กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ "นายกฯพระราชทาน"?
แว่วๆมาว่า หลังพ้นเส้นตาย ๔๘ ชั่วโมงคืนนี้ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ "นายกฯพระราชทาน" เอ้ย... ไม่ใช่ๆ เพื่อประชาธิปไตย จะประกาศจุดยืนตนเองอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะเอานายกฯพระราชทาน
เขาว่ากันว่า เส้นตาย ๔๘ ชั่วโมงที่ยื่นให้ทักษิณ แต่เอาเข้าจริงกลุ่มพันธมิตรฯเองนั่นแหละจะใช้เวลานี้ไปตกลงกันให้ได้เสียทีว่าจะเอาอย่างไรต่อ เพราะ วันเลือกตั้งก็ใกล้เข้ามา มุขปลุกมวลชนก็เริ่มหมด คนเริ่มบ่นมากขึ้น กระแสนายกฯพระราชทานมาตรา ๗ ก็แรงขึ่นๆ
ก็ดีเหมือนกันครับ จะได้ชัดเจนกันไปเลย
ไมใช่พิภพ สุริยะใส บอกไม่เอานายกฯพระราชทาน แต่สนธิ จำลอง วุฒิพงษ์ ฯลฯ ประกาศปาวๆกลางเวทีว่าเอาแน่ๆ สื่อสัมภาษณ์สุริยะใสว่ากลุ่มจะเอาย่างไร ก็ลื่นไหลไปเรื่อย ไม่กล้าฟันธง
ผมหวังว่ากลุ่มพันธมิตรคงตกลงกันให้ชัดเจนว่าจะเอาย่างไรต่อไป จะให้ทักษิณลาออก? จะให้เว้นวรรค? จะเอานายกฯพระราชทาน? จะให้ไทยรักไทยส่งคนอื่นลงแทน? จะให้เลื่อนวันเลือกตั้งแล้วให้ฝ่ายค้านกลับมาลงสมัคร? จะให้ทักษิณเลิกเล่นการเมืองถาวร? จะเนรเทศทักษิณ? จะยึดทรัพย์ทักษิณ? ฯลฯ
ว่ามาให้ชัด เพราะเห็นบนเวทีนี่พูดไปเรื่อย มีทุกแนวทาง สงสัยกลอนพาไป หรือเอาเสียงเฮ ปลุกระดมคนฟังก็ไม่รู้
บางคนจะเอาให้ตาย บางคนขอนิ่มๆให้ออกไปก็พอ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ให้การอภิปรายเป็นไปในทางเดียวกัน น่าสงสัยว่าคงคุมคนอภิปรายไม่อยู่ แต่ละคนก็ใช่ย่อยเสียที่ไหน
เอาเข้าจริงกลุ่มพันธมิตรคงต้องการแนวร่วมไว้มากๆก่อน "ร่วม" ในที่นี้ หมายถึง ร่วมกันเอาทักษิณออก ส่วนอย่างไรต่อไป ไม่เคยตกลงกันได้ชัดเจน (หรือรู้ว่าตกลงกันไม่ได้อยู่แล้วหว่า เพราะที่มาแตกต่างกันยิ่งกว่าแม่น้ำร้อยสาย)
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯจะเอาแนวทางนายกฯพระราชทานจริง พิภพ ธงไชย ผู้ประกาศชัดเจนว่าไม่เอานายกฯพระราชทาน (ลองไปอ่านตามสื่อได้ หรือไม่ก็ในบทสัมภาษณ์ลงโอเพ่นออนไลน์) สุริยะใส กตะศิลา ซึ่งพูดออกสื่อหลายครั้งว่าเขาไม่เอานายกฯพระราชทาน สนนท.ภายใต้การนำของกชวรรณ ชัยบุตร ซึ่งประกาศชัดเจนเช่นกันว่าไม่เอานายกฯแต่งตั้ง ตลอดจนคนอื่นๆที่เข้าไปร่วมขบวนแต่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว
ทั้งหมดนี้ ควรถอนตัวออกมารณรงค์ตามวิถีทางของตนเองดีกว่า
เพราะ แนวทางนายกฯพระราชทานถือเป็นแนวทางพื้นฐานที่จะตอบคำถามว่าถ้าทักษิณไปจะทำอย่างไรต่อ เมื่อมันไปขัดกับเจตจำนงของเขาเหล่านี้แล้ว ผมเห็นว่าการถอนตัวออกมาน่าจะเป็นการแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย จะดันทุรังอยู่ต่อไปให้ละอายแก่ใจตนเองได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม การเข้าไปร่วมขบวนครั้งนี้ของกลุ่มพิภพและสุริยะใส อย่างน้อยก็มีข้อดีอยู่บ้างที่ไปช่วยถ่วงดุล "ความบ้าพลัง" ของสนธิ จำลอง มนูญกฤต เอกยุทธ ลองคิดดูว่าถ้าไม่เข้าไปร่วม สงสัยการชุมนุมแบบสงบคงไปได้ไม่กี่วันแล้วหันมาเล่นบทเพื่อเป้าหมายไม่เลือกวิธีการเป็นแน่
บางคนอาจสงสัยว่าผมเป็นอะไรกันนักกันหนากับเรื่องนายกฯพระราชทาน ทำไมต้องยึดติดอะไรอย่างนั้น บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ ทำไมไม่ยอมรี่ตาสักข้างหนึ่งบ้าง
ความข้อนี้ ผมขออธิบายจุดยืนของผมด้วยบทความของธงชัย วินิจจะกูล ในประชาไทย ล่าสุด คงจะให้คำตอบที่ชัดเจนhttp://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=3095&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai
ผมกำลังเขียนบทความตอนใหม่ เรื่องมาตรา ๗ เหมือนเดิม เป็นการขยายความเพิ่มเติม หลังจากอ่านบทความของนักรัฐศาสตร์ที่เป็นแกนนำถวายฎีกาอย่างชัยอนันต์ ปราโมทย์ และธีรภัทร รวมถึงแถลงการณ์ของสภาทนายความแล้ว ก็คิดว่าต้องเขียนชี้แจงกันอีกรอบ
โปรดรอติดตามชม
เขาว่ากันว่า เส้นตาย ๔๘ ชั่วโมงที่ยื่นให้ทักษิณ แต่เอาเข้าจริงกลุ่มพันธมิตรฯเองนั่นแหละจะใช้เวลานี้ไปตกลงกันให้ได้เสียทีว่าจะเอาอย่างไรต่อ เพราะ วันเลือกตั้งก็ใกล้เข้ามา มุขปลุกมวลชนก็เริ่มหมด คนเริ่มบ่นมากขึ้น กระแสนายกฯพระราชทานมาตรา ๗ ก็แรงขึ่นๆ
ก็ดีเหมือนกันครับ จะได้ชัดเจนกันไปเลย
ไมใช่พิภพ สุริยะใส บอกไม่เอานายกฯพระราชทาน แต่สนธิ จำลอง วุฒิพงษ์ ฯลฯ ประกาศปาวๆกลางเวทีว่าเอาแน่ๆ สื่อสัมภาษณ์สุริยะใสว่ากลุ่มจะเอาย่างไร ก็ลื่นไหลไปเรื่อย ไม่กล้าฟันธง
ผมหวังว่ากลุ่มพันธมิตรคงตกลงกันให้ชัดเจนว่าจะเอาย่างไรต่อไป จะให้ทักษิณลาออก? จะให้เว้นวรรค? จะเอานายกฯพระราชทาน? จะให้ไทยรักไทยส่งคนอื่นลงแทน? จะให้เลื่อนวันเลือกตั้งแล้วให้ฝ่ายค้านกลับมาลงสมัคร? จะให้ทักษิณเลิกเล่นการเมืองถาวร? จะเนรเทศทักษิณ? จะยึดทรัพย์ทักษิณ? ฯลฯ
ว่ามาให้ชัด เพราะเห็นบนเวทีนี่พูดไปเรื่อย มีทุกแนวทาง สงสัยกลอนพาไป หรือเอาเสียงเฮ ปลุกระดมคนฟังก็ไม่รู้
บางคนจะเอาให้ตาย บางคนขอนิ่มๆให้ออกไปก็พอ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ให้การอภิปรายเป็นไปในทางเดียวกัน น่าสงสัยว่าคงคุมคนอภิปรายไม่อยู่ แต่ละคนก็ใช่ย่อยเสียที่ไหน
เอาเข้าจริงกลุ่มพันธมิตรคงต้องการแนวร่วมไว้มากๆก่อน "ร่วม" ในที่นี้ หมายถึง ร่วมกันเอาทักษิณออก ส่วนอย่างไรต่อไป ไม่เคยตกลงกันได้ชัดเจน (หรือรู้ว่าตกลงกันไม่ได้อยู่แล้วหว่า เพราะที่มาแตกต่างกันยิ่งกว่าแม่น้ำร้อยสาย)
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯจะเอาแนวทางนายกฯพระราชทานจริง พิภพ ธงไชย ผู้ประกาศชัดเจนว่าไม่เอานายกฯพระราชทาน (ลองไปอ่านตามสื่อได้ หรือไม่ก็ในบทสัมภาษณ์ลงโอเพ่นออนไลน์) สุริยะใส กตะศิลา ซึ่งพูดออกสื่อหลายครั้งว่าเขาไม่เอานายกฯพระราชทาน สนนท.ภายใต้การนำของกชวรรณ ชัยบุตร ซึ่งประกาศชัดเจนเช่นกันว่าไม่เอานายกฯแต่งตั้ง ตลอดจนคนอื่นๆที่เข้าไปร่วมขบวนแต่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว
ทั้งหมดนี้ ควรถอนตัวออกมารณรงค์ตามวิถีทางของตนเองดีกว่า
เพราะ แนวทางนายกฯพระราชทานถือเป็นแนวทางพื้นฐานที่จะตอบคำถามว่าถ้าทักษิณไปจะทำอย่างไรต่อ เมื่อมันไปขัดกับเจตจำนงของเขาเหล่านี้แล้ว ผมเห็นว่าการถอนตัวออกมาน่าจะเป็นการแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย จะดันทุรังอยู่ต่อไปให้ละอายแก่ใจตนเองได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม การเข้าไปร่วมขบวนครั้งนี้ของกลุ่มพิภพและสุริยะใส อย่างน้อยก็มีข้อดีอยู่บ้างที่ไปช่วยถ่วงดุล "ความบ้าพลัง" ของสนธิ จำลอง มนูญกฤต เอกยุทธ ลองคิดดูว่าถ้าไม่เข้าไปร่วม สงสัยการชุมนุมแบบสงบคงไปได้ไม่กี่วันแล้วหันมาเล่นบทเพื่อเป้าหมายไม่เลือกวิธีการเป็นแน่
บางคนอาจสงสัยว่าผมเป็นอะไรกันนักกันหนากับเรื่องนายกฯพระราชทาน ทำไมต้องยึดติดอะไรอย่างนั้น บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ ทำไมไม่ยอมรี่ตาสักข้างหนึ่งบ้าง
ความข้อนี้ ผมขออธิบายจุดยืนของผมด้วยบทความของธงชัย วินิจจะกูล ในประชาไทย ล่าสุด คงจะให้คำตอบที่ชัดเจนhttp://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=3095&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai
ผมกำลังเขียนบทความตอนใหม่ เรื่องมาตรา ๗ เหมือนเดิม เป็นการขยายความเพิ่มเติม หลังจากอ่านบทความของนักรัฐศาสตร์ที่เป็นแกนนำถวายฎีกาอย่างชัยอนันต์ ปราโมทย์ และธีรภัทร รวมถึงแถลงการณ์ของสภาทนายความแล้ว ก็คิดว่าต้องเขียนชี้แจงกันอีกรอบ
โปรดรอติดตามชม
5 ความคิดเห็น:
เข้าไปอ่านบทความอาจารย์ธงชัย แล้วก็ชอบมาก
ไปๆ มาๆ เกือบจะเห็นด้วยกับพี่ธงว่า ให้รัฐบาลที่ง่อยเปลี้ยของทักษิณ อยู่ต่อ ยังดีกว่าการมีนายกหรือรัฐบาลพระราชทาน
ได้ดู ดร.วรเจตน์ จากรายการถึงลูกถึงคน(พอสนธิเสนอขอนายกพระราชทาน คืนวันที่23 ถึงลูกถึงคนก็รับช่วง เรื่องการตีความมาตราเจ็ด )
วรเจตน์ พูดประเด็นเดียวกับที่แกพูดไว้แล้ว ในไทยโพสท์ คมคายมาก คมคายจริงๆ
สุดท้ายกลุ่มพันธมิตรก็หาข้อสรุปให้กับตัวเองไม่ได้ น่าเสียดายที่ผู้มีวิชาการหลายคนดันตกหลุมของสนธิที่ขุดไว้ อ่านบทความของอาจารย์ธงชัยแล้วเหมือนกัน เห็นด้วยกับอาจารย์ธงชัยเช่นเดียวกัน บางทีความเห็นที่ต่างกันในกลุ่มพันธมิตรอาจไม่ได้ทำให้กลุ่มย่อยยับไปหรอก แต่การดึงดันประท้วงร่วมกันทั้งที่ความเห็นแตกต่างนี่แหละจะทำให้กลุ่มย่อยยับและแพ้ภัยตัวเองไปก็ได้ หวังไว้ว่านักวิชาการที่อยู่ในกลุ่มพันธมิตร แต่คัดค้านเรื่องนายกพระราชทาน จะแสดงจุดยืนของตัวเองเสียที ไม่ใช่หลับหูหลับตา ตามสนธิกับพวกไปเรื่อยๆ
ผมขออนุโมทนาแก่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
และไปร่วมชุมนุม(แน่นอน)ด้วยจิตใจที่ปวดร้าว
พลังประชาชนโดยบริสุทธิ์ยังไม่มีในบ้านนี้เมืองนี้
คงมีแต่แกนนำที่มัฆวาน กับแกนนำจตุจักร
ตนจำพวกนี้กระมังที่เราประชาชนตาดำๆต้องคาดหวังอย่างโหยหาอ่อนแรง
ให้เขาพาสังคมเราไป
เพราะเราไม่เลือกที่จะกำหนดชะตาชีวิตของเราในเชิงคุณภาพที่ปราศจากอารมณ์และคลุ้มคลั่งเป้าหมายเกินไป
แด่ประเทศไทย ในวันที่25มีนาคม
เอ๋ โพสต์ล่าสุดหายไปรึเปล่าครับ ?
www0927
christian louboutin outlet
canada goose outlet
ralph lauren uk
ralph lauren polo
salomon shoes
golden goose
jordan shoes
kate spade handbags
coach outlet
christian louboutin outlet
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก