เมื่อความศรัทธาและขาดสติครอบงำ
เอาอีกแล้วครับ คนไทยหลายคนตกเป็นเหยื่ออีกแล้ว
ไทม์ให้โหวตผู้ทรงอิทธิพลต่อโลก ๑๐๐ คน เขาก็คัดมาให้เลือกกัน หนึ่งในนั้นมีรัชกาลที่ ๙ ของไทยอยู่ด้วย
ตามสูตร มีจดหมายเวียน กระทู้แปะตามบอร์ด เขียนชื่อในเอ็มเอสเอ็น ทำลิงค์กันจ้าละหวั่น ให้ “ข้าพระบาททุกชาติไป” ไปช่วยกัน “ดัน” ให้รัชกาลที่ ๙ ขึ้นที่ ๑ ของ “โลก” ให้ได้
ผมมีข้อสังเกต ดังนี้
๑. บุคคลที่มีจำนวนคนเข้ามาโหวตมากที่สุดสองลำดับแรกคือ เรน นักร้องเกาหลี และ รัชกาลที่ ๙ คาดเดาได้ว่าส่วนมากเป็นคนเอเชียทั้งนั้นที่ไปเลือก อันนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าทัศนคติคนเอเชียเป็นเช่นไร เน้นภูมิภาคนิยม เน้นความคลั่ง ความศรัทธา ปราศจากเหตุผล
๒. คนที่ไทม์คัดเลือกมา ไทม์จะระบุข้อสนับสนุนและข้อคัดค้านเอาไว้ ของรัชกาลที่ ๙ ข้อสนับสนุน คือ “เฝ้ามองดูการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยไทย” และ “รัฐประหาร ๑๙ กันยา ไม่สำเร็จแน่ ถ้าปราศจากการให้กำลังใจของเขา” ข้อค้าน คือ “รู้จักกันแต่ในหมู่คนไทย และในไทย การหมิ่นประมาทหรือวิจารณ์เขา ไม่ว่าทางใด เป็นความผิด”
๓. จำนวนคนโหวตหลายแสน (ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคงเป็นคนไทยเกือบทั้งหมด ยิ่งไปดูความเห็นที่แต่ละคนทิ้งไว้ ก็ยิ่งชัด) ชี้ให้เห้นว่า เราสักแต่ระดมคนไปโหวต โดยไม่พิจารณาให้ถ่องแท้ การจัดอันดับของไทม์ ไม่ได้เจาะจงเรื่อง “ความดี” แต่เป็นเรื่อง “อิทธิพล” ของคนคนนั้นที่มีต่อโลก ซึ่งจะเป็นทางดีทางร้ายได้ทั้งนั้น
๔. ไทม์นอกจากให้คนมาโหวตแล้ว ยังให้คนใส่คะแนนอีกด้วย (เช่น โหวตให้เรน แต่ให้คะแนนเรนแค่ ๖๐ เต็ม ๑๐๐) ปรากฏว่าขณะนี้ คนมาโหวตให้รัชกาลที่ ๙ มากเป็นอันดับต้น แต่จำนวนคะแนนกลับไม่มาก ตัวเลขแบบนี้น่าเอาไปคิดต่อ จะเป็นอย่างไร หากมีคนไปโหวตให้เป็นล้านๆคน แต่คะแนนไม่เยอะ เป็นไปได้ว่า มีการจัดตั้งไปลงคะแนนทั้งพวกที่รักและพวกที่ไม่รัก พวกที่รักต้องการดันให้ชนะ แต่พวกที่ไม่รัก ต้องการทำให้เสียชื่อ ก็ไปโหวตให้แต่ใส่คะแนนน้อยๆ
๕. นับตั้งแต่ปรากฏการณ์ “๙ มิถุนา ๔๙” ตามมาด้วย “เสื้อเหลือง” มีความพยายามในหมู่คนไทย“คลั่งไคล้” ที่จะผลักดันรัชกาลที่ ๙ ให้ขึ้นไปประกวดประชันในระดับโลก โดยไม่พึงตระหนักว่าประเทศอื่นคิดอย่างไร ซึ่งคนต่างประเทศ อาจเฉยๆ ไม่รู้จัก หรืออาจตั้งข้อสังเกตวิจารณ์บางอย่าง แต่พวกข้าจะยัดเยียดให้พวกเอ็ง “รัก” เหมือนข้าให้ได้ ถ้าเอ็งไม่รัก เอ็งเป็นคนเลวทันที
๖. ผมเห็นว่าความคลั่งไคล้เช่นว่า ยิ่งทำให้รัชกาลที่ ๙ เสื่อมเสีย โดยที่ไม่คาดคิดมาก่อน เพราะเมื่อนำขึ้นไปให้ชาวโลกจับต้อง ก่อนที่พวกเขาจะศรัทธา เชื่อ ก็ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนเสียก่อน และหลักในการพิจารณาของพวกเขาก็แตกต่างจากคนไทยผู้คลั่งไคล้อีกด้วย พวกเขายืนอยู่บนพื้นฐานของ “เหตุผลนิยม” และ “มนุษยนิยม” การจะพิสูจน์ให้พวกเขาเชื่อ ก็จำต้องผ่านการทดสอบ การตั้งคำถามอย่างถึงราก ซึ่งสุ่มเสี่ยงจะทำให้รัชกาลที่ ๙ เสื่อมเสีย และ หากคนไทยผู้คลั่งไคล้นำ “ความดี” ที่เชื่อว่ารัชกาลที่ ๙ มีให้ มาประกาศให้ชาวโลก ก็คงเป็นการยากอยู่ที่พวกเขาจะเชื่อตาม เพราะ มันเป็นความดีที่มีต่อคนไทยผู้คลั่งไคล้เท่านั้น หาเป็นความดีชุดเดียวกันกับที่คนต่างประเทศต้องการไม่
๗. ปรากฏการณ์ “ยูทิวบ์” และ “๑๐๐ คนของไทม์” เป็นปฏิกริยาตอบโต้กลับที่มีต่อ ความพยายามในการยัดเยียดให้คนอื่นคลั่งไคล้เหมือนกับตนเอง และความพยายามประกาศให้โลกรู้ว่ากษัตริย์ของเราเป็นอันดับหนึ่ง หวังว่าปรากฏการณ์ “ยูทิวบ์” และ “๑๐๐ คนของไทม์” จะ “ตบหน้า” ให้คนไทยผู้คลั่งไคล้ตื่นจากภวังค์เสียทีว่า รัชกาลที่ ๙ เป็นที่รักของคนไทยส่วนใหญ่ ก็ไม่จำเป็นต้องไปผลักดันให้คนทั้งโลกมารักตาม พระองค์เองอาจไม่เคยปรารถนาให้พวกคลั่งไคล้ทำแบบนั้นก็ได้
การยัดเยียดให้คนทั้งโลกต้องรักรัชกาลที่ ๙ หรือช่วยกันประกาศศักดาว่ารัชกาลที่ ๙ เป็นหมายเลข ๑ ของโลก ย่อมไม่ใช่ “ความรักแบบพอเพียง”
รักใคร ก็เชิญรักไปเถิด แต่โปรดจงรักแบบมีสติ และอย่าบังคับหัวใจกัน
ไทม์ให้โหวตผู้ทรงอิทธิพลต่อโลก ๑๐๐ คน เขาก็คัดมาให้เลือกกัน หนึ่งในนั้นมีรัชกาลที่ ๙ ของไทยอยู่ด้วย
ตามสูตร มีจดหมายเวียน กระทู้แปะตามบอร์ด เขียนชื่อในเอ็มเอสเอ็น ทำลิงค์กันจ้าละหวั่น ให้ “ข้าพระบาททุกชาติไป” ไปช่วยกัน “ดัน” ให้รัชกาลที่ ๙ ขึ้นที่ ๑ ของ “โลก” ให้ได้
ผมมีข้อสังเกต ดังนี้
๑. บุคคลที่มีจำนวนคนเข้ามาโหวตมากที่สุดสองลำดับแรกคือ เรน นักร้องเกาหลี และ รัชกาลที่ ๙ คาดเดาได้ว่าส่วนมากเป็นคนเอเชียทั้งนั้นที่ไปเลือก อันนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าทัศนคติคนเอเชียเป็นเช่นไร เน้นภูมิภาคนิยม เน้นความคลั่ง ความศรัทธา ปราศจากเหตุผล
๒. คนที่ไทม์คัดเลือกมา ไทม์จะระบุข้อสนับสนุนและข้อคัดค้านเอาไว้ ของรัชกาลที่ ๙ ข้อสนับสนุน คือ “เฝ้ามองดูการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยไทย” และ “รัฐประหาร ๑๙ กันยา ไม่สำเร็จแน่ ถ้าปราศจากการให้กำลังใจของเขา” ข้อค้าน คือ “รู้จักกันแต่ในหมู่คนไทย และในไทย การหมิ่นประมาทหรือวิจารณ์เขา ไม่ว่าทางใด เป็นความผิด”
๓. จำนวนคนโหวตหลายแสน (ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคงเป็นคนไทยเกือบทั้งหมด ยิ่งไปดูความเห็นที่แต่ละคนทิ้งไว้ ก็ยิ่งชัด) ชี้ให้เห้นว่า เราสักแต่ระดมคนไปโหวต โดยไม่พิจารณาให้ถ่องแท้ การจัดอันดับของไทม์ ไม่ได้เจาะจงเรื่อง “ความดี” แต่เป็นเรื่อง “อิทธิพล” ของคนคนนั้นที่มีต่อโลก ซึ่งจะเป็นทางดีทางร้ายได้ทั้งนั้น
๔. ไทม์นอกจากให้คนมาโหวตแล้ว ยังให้คนใส่คะแนนอีกด้วย (เช่น โหวตให้เรน แต่ให้คะแนนเรนแค่ ๖๐ เต็ม ๑๐๐) ปรากฏว่าขณะนี้ คนมาโหวตให้รัชกาลที่ ๙ มากเป็นอันดับต้น แต่จำนวนคะแนนกลับไม่มาก ตัวเลขแบบนี้น่าเอาไปคิดต่อ จะเป็นอย่างไร หากมีคนไปโหวตให้เป็นล้านๆคน แต่คะแนนไม่เยอะ เป็นไปได้ว่า มีการจัดตั้งไปลงคะแนนทั้งพวกที่รักและพวกที่ไม่รัก พวกที่รักต้องการดันให้ชนะ แต่พวกที่ไม่รัก ต้องการทำให้เสียชื่อ ก็ไปโหวตให้แต่ใส่คะแนนน้อยๆ
๕. นับตั้งแต่ปรากฏการณ์ “๙ มิถุนา ๔๙” ตามมาด้วย “เสื้อเหลือง” มีความพยายามในหมู่คนไทย“คลั่งไคล้” ที่จะผลักดันรัชกาลที่ ๙ ให้ขึ้นไปประกวดประชันในระดับโลก โดยไม่พึงตระหนักว่าประเทศอื่นคิดอย่างไร ซึ่งคนต่างประเทศ อาจเฉยๆ ไม่รู้จัก หรืออาจตั้งข้อสังเกตวิจารณ์บางอย่าง แต่พวกข้าจะยัดเยียดให้พวกเอ็ง “รัก” เหมือนข้าให้ได้ ถ้าเอ็งไม่รัก เอ็งเป็นคนเลวทันที
๖. ผมเห็นว่าความคลั่งไคล้เช่นว่า ยิ่งทำให้รัชกาลที่ ๙ เสื่อมเสีย โดยที่ไม่คาดคิดมาก่อน เพราะเมื่อนำขึ้นไปให้ชาวโลกจับต้อง ก่อนที่พวกเขาจะศรัทธา เชื่อ ก็ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนเสียก่อน และหลักในการพิจารณาของพวกเขาก็แตกต่างจากคนไทยผู้คลั่งไคล้อีกด้วย พวกเขายืนอยู่บนพื้นฐานของ “เหตุผลนิยม” และ “มนุษยนิยม” การจะพิสูจน์ให้พวกเขาเชื่อ ก็จำต้องผ่านการทดสอบ การตั้งคำถามอย่างถึงราก ซึ่งสุ่มเสี่ยงจะทำให้รัชกาลที่ ๙ เสื่อมเสีย และ หากคนไทยผู้คลั่งไคล้นำ “ความดี” ที่เชื่อว่ารัชกาลที่ ๙ มีให้ มาประกาศให้ชาวโลก ก็คงเป็นการยากอยู่ที่พวกเขาจะเชื่อตาม เพราะ มันเป็นความดีที่มีต่อคนไทยผู้คลั่งไคล้เท่านั้น หาเป็นความดีชุดเดียวกันกับที่คนต่างประเทศต้องการไม่
๗. ปรากฏการณ์ “ยูทิวบ์” และ “๑๐๐ คนของไทม์” เป็นปฏิกริยาตอบโต้กลับที่มีต่อ ความพยายามในการยัดเยียดให้คนอื่นคลั่งไคล้เหมือนกับตนเอง และความพยายามประกาศให้โลกรู้ว่ากษัตริย์ของเราเป็นอันดับหนึ่ง หวังว่าปรากฏการณ์ “ยูทิวบ์” และ “๑๐๐ คนของไทม์” จะ “ตบหน้า” ให้คนไทยผู้คลั่งไคล้ตื่นจากภวังค์เสียทีว่า รัชกาลที่ ๙ เป็นที่รักของคนไทยส่วนใหญ่ ก็ไม่จำเป็นต้องไปผลักดันให้คนทั้งโลกมารักตาม พระองค์เองอาจไม่เคยปรารถนาให้พวกคลั่งไคล้ทำแบบนั้นก็ได้
การยัดเยียดให้คนทั้งโลกต้องรักรัชกาลที่ ๙ หรือช่วยกันประกาศศักดาว่ารัชกาลที่ ๙ เป็นหมายเลข ๑ ของโลก ย่อมไม่ใช่ “ความรักแบบพอเพียง”
รักใคร ก็เชิญรักไปเถิด แต่โปรดจงรักแบบมีสติ และอย่าบังคับหัวใจกัน
22 ความคิดเห็น:
มีข้อสังเกตมาเพิ่มเล็กน้อยครับ
ตอนนี้เริ่มมีอีกกระแสตีกลับ เริ่มมีการตั้งข้อสังเกตกันแล้วว่ารัชกาลที่ 9 นั้นควรจะ "อยู่เหนือ" การโหวตทั้งมวลในโลกนี้ และยิ่งเป็นการโหวตจากฝรั่งมังค่า ยิ่งมิคู่ควรเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นพวกเราคนไทย จึงไม่ควรไปโหวต ไม่ควรไปสนับสนุนการจัดโหวต ที่เป็นเรื่อง "มนุษยนิยม" เช่นนั้น
บางคนเลยเถิดไปว่า นี่เป็นแผนการของทักษิณ ที่ใช้อำนาจเส้นสายของเขา ชักจูงให้ TIME จัดงานนี้ขึ้น
โดยส่วนตัวแล้วผม "ชาชิน" กับเรื่องทำนองนี้ โดยเฉพาะเรื่องความคิดอ่านที่ไม่ค่อยมี "ตรรกะ" สนับสนุนสักเท่าไหร่
ในวันที่ UNESCO สรรเสริญพระองค์ เราบอกว่าฝรั่งมันยังรู้เลยว่าพระองค์ยิ่งใหญ่เพียงใด
แต่วันไหนฝรั่งไม่คิดตามนั้น เราบอกว่าพระองค์ไม่คู่ควรที่จะต้องมาแปดเปื้อนกับ คคห. ของฝรั่งเยี่ยงนี้
บทพิสูจน์ปมด้อยของประเทศด้อยพัฒนา
เสียกิริยาเพียงแค่หลุมพลาง ที่ Time ขุดขึ้น
วันที่มีการโปรโมทให้โหวตผมแค่อ่านหัวจั่ว และ Pro & Con ก็รู้ว่า Time เอาเข้าแล้ว
คนไทยทั้งพันทิพย์และตาม msn ส่งต่อกันประหนึ่งว่า โหวตได้ที่ หนึ่ง แล้วประเทศจะพัฒนา ได้โล่ ได้แก้วแหวน อาจได้รางวัลโนเบลไพรซ์
กว่าจะรู้ก็สาย รีบหันกลับตัวมาโวยวายให้ ถอดออกจากการโหวต
และก็ไม่ผิดนิสัยไทยๆ ไม่ชอบใจโวยวาย ประท้วงแบบควายๆ แล้วด่าตามนิสัยโง่ๆ
กล่าวคือ เขียนภาษาไทยก็อ่านไม่ลื่น ดั๊น สะเออะ ไปภาษาอังกฤษ
ไปด่าทอ Fuck You asshole
ที่อุบาทว์ที่สุด และ สุดอายคือ มีจำนวนหนึ่งเขียนภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น ว่า
ท่านอยู่อีก class หนึ่ง (คงแปลว่าท่านอยู่สูงมากกว่าสามัญชน) แล้วทำไมเอามาเปรียบเทียบกับ RAIN นักร้อง ที่เป็น คนธรรมดา อีก Class หนึ่ง
นี่แหละครับ วันนี้ไอ้พวกปากบอกว่ารัก แต่รักแบบไม่เคยใช้สมอง พอฝรั่งย้อนหรือทุบลงมา แหกปากจะร้องไห้
เดียงสามากครับ
เรื่องรักไม่รัก จงรักไม่จงรักมันอีกเรื่องนะ ผมไม่มานั่งพูดถึง มันเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล
แต่ Reaction โง่ๆแบบนั้นใช้ได้แค่เมืองไทยดีกว่าครับ
แล้วที่ฮาไม่ออก ประกอบบวกกับ งงมาก พอ Time เล่นเกมส์นี้ มีคนบอกเลย "อ่านดูก็รู้ทักษิณจ้างแน่ๆ"
Woww........นี่แหละครับคนไทย
คงจะเคยชินและเห็นตัวอย่างว่า สื่อไทยมันซื้อได้ด้วยเงิน เลยเหมาว่า สื่อ นอกอย่าง CNN TIME NHK ABC มันซื้อกันได้ ชี้นิ้วกันได้
เรื่อง sensitive และโชว์พลังไม่เป็นไปทางสร้างสรรแบบนี้
สื่อนอกโคตรชอบจะบอกให้ แล้วจะมีมาอีกครับ พี่น้อง ไม่ต้องคิดมาก
พลังเสื้อเหลือง วันนี้น่าเอากลับไปคิดอะไรบ้างนะ หากจะคิดกันไม่อยากหรอก แค่อยากจะบอกทำไร ก็หัดอายนานาประเทศบ้าง
มึงไม่อายแต่กูและอีกหลายคนอายโว้ย
ผมสงสัยในเจตนาของไทม์มากกว่าครับว่าต้องการอะไร คิดว่าสื่อนอกชี้นิ้วไม่ได้ คิดใหม่ได้ครับ ผมคิดว่าฝ่ายโน้นต้องการศอกกลับที่เสียรังวัดเรื่องยูอะไรซักกะอย่างเรียกไม่ถูก เคยได้ยินคำว่าลอบบี้ยิสต์ไหมครับ? รู้จักการทำงานของคนพวกนี้หรือเปล่า? อเมริกันเองก็อหังการ์คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนอื่น แต่แหม พวกเรามันก็ไม่ค่อยฉลาดนักอย่างที่เขาว่าเสียด้วย ไม่งั้นคงไม่ยกโขยงไปช่วยเขาทำมาหากินกันเป็นพรวน สื่ออเมริกันผมว่ารับฟังได้ยากที่สุด เจ้าของบลอกเองคงจะเห็นความแตกต่างระหว่างสำนักฝรั่งเศสกับสำนักอเมริกันได้พอสมควร ผมขอเปรียบเทียบความแตกต่างดังต่อไปนี้
ฝรั่งเศส = คิดว่าตัวเองคิดอะไรค่อนข้างบรรเจิดเลิศอลังการ แต่สื่ออกมาหามีผู้ใดรู้เรื่องไม่
อเมริกัน = สื่อสารกับผู้อื่นง่ายๆ รู้เรื่อง แต่ขออภัยครับ แ-ม่-ง make sense ตรงไหนวะ?
ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในอีก 5 วัน เรื่องนี้คงจะเป็นตลกร้ายประจำเดือนเมษายนไปได้อย่างไม่มีคู่แข่ง
(โดยมีข่าวขบวนรถเศรษฐีขับปลอดภัยเทิดพระเกียรติ แต่ดันซิ่งชนกันเองไฟลุกท่วม ตามมาแบบห่างๆ)
เช้าเมื่อวาน คนไทยต่างแตกตื่นส่งฟอร์เวิร์ดเมล์บ้าง ตั้งกระทู้บ้าง เรียกหากันบ้าง ให้ไป "โหวตเพื่อพ่อ" "โหวตให้ชาวโลกเห็น" และหลายคนยังสรรเสริญนิตยสารฉบับนี้อยู่เลยว่า แหม นิตยสารเล่มนี้งตาถึง จัดให้พ่อเราเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญแห่งปีด้วย
ตกดึกแหนะ นักจงรักภักดี และผู้จงรักภักดีทั้งหลาย ถึงเริ่มฉุกใจ และตั้งใจอ่าน (หลังจากโหวตกนแหลกราญมาแล้วกว่าสิบแปดชั่วโมง)
ว่าจริงๆแล้ว... การโหวตนี้มันน่าปลื้มหรือไม่ ?
ทีนี้ไทม์ก็กลายเป็นผู้ร้ายขึ้นมาทันที
ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาทำอย่างนี้พื่ออะไร
แต่พูดได้เลยว่าถ้าเราโกรธ เราคงต้องตามโกรธสื่อนอกอีกเป็นกระบุง (และไล่ตามสงสัยว่าสื่อนอกพวกนี้ "ทำเพื่ออะไร" หรือ "รับเงินจากใคร" ... ฮา..."
บางทีเราอาจจะต้องยอมรับแล้วว่า
ถ้าเรารักของเรา
ก็ไม่ต้องฟังใครเขามากก็ได้
ถ้าผมเป็นคนต่างชาติ แล้ว ทำงานสื่อ
ผมโครตชอบเลย จิ้มไอ้พวกขี้สงสัยและโวยวาย
งานนี้ไม่ต้องจ้างหรอก ไม่ต้องมาล๊อบบี้ด้วย
ยิ่งศตวรรษนี้นะ ไอ้เรื่องไม่เชื่อ แล้วมาบอกไม่ให้ฝรั่งลบลู่ นี่ยิ่งมันส์
this is one of the reason
why many thai people
... have been cheated
coz they didn't actually "read" the contract or what is written and think by themselves...
huh!
เข้าใจที่คุณต.ม พูดเหมือนกันนะ ว่า อ๋อ มันทำไปเพื่อความสะใจส่วนตัว จรรณยาบรรณของสื่อไม่ควรมีความสะใจส่วนตัวไม่ใช่หรือครับ? ถ้าหากยกย่องการลบหลู่แล้วละก็ไทม์คิดช้าไปหน่อยหละครับ ร้อยวันพันชาติไม่เคยโยนขี้ใส่ตัวเอง แต่ผมก็ไม่วายสงสัยว่าไทม์มันจะเอาอะไรของมันอยู่ดี ผมว่าไทม์มันก็คงสงสัยกรุ๊ปปี้ในหลวงไม่แพ้กันหรอก ยังไงยอดมันคงไม่ตกเพราะคนไทยยังไงก็อ่านกันไม่ค่อยจะออกอยู่แล้ว ภาษาอังกฤษของผมพอถูพอไถยังไม่วายไม่อยากจะอ่าน
คุณ ไม่ระบุชื่อ
ต้องขอโทษที่ผมใช้คำที่ออกทำนองว่า สะใจ ขอเปลี่ยนใหม่เป็นว่า ท้าทาย ชอบทดลอง ชอบขุด ชอบใฝ่รู้ หรือคุณจะเรียกเสือกก็ได้
นิสัย ของฝรั่งน่ะ ยิ่งปิด ยิ่งห้าม เขาก็ยิ่งสนใจนะ ไปบอกว่า มีน้ำวิเศษกินแล้วไม่ตายแบบนี้ ฝรั่งมันสงสัยนะ และยิ่งต้องหาเหตุ หาผลมาอิง
อันนั้นเป็นตัวอย่าง
คุณไม่ระบุชื่อ ผมว่าถ้าคุณเชื่อหรือศรัทธาอะไร ก็ยึดมั่นต่อไป ไม่ผิดหรอก
แต่อย่าออกอาการฟูมฟาย โวยวายๆ
มันตลก
จริงๆนะ
แถลงได้เคลียร์มากพี่ปึ๋ง
เฮ้ย คุณ ต.ม ผมเป็นอย่างงั้นจิงดิ?! ตกใจมากกกก ตกใจมั่กมากกกกก
คราวนี้ผมขอสงสัยคุณก็แล้วกันคุณบอกว่า "นิสัย ของฝรั่งน่ะ ยิ่งปิด ยิ่งห้าม เขาก็ยิ่งสนใจนะ ไปบอกว่า มีน้ำวิเศษกินแล้วไม่ตายแบบนี้ ฝรั่งมันสงสัยนะ และยิ่งต้องหาเหตุ หาผลมาอิง"
ผมเพิ่งได้ยินมาว่าตอนนี้อันดับหนึ่งน่ะคนเขียนเรื่องพ่อมดหมอผีของฝรั่งนะครับ ฝรั่งก็คงสนใจไสยวิเศษไม่แพ้ไม่มากไม่น้อยไปกว่าเราหรอกครับ ก็เลย อ้าว
คุณคิดว่าผมโวยวาย ศรัทธาสุดลิ่มทิ่มประตูตรงไหน บอกมานะครับ มีแต่คุณน่ะแหละที่โวยวาย คิดว่าผมโง่อีกแล้วสิ แหม แค่ไม่อ่านไทม์แค่เนี๊ยะ ก็มันอ่านไม่ค่อยจะออก หรือผมจะแสดงความเห็นอะไรไม่ได้หากไม่อัดชายในผ้าเหลืองและสาวกผีตองเหลือง การเข้ามาแสดงความคิดเห็นที่นี่ผมต้องถือธงอะไรบางอย่างในใจเข้ามาเหมือนคุณด้วยหรือเปล่า?
ไม่ผมไม่เสียเวลากับคนอย่างคุณนาน
ไปร่วมงาน "เ้กิดชาติหน้าขอเป็นข้าละอองพระบาท" ซะ ไม่ต้องไปตีคนอื่นเขา
เราคิด(เอง)ว่ากรณีเสื้อเหลืองคงจะไม่ใช่ปรากฏการณ์รักในหลวง 100% เสียทีเดียว คนไทยเป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ ที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากมายเกี่ยวกับความคลั่งในหลวงหรือการสร้างกระแส(นั่นอีกเรื่องหนึ่ง)ถ้าลองพูดคุยหรือสัมผัสกับคนไทยที่ใส่เสื้อเหลืองกันนทุกวันไม่ได้คิดมากมายถึงขนาดนั้น ส่วนใหญ่จะประมาณว่าดี สะดวกดี ไม่ต้องคิดมาก ทำนองเครื่องแบบนักศึกษา ข้าราชการรณรงค์ใส่ผ้าไทย ฯลฯ ไม่ได้บังคับแต่ก็ทำกันเพราะมันก็ดี พอมีสีเหลืองเข้ามาก็ยิ่งดี ตัด choice สบายไม่ต้องเลือกมาก
กรณีโหวต เราคิดว่าเป็นเพียงความเห่อระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งกลายเป็นความเคยชินมากกว่าเกิดจากความเห่อบ้าคลั่งรักในหลวง อีเมลที่ส่งๆๆ กันเป็นลักษณะส่งต่อ อ่านๆๆ (ผ่านๆ ด้วยซ้ำ) แล้วส่งต่อ เป็นเรื่องของความสนุกสนานในการใช้เครื่องมือสื่อสารมากกว่าสาระสำคัญว่าเรารักในหลวงต้องการให้ในหลวงเป็นอันดับ 1
คิดว่านะ
เผอิญผมว่างจัดครับคุณ ต.ม ผมไม่เชื่อข้อกล่าวหาของคุณหรอก ใครว่าผมฟูมฟาย โวยวาย แทบพระบาท ผมให้โหวตด้วยเอ้า!
ที่โหวตกันเป็นหลายนแสนเอ๊าสแตนดิ้งเนี่ย มันมีที่มา ...
ตอนกระแสขึ้นใหม่ๆ คนไปโหวต 100 กัน เพื่อให้ติดอันดับสูงสุด "เพื่อในหลวง"
ตอนมีคำเตือนกันว่าไม่เหมาะสม มีคนแนะให้ไปใส่คะแนน 0 หรือ ต่ำๆกันมากๆ หวังให้เป็นการโหวตลบให้ต่ำลงๆจนหายจาก 100 ในที่สุด
นี่ก็ "เพื่อในหลวง" แต่กลายเป็นต้องทำตรงข้ามแล้ว ?!?
ผลคือ จากอันดับ 1 อย่างโดดเด่น ในเวลาแค่วันสองวัน อันดับดิ่งลงไปราวที่ 50 ด้วยจำนวนผู้โหวตมหาศาลทิ้งห่างคนอื่นเป็นสิบๆร้อยๆเท่า
ชวนให้ชาวโลกงงยิ่งนัก ว่าคนไทยทำไรกันอยู่
และเช่นเคยเหมือนตอน ict บล๊อค ยูทูบ คือ งานนี้เป็นข่าวไปทั่วโลก
นึกกันเอาเองนะ ว่าข่าวอารมณ์ไหน
ฝรั่งไม่สนใจในความไม่บังควรอยู่แล้ว จะเห็นได้จากการที่หนังสือพิมพ์เดนมาร์กลงภาพการ์ตูนพระอัลเลาะห์ เป็นผู้ก่อการร้าย โดยฝรั่งมันก็อ้างเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นหลัก โดยไม่สนใจเรื่องทางจิตใจหรือความเคารพบุคคลอื่น ผลสุดท้ายสถานฑูตมันก็โดนเผา (สมนำหน้าจริงๆ )
เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน และเนื่องจากประเด็นเป็นการเพิ่มยอดขายมันได้ ทั้งคนชอบหรือไม่ชอบมันก็ขายหนังสือขายสื่อมันได้ ด่าก็ดัง เข้าไปโหวดก็ยิ่งดัง !
ทางที่ดีอย่าไปซื้อ TIME อ่านดีกว่าดีมั้ย
อาจารย์จะมาเมืองไทยตอนไหนบ้างคะ จะขอสัมภาษณ์อาจารย์ค่ะ ชอบข้อเขียนของอาจารย์มากๆ ตามอ่านทุกเรื่องเลย
เห็นด้วยที่สุด รักในหลวงก็รักอยู่ แต่เรื่องมาชวนให้ไปโหวตไทมส์มันคนละเรื่องกัน พ่อใคร ใครรัก เรารักพ่อเราซึ่งไม่ใช่พ่อเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องรัก ต้องยอมรับ มันเรื่องของเขา พ่อผู้แสนดีของเราไม่ติดอันดับยอดคุณพ่อ เราก็ยังรัก ไม่เห็นจะแคร์ใคร ก็พ่อเรา เขาไม่เกี่ยว แต่บางคนชอบอยากให้เกี่ยว ช่างเขาเถอะ(ฟร่ะ)
รักไม่รักใครบังคับไม่ได้ คนเขียนจะรักหรือไม่รักก็บังคับกันไม่ได้
www0927
clarks outlet
christian louboutin
coach handbags
clarks shoes
coach outlet
oakley sunglasses
prada shoes
hermes belt
ugg outlet
birken stock
hermes outlet online
jordans
coach factory outlet
yeezy boost 350
yeezy boost 500
kobe shoes
michael kors outlet online
yeezy boost 350
lebron shoes
lebron 10
www1027
louboutin shoes
jordan shoes
coach outlet
canadian goose
coach outlet
coach outlet
ugg outlet
kate spade outlet
hermes belt
christian louboutin outlet
cheap jordans
yeezy
off white
hermes birkin
jordan 1
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก