริงควรจะเศร้าตั้งแต่คดีซุกหุ้นภาค 1 แล้วต่างหาก

"บกพร่องโดยสุจริต"

11:15 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากได้นกหวีดมั่งอ่ะ


เสียงดัง ดี เอามาเป่า ปี๊ดๆ

11:31 หลังเที่ยง  
Blogger bact' กล่าวว่า...

ขึ้นแท็กซี่สี่คันในสองวัน
สามคันบ่นๆ คับข้องใจ ไม่ยุติธรรม
หนึ่งในสามคันนั้นออกปาก แบบนี้ตายเป็นตาย ยังไงก็ต้องมีนองเลือด

นั่งแล้วเสียว

12:41 ก่อนเที่ยง  
Blogger bact' กล่าวว่า...

ความรู้สึก "ถูกรังแก" มันเยอะขึ้น
บอกไม่ได้ว่ามันจะถึงจุด ทนไม่ไหว หรือยัง
แต่มันเยอะขึ้นแน่ ๆ

12:43 ก่อนเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สะดุดตรงคำว่า คณะตลก. :D ตั้งใจหรือเปล่าเนี่ย

เรื่องกำ้กึ่งผมว่า ผมให้credit คณะตลกครับ ผมก็เห็นว่ามันสองมาตรฐานเหมือนกัน
แต่เรื่องที่ยอมไม่ได้คือ การใช้กฏหมายย้อนหลัง

ไม่ว่าเค้า(อาจจะ)จะเป็นผู้ร้ายผู้บริสุทธิ์เค้าก็ต้องได้รับความยุติธรรมเท่าเทียมกัน

3:51 ก่อนเที่ยง  
Blogger Gowza กล่าวว่า...

แล้วมันควรจะจบยังไงอะครับ?

เมื่อไหร่จะหยุด?

4:26 ก่อนเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ใครข้องใจกะคณะ ตลก แห่งชาติ

ก็ว่ามาเลย เชิญทางนี้

http://www.concourt.or.th/m_webboard.php?page=1#

9:16 ก่อนเที่ยง  
Blogger Unknown กล่าวว่า...

เห็นด้วย (เฉพาะ) เรื่องกฎหมายย้อนหลัง

ครับ

2:26 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไม่เห็นด้วยตั้งแต่วันแรกที่รัฐประหารแล้ว
และก็แปลกใจมากที่คนไทยส่วนมากเห็นด้วย

ทำไมคนไทยเราลืมง่ายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสิบห้าปีก่อนได้
ไม่ต้องย้อนไปถึงสมัย 14 ตุลาหรอก

เฝ้ามองดูการเมืองไทยอย่างกำลังใจหมดสิ้นลงทุกวัน
และมันก็หมดหวังเอาตอนเที่ยงคืนของวันที่ 30 นี้เอง

เราหวังที่จะไม่มีเหตุการณ์นองเลือด
แต่เราก็ต้องยอมรับว่ามันมีโอกาสเสี่ยงอยู่มากมาย
เราจะหลอกตัวเองยังไงก็ได้
แต่ข้างนอกนั่นเค้ากำลังฮึ่มๆกันอยู่จริงๆ

3:52 หลังเที่ยง  
Blogger crazycloud กล่าวว่า...

ลองเปลี่ยนจุดหักเห

ถ้าคณะตุลาการตัดสินยุบ ทรท.และไม่ตัดสิทธิ

สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา คือ ทรท.ไปตั้งพรรคใหม่ ชื่อไทยรักเธอ

สมมุติว่า รธน.ผ่าน
ไทยรักไทยกลับมา และกลับมาแน่

สิ่งที่ ปิยะบุตร และชาวคณะนักมวยตับจาก
จะทำต่อไป

คือ เขาทั้งหลายก็จะยึดมั่นใน นิติรัฐ และประชาธิปไตยต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี

แต่ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

สำหรับ หลักกฎหมายไม่มีผลย้อนหลังเป็นโทษนั้น
ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับ คณะตุลาการ

หลักความมั่นคงแห่งนิติฐานะ และ คุ้มครองความไว้เนื้อเชื่อใจ นั้น เป็นประดิษฐ์ตกรรมทางกฎหมายที่ใช้ได้ดีในประเทศที่มีโครงสร้างทางสังคมเป็นแนวราบ ประชาชนค่อนข้างมีความรับรู้ที่เท่าเทียมกัน

สังคมไทย มีลักษณะเป็นชนชั้น และมีการกดขี่ที่ค่อนข้างรุนแรง การใช้และตีความกฎหมายต้องคำนึงสิ่งเหล่านี้ไปด้วย

แล้วหากมองอย่างนี้แล้ว จะหาว่าผมไม่ใช่นักกฎหมายก็คงไม่ได้

เพราะกฎหมายก็มีหลายสำนักความคิด

ด้วยประการทั้งปวง คำวินิจฉัยมีความชอบธรรม ในแบบของประเทศไทย

และความชอบธรรมดังกล่าว จะหมดไปก็เมื่อ
โครงสร้างทางสังคม เปลี่ยนจากแนวตั้งมาสู่แนวราบ
เมื่อนั้น ค่อยไปขุด หัวมันฝรั่งมาเป็นหลักบ้านหลักเมืองก็แล้วกัน

ซึ่งคณะนักมวยตับจาก ออกหมัดสวยงามตามทฤษฎีฝรั่ง และเสียงกรอบแกรบของกองตำรา คงจะมองไม่เห็น

เพราะมีอวิชชาเป็นผ้าคาดตา

11:10 ก่อนเที่ยง  
Blogger Ladprao Roader กล่าวว่า...

re: crazycloud
ถ้ามีคณะเทวดาอยู่ให้เทิดทูนกันเช้ากลางวันเย็น อีกพันปีก็คงไม่ราบหรอกนะ อยากเป็นไพร่ต่อไปคนเดียวก็เชิญ ผมไม่เอาด้วยหรอก

1:48 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไม่ใช้กฎหมายย้อนหลังเพราะไม่ใช่โทษอาญา

...แต่เขียนคำวินิจฉัยโดยใช้การชั่งน้ำหนกแบบคดีอาญา

แค่นี้ก็ฮาแล้ว

7:47 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แนะนำให้อ่าน ความโต้ วรเจตน์ ภาคีรัตน์ โดย ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ดู

นอกจากมีตรรกะว่า "ทำอย่างไรก็ได้ให้กำจัดคนโกง (?) ออกจากวงการเมืองแล้ว"

ยังเหลืองอ๊อย...เหลืองอ๋อย

หึหึหึ

12:28 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แต่ตอนจบ พลาดไปหน่อย
ใครอ่านเข้าไปนี่ แหม...
กลายเป็นว่า กระทั่งทวีเกียรติ ก็เชื่อว่างานนี้ ท่านสั่ง ?

12:29 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เหลืองแล้วผิดตรงไหน ไม่ทราบ

5:04 ก่อนเที่ยง  
Blogger pokzy กล่าวว่า...

http://www.thaivdoclip.com/home_vdo_clip_vote.php?id=2969

ยิ้มเข้าไว้ครับ

2:18 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โลกแห่งเนื้อหา กับโลกแห่งวิธีการ

สำหรับมนุษย์ ไม่เคยสอดคล้องไปด้วยกันเสียที

ยินดีต้อนรับสู่

Global warming

ทั้งอุณหภูมิ ภายใน ภายนอก

12:01 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เหลือง แล้วหนักกบาลมึงไหม ไอ้Bull Shit

5:04 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตอบข้างบน

"ไม่หนัก" แต่ "ไม่ชอบ"

เพราะรู้สึกว่าถ้าเผื่อเอาเรื่องสีเหลืองๆ มาสนับสนุนความเห็นแล้ว

มันเหมือนปิดทางให้คนอื่นเถียงอย่างไรชอบกล
และทำให้การถกเถียงไม่อยู่กันในเหตุผลเสียแล้ว
นอกจากความรู้สึก และการชี้นิ้วใส่กัน

เหมือนที่ วิชา มหาคุณเคยกล่าวไว้ว่า
"...ยังไว้ใจเรา แล้วท่านจะไม่ไว้ใจหรือ"

หรือที่ทวีเกียรติ จบบทความด้วยการอ้างว่า
เหตุผลต่างๆที่ว่ามา เพื่อ "สนองพระราชดำรัส"

คือมันเหมือนใครอ้างก่อน คนนั้นชนะ
ถ้าใครจะเถียงก็... "มึงไม่จงรักภักดีหรือ ไม่เชื่อพ่อหรือ"

ก็เป็นเสียอย่างนี้...

12:41 ก่อนเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รักชอบสีใดก็รักกันไปเถิดครับ
ไม่หนักอะไรผมทั้งนั้น

ขออย่างเดียว อย่าเอาความชอบ "สี" มากำหนดตัดสิน เรื่องที่มันกระทบชีวิตคนอื่น ... เช่น ชีวิตผม ครับ

4:12 ก่อนเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

So it was "Yellow".

Oh I see.

At the all end; Chicken is chicken.

9:16 ก่อนเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

กรณีคำคัดค้านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคโดย ๕ คณาจารย์จากนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ มีการพิจารณาประเด็นการย้อนหลังของกฎหมายโดยคำนึง หลักความแน่นอนของกฎหมาย แต่เพียงประการเดียว โดยไม่ได้มีการพิจารณา หลักเหตุผลในการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะแต่อย่างใด กรณีดังกล่าวจึงแสดงออกอย่างชัดเจนว่านักวิชาการทั้งห้าท่านได้ใช้กฎหมายโดยมิได้คำนึงถึงบริบทสังคม ที่เสียหายไปกับระบอบทักษิณอย่างมากมาย ซึ่งกรณีที่ตุลาการรัฐธรรมนูญได้ยกแสดงในคำวินิจฉัยอย่างละเอียดนั้นมิใช่ประโยชน์สาธารณะที่กฎหมายจะต้องคุ้มครองหรอกหรือ
ฮ้า ฮ้า ฮ้า...............
เราต้องนิรโทษกรรมเพราะเป็นประโยชน์สูงสุดของชาติด้วย

7:09 ก่อนเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมไม่เห็นด้วยกับกฎหมายซึ่งมีผลย้อนหลังได้

12:23 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

^
^
^
ชี้ไปที่คุณไม่ระบุชื่อ

หากอยากเอาผิดทักษิณ ก็ควรไปเล่นเอาในส่วนที่มันผิด
ไม่ใช่มาอาศัยตุลาการรัฐธรรมนูญที่ตั้งเอง ชงเอง
แล้วมาตัดตอนกันแบบนี้

ไม่ทราบอ่านความเห็นทีมอาจารย์ที่ออกมาแสดงความคิดไม่ละเอียดหรืออย่างไร
เพราะสิ่งสำคัญที่เค้าห่วงกันมากคือการสร้างบรรทัดฐานให้สังคมกับกรณีแบบนี้หากเกิดขึ้นอีกในอนาคต

ต่อไปใครอยากจะขุดรากรื้อโคนใคร
ก็ปฏิวัติซะ ออกกฏหมายใหม่ ตั้งทีมตลก.(ชอบตัวย่อจริงๆ)
แล้วก็บังคับใช้กฏหมายย้อนหลังกันไป

แล้วถ้าเผอิ้ญ วันนั้นคุณไม่ระบุชื่อดันทะลึ่งไปอยู่ฝั่งtarget group ของคณะตลก.ขึ้นมา
คุณจะฮ้า ฮ้า ฮ้า อยู่มั้ยอ่ะ

สิ่งที่เค้าห่วงกันก็คือประโยชน์สาธารณะเนี่ยแหละ
ไม่งั้นใส่เสื้อเหลืองนอนอยู่บ้านไม่ดีกว่าเหรอ

8:49 หลังเที่ยง  
Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มัวแต่นั้งถบเถียงกันแบบนี้หละแล้วเมื่อไรประเทศชาติจะเดินหน้าขอถามหน่อยดิทุกวันใช้หัวสมองคิดกันหรือเปล่าหรือว่าไม่ได้ใช้เลยคิดออกไปให้กว้างสิก่อนที่ท่านจะมานั่งถกเถียงกันแบบนี้แล้วใครจะมาร่วมธุรกิจกับท่านหละ.

4:51 ก่อนเที่ยง  

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก