คิดถึง... มอลลี่
ถนนข้าวสารเป็นย่านหนึ่งที่ผมมักไปเตร็ดเตร่เมื่อยามได้กลับไปเยี่ยมเมืองไทย เรียกได้ว่า หากตะวันชิงพลบ ใครอยากพบผม ก็อาจตามหาได้ที่ย่านนี้
เมื่อก่อน ถนนข้าวสารเป็นข้าวสารให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ร้านรวงต่างๆจับกลุ่มลูกค้าฝรั่งเท่านั้น จนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ มหาอำนาจอย่างเครือบัดดี้ของคุณไทฟ้าและเพื่อนๆก็เปิดร้านใหม่ๆจับกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น จากเดิมที่มีซูซี่เป็นหัวหอก (ซึ่งแรกๆก็มีฝรั่งเยอะอยู่) ก็ขยายมาออสติน, เดอะ คลับ, บัดดี้ ล็อดจ์, ต้มยำกุ้ง, บริค บาร์, มอลลี่ และล่าสุดซินนามอน
แต่ละร้านของเครือบัดดี้จะมีธีมที่จับกลุ่มลูกค้าหลากหลายเป้าหมายแบบครบวงจร
ซูซี่ก็เน้นแดนซ์กระจาย
เดอะ คลับ ด้วยเหตุที่มีพื้นที่กว้างขวาง หลังๆเลยปรับร้านไว้รองรับคอนเสิร์ต
ออสติน ตอนนี้ปรับโฉมเน้นเพลงเรโทรรุ่นเซเวนตี้
ต้มยำกุ้ง ก็เน้นคนมานั่งกินข้าว คุยกัน
บัดดี้ ล็อดจ์ เน้นกินข้าว และมีทีเด็ดไว้ให้คนติดลมหลังตี ๑ แอบมานั่งกินเหล้า กินเบียร์ต่อ เขาจะไม่ยกมาให้เป็นขวดๆ แต่แอบเทเครื่องดื่มใส่แก้วมาให้ เพราะกลัวตำรวจซิว
บริค บาร์ ก็เป็นแนวสกา เด็กแนวแดนซ์กระจาย หลังๆกลัวคนเข้าไปตีมึน เต้นฟรี เลยขายบัตรเข้าทุกศุกร์ เสาร์
มอลลี่ ก็เล่นสด ชิลล์ ชิลล์ มีทั้งเพลงใหม่และเพลงเก่าแบบ พงษ์พัฒน์ ไมโคร นูโว บิลลี่ อัสนี วสันต์
ซินนามอน แบ่งเป็นโซน นั่งชิลล์ฟังเพลง กับฮิปฮอป
สมัยเป็นนักศึกษา ผมไม่ชอบเที่ยวเส้นนี้เท่าไร เพราะมันยกหางฝรั่งเกินไปหน่อย ส่วนใหญ่กินเหล้าเส้นพระอาทิตย์ ท่าอยากมันส์ๆ ชมสาว จับสาว ผมก็จะไปเส้นทองหล่อหรือาร์ซีเอ
แต่พอเริ่มวัยทำงาน ผมก็กลับลำมาเที่ยวเส้นข้าวสาร ด้วยเหตุที่ว่าใกล้ที่ทำงาน กลับบ้านสะดวก นั่งแท็กซี่ ๑๐๐ บาทถึงบ้าน และเริ่มมีสาวๆสวยๆหลุดรอดเข้ามาบ้าง จริงอยู่คงไม่งามงอนเทียบเท่าทองหล่อหรือเอกมัย แต่ผมว่าก็ดูดีตามวัยของผม แถมเหล้าและมิกเซอร์ก็ถูกกว่ากันเยอะ
ร้านที่ผมไปนั่งประจำ คือ มอลลี่ ไม่รู้เหมือนกันว่าไปติดใจอะไรนักหนา สาวก็มีบ้าง ไม่มีบ้างแล้วแต่วัน เพลงก็ซ้ำไปซ้ำมา
อาจเป็นเพราะว่าพอเริ่มสูงอายุ ผมไม่อยากออกไปสู้รบปรบมือเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ แก่งแย่งเก้าอี้ เบียดเสียด ยัดเยียดราวกับขอเที่ยวฟรี
ผมชอบไปตั้งแต่ร้านเปิด วงแรกขึ้นเล่นประมาณ ๒ ทุ่ม คนน้อยมาก นั่งสบาย ไม่เบียด แต่พอ ๔ ทุ่ม เอาแล้วครับ คนเริ่มยัดเยียดกันเข้ามา ยิ่งศุกร์ เสาร์ ไม่ต้องพูดถึง ลุกไปฉี่ทีกว่าจะกลับมาได้ก็สบักสบอมราวกับไปออกรบ สมัยเปิดใหม่ๆ ผมชอบมาก คนไม่เยอะ แล้วเค้าไม่รับคนแบบล้นขนาดนี้ เดี๋ยวนี้มีโต๊ะเสริม มีขอแจมวางเหล้า
อย่างไรก็ตาม กลับไปเมืองไทยครั้งล่าสุด ผมก็ยังคงไปสถิตที่นั่นเป็นประจำ
เพื่อนๆมันทำงานทำการ บ้างมีเมีย และอาจจะมีลูก จะชวนไปเที่ยวก็เกรงว่าบาปกรรมจะตกกับตัวเองในอนาคต โทรจิกเพื่อนกว่าจะครบ กว่าจะหาขาได้ เอาตังค์ค่าโทรมาจ่ายค่ามิกซ์ดีกว่า อย่ากระนั้นเลย ผมจึงฉายเดี่ยวเกือบทุกคืน
ที่นั่งประจำผมจะอยู่ที่บาร์ ตรงหน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน น้องหญิงซึ่งเป็นพนักงานประจำตรงเคาน์เตอร์ จะจับจองที่นั่งนั้นให้ผมตลอด ไปถึงก็เปิดเร้ดขวด น้ำแข็งหนึ่ง น้ำเปล่าหนึ่ง นั่งไปเรื่อย เบื่อก็กลับ ติดลมก็ลากยาว
อีกคนที่ผมคุ้นเคย คือ พี่แดง ผู้เสมือนเป็นหัวหน้าทีมพนักงาน
การไปนั่งกินคนเดียวทำให้ผมเจอมิตรสหายใหม่ๆเป็นจำนวนมาก ไม่น่าเชื่อมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่นิยมไปนั่งดื่มคนดียว
วันจันทร์ ผมจะเจอสาวคนหนึ่งเป็นประจำ มักมาเวลาไล่กับผม ที่ประจำเธอติดกับผม เธอบอกผมว่าเธอสามารถเที่ยวได้เฉพาะวันจันทร์เท่านั้น แหม บังเอิญจริง ผมก็ชอบมาวันจันทร์เสียด้วย เพราะคนไม่เยอะ แถมดนตรีสดวงแรกมันเล่นเพราะดี
มีพี่คนหนึ่ง ขานี้มาคนเดียวทุกวัน ชอบดื่มสวิง คนในนั้นเรียกกันว่า “ป๋า”
มีผู้ชายอีกคน หมอนี่ผมสังเกตว่าเป็นนักดื่มตัวกลั่น บางวันก็มาคนเดียว บางวันมันก็หนีบสาวมา อีกบางวันมันก็หนีบสาวมาแต่เป็นคนละคนกับวันก่อน
ที่สำคัญ ตาผู้จัดการร้านผู้ดื่มเหล้าราวกับพายุ แถมชอบแจมขึ้นไปร้องเพลงประจำอย่าง “หลงกล” ของหินเหล็กไฟ และ “ชู้รัก” ของวายน็อตเซเว่น
บางทีผมนั่งๆคนเดียว ก็เจอพี่ๆ เพื่อนๆ โดยไม่ได้นัดหมาย
อาจเป็นไปได้ว่าร้านนี้คงถูกจริตคนทำงาน สังเกตได้จากไม่ค่อยมีวัยรุ่น เด็กแนว
ส่วนดนตรีสด ถ้าไปในอัตราความถี่แบบผม ก็ต้องบอกว่าเพลงซ้ำๆ บางทีฟังไปฟังมาก็เบื่อ เรียกได้ว่า จำได้เลยว่าต้องมีเพลงไหนต่อบ้าง
หนีไม่พ้นต้องมี...
รักแท้ดูแลไม่ได้, น้ำเต็มแก้ว, ใจนักเลง, มนุษย์ค้างคาว, เพียงกระซิบ, เจ็บไปเจ็บมา, จอมยุทธ, ความรักทำให้คนตาบอด, คนที่ถูกรัก, หลอกกันเล่นเลย, สองใจ
แต่จะอย่างไร ผมก็ยังชอบไปอยู่ดี
ว่าแล้วก็อยากกลับไปเจอบรรยากาศที่คุ้นเคย
เบื่อเหลือเกินร้านมอลลี่ “จำลอง” ที่ห้องของผม
เมื่อก่อน ถนนข้าวสารเป็นข้าวสารให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ร้านรวงต่างๆจับกลุ่มลูกค้าฝรั่งเท่านั้น จนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ มหาอำนาจอย่างเครือบัดดี้ของคุณไทฟ้าและเพื่อนๆก็เปิดร้านใหม่ๆจับกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น จากเดิมที่มีซูซี่เป็นหัวหอก (ซึ่งแรกๆก็มีฝรั่งเยอะอยู่) ก็ขยายมาออสติน, เดอะ คลับ, บัดดี้ ล็อดจ์, ต้มยำกุ้ง, บริค บาร์, มอลลี่ และล่าสุดซินนามอน
แต่ละร้านของเครือบัดดี้จะมีธีมที่จับกลุ่มลูกค้าหลากหลายเป้าหมายแบบครบวงจร
ซูซี่ก็เน้นแดนซ์กระจาย
เดอะ คลับ ด้วยเหตุที่มีพื้นที่กว้างขวาง หลังๆเลยปรับร้านไว้รองรับคอนเสิร์ต
ออสติน ตอนนี้ปรับโฉมเน้นเพลงเรโทรรุ่นเซเวนตี้
ต้มยำกุ้ง ก็เน้นคนมานั่งกินข้าว คุยกัน
บัดดี้ ล็อดจ์ เน้นกินข้าว และมีทีเด็ดไว้ให้คนติดลมหลังตี ๑ แอบมานั่งกินเหล้า กินเบียร์ต่อ เขาจะไม่ยกมาให้เป็นขวดๆ แต่แอบเทเครื่องดื่มใส่แก้วมาให้ เพราะกลัวตำรวจซิว
บริค บาร์ ก็เป็นแนวสกา เด็กแนวแดนซ์กระจาย หลังๆกลัวคนเข้าไปตีมึน เต้นฟรี เลยขายบัตรเข้าทุกศุกร์ เสาร์
มอลลี่ ก็เล่นสด ชิลล์ ชิลล์ มีทั้งเพลงใหม่และเพลงเก่าแบบ พงษ์พัฒน์ ไมโคร นูโว บิลลี่ อัสนี วสันต์
ซินนามอน แบ่งเป็นโซน นั่งชิลล์ฟังเพลง กับฮิปฮอป
สมัยเป็นนักศึกษา ผมไม่ชอบเที่ยวเส้นนี้เท่าไร เพราะมันยกหางฝรั่งเกินไปหน่อย ส่วนใหญ่กินเหล้าเส้นพระอาทิตย์ ท่าอยากมันส์ๆ ชมสาว จับสาว ผมก็จะไปเส้นทองหล่อหรือาร์ซีเอ
แต่พอเริ่มวัยทำงาน ผมก็กลับลำมาเที่ยวเส้นข้าวสาร ด้วยเหตุที่ว่าใกล้ที่ทำงาน กลับบ้านสะดวก นั่งแท็กซี่ ๑๐๐ บาทถึงบ้าน และเริ่มมีสาวๆสวยๆหลุดรอดเข้ามาบ้าง จริงอยู่คงไม่งามงอนเทียบเท่าทองหล่อหรือเอกมัย แต่ผมว่าก็ดูดีตามวัยของผม แถมเหล้าและมิกเซอร์ก็ถูกกว่ากันเยอะ
ร้านที่ผมไปนั่งประจำ คือ มอลลี่ ไม่รู้เหมือนกันว่าไปติดใจอะไรนักหนา สาวก็มีบ้าง ไม่มีบ้างแล้วแต่วัน เพลงก็ซ้ำไปซ้ำมา
อาจเป็นเพราะว่าพอเริ่มสูงอายุ ผมไม่อยากออกไปสู้รบปรบมือเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ แก่งแย่งเก้าอี้ เบียดเสียด ยัดเยียดราวกับขอเที่ยวฟรี
ผมชอบไปตั้งแต่ร้านเปิด วงแรกขึ้นเล่นประมาณ ๒ ทุ่ม คนน้อยมาก นั่งสบาย ไม่เบียด แต่พอ ๔ ทุ่ม เอาแล้วครับ คนเริ่มยัดเยียดกันเข้ามา ยิ่งศุกร์ เสาร์ ไม่ต้องพูดถึง ลุกไปฉี่ทีกว่าจะกลับมาได้ก็สบักสบอมราวกับไปออกรบ สมัยเปิดใหม่ๆ ผมชอบมาก คนไม่เยอะ แล้วเค้าไม่รับคนแบบล้นขนาดนี้ เดี๋ยวนี้มีโต๊ะเสริม มีขอแจมวางเหล้า
อย่างไรก็ตาม กลับไปเมืองไทยครั้งล่าสุด ผมก็ยังคงไปสถิตที่นั่นเป็นประจำ
เพื่อนๆมันทำงานทำการ บ้างมีเมีย และอาจจะมีลูก จะชวนไปเที่ยวก็เกรงว่าบาปกรรมจะตกกับตัวเองในอนาคต โทรจิกเพื่อนกว่าจะครบ กว่าจะหาขาได้ เอาตังค์ค่าโทรมาจ่ายค่ามิกซ์ดีกว่า อย่ากระนั้นเลย ผมจึงฉายเดี่ยวเกือบทุกคืน
ที่นั่งประจำผมจะอยู่ที่บาร์ ตรงหน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน น้องหญิงซึ่งเป็นพนักงานประจำตรงเคาน์เตอร์ จะจับจองที่นั่งนั้นให้ผมตลอด ไปถึงก็เปิดเร้ดขวด น้ำแข็งหนึ่ง น้ำเปล่าหนึ่ง นั่งไปเรื่อย เบื่อก็กลับ ติดลมก็ลากยาว
อีกคนที่ผมคุ้นเคย คือ พี่แดง ผู้เสมือนเป็นหัวหน้าทีมพนักงาน
การไปนั่งกินคนเดียวทำให้ผมเจอมิตรสหายใหม่ๆเป็นจำนวนมาก ไม่น่าเชื่อมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่นิยมไปนั่งดื่มคนดียว
วันจันทร์ ผมจะเจอสาวคนหนึ่งเป็นประจำ มักมาเวลาไล่กับผม ที่ประจำเธอติดกับผม เธอบอกผมว่าเธอสามารถเที่ยวได้เฉพาะวันจันทร์เท่านั้น แหม บังเอิญจริง ผมก็ชอบมาวันจันทร์เสียด้วย เพราะคนไม่เยอะ แถมดนตรีสดวงแรกมันเล่นเพราะดี
มีพี่คนหนึ่ง ขานี้มาคนเดียวทุกวัน ชอบดื่มสวิง คนในนั้นเรียกกันว่า “ป๋า”
มีผู้ชายอีกคน หมอนี่ผมสังเกตว่าเป็นนักดื่มตัวกลั่น บางวันก็มาคนเดียว บางวันมันก็หนีบสาวมา อีกบางวันมันก็หนีบสาวมาแต่เป็นคนละคนกับวันก่อน
ที่สำคัญ ตาผู้จัดการร้านผู้ดื่มเหล้าราวกับพายุ แถมชอบแจมขึ้นไปร้องเพลงประจำอย่าง “หลงกล” ของหินเหล็กไฟ และ “ชู้รัก” ของวายน็อตเซเว่น
บางทีผมนั่งๆคนเดียว ก็เจอพี่ๆ เพื่อนๆ โดยไม่ได้นัดหมาย
อาจเป็นไปได้ว่าร้านนี้คงถูกจริตคนทำงาน สังเกตได้จากไม่ค่อยมีวัยรุ่น เด็กแนว
ส่วนดนตรีสด ถ้าไปในอัตราความถี่แบบผม ก็ต้องบอกว่าเพลงซ้ำๆ บางทีฟังไปฟังมาก็เบื่อ เรียกได้ว่า จำได้เลยว่าต้องมีเพลงไหนต่อบ้าง
หนีไม่พ้นต้องมี...
รักแท้ดูแลไม่ได้, น้ำเต็มแก้ว, ใจนักเลง, มนุษย์ค้างคาว, เพียงกระซิบ, เจ็บไปเจ็บมา, จอมยุทธ, ความรักทำให้คนตาบอด, คนที่ถูกรัก, หลอกกันเล่นเลย, สองใจ
แต่จะอย่างไร ผมก็ยังชอบไปอยู่ดี
ว่าแล้วก็อยากกลับไปเจอบรรยากาศที่คุ้นเคย
เบื่อเหลือเกินร้านมอลลี่ “จำลอง” ที่ห้องของผม
9 ความคิดเห็น:
อนุสนธิจากบทความ "ไม่เอานายกฯพระราชทาน" จึงขอถามคุณนิติรัฐหน่อย
1.ผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามพรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ม.41 ต้องมาจากการเลือกตั้ง ตามบทบัญญัติ รธน. ม.201 ด้วยใช่หรือไม่ ?
2.เป็นไปได้หรือไม่หากจะตีความคำว่า "นายกรัฐมนตรี" ตาม ม.41 พรบ.ระเบียบบริหาร อย่างแคบ โดยหมายถึงเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่ทำหน้าทีก่อนยุบสภาเท่านั้น โดยไม่หมายรวมถึงนายกฯที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่จนกว่าจะได้ ครม.ชุดใหม่ ดังที่เป็นอยู่เช่นปัจจุบัน เมื่อตีความเช่นนี้แล้ว ม.41 ก็จะไม่มีผลใช้บังคับในกรณีที่นายกฯ ลาออก (ทำให้ความฝันของกลุ่มผู้ที่อยากใช้ ม.7 มีความหวังขึ้นมาได้)
ไม่ได้อยากฉีกรัฐธรรมนูญนะครับ--เสียดายของ แค่ถามเพื่อความเห็นทางวิชาการเท่านั้น
ขอขอบคุณอย่างเป็นทางการข้ามประเทศ ครับผม
ด้วยบทความที่เติมเต็มไปด้วยความน่าสนใจ กระชับ ชัดเจนจนเลยเถิดเป็นจัดเจน ของพี่
ทำให้เด็กโง่ๆคนหนึ่ง ที่ไม่ค่อยพิศมัยอะไรมากมายกับการนิติศาสตร์น่าเบื่อหน่าย (ในความหมายของบทความภาษาหรือกลวิธีอันแห้งแล้ง) ทำให้ผมได้อ่านบทความกม.มากขึ้น เพราะมันน่าสนใจเป็นที่สุดและได้ความรู้ คิดแตกต่อไปหาอะไรมาประดับกบาลกับชีวิตนิติศาสตร์บัณฑิต รสนิยมสาธารณ์หรือสามานย์คนหนึ่ง
ก่อนวันสอบปริญญาโทไม่กี่วัน พวกเพื่อนที่จะสอบด้วยกันก็ได้มีโอกาสมานั่งคุยกัน และมันก็ถามประเด็นบ้านเมือง เพื่อกะเก็งอ่านสอบ (พี่ราโชคงไม่ชอบแน่เลย)ผมเลยแนะนำเพื่อนทุกคนให้มาอ่านงานของพี่ เพราะมันจำง่ายมันอยู่ในโอเพน สุดท้ายเพื่อนผมก็ชอบใจกันใหญ่ ด้วยงานพี่เองที่มีสาระและเข้าใจง่าย และตัวโอเพนออนไลน์ และพวกเพื่อนก็ลือติดกันแล้ว(ทั้งบลอกของพี่โต พี่กล้า ด้วยครับ) ส่วนโอเพนออนไลน์ นี่มันงอมแงมกันไปเลย
แต่ประเด็นสำคัญมันออกข้อสอบโททำให้ผมเขียนสบายเลย (เรื่องมาตรา เจ็ด รธน.) แต่ไม่เหมือนของพี่ซะทีเดียวฮะ เดี๋ยวป๋าอัดเอา ป๋าออกข้อสอบครับ
เพื่อนผมมันกรี๊ดเปี๊ยวป้าวเลยพอเจอผม
ไม่รู้ซิ มันภูมิใจอยู่ลึกๆครับ ที่ทำให้เพื่อนๆได้มาร่วมอ่านหนังสือดีๆ หรืองานๆดี
นี่พี่ได้บุญนะเนี่ย
แต่ยังไงพี่ก็ได้ แฟนอ่านงานเพิ่ม แล้วนะ(ผู้หญิงก็มี.. ขอโทษที่กล่าวล่วง)
นี่ถ้าไม่เจอพวกพี่ ไม่รู้ผมจะเป็นงัย(ยิ่งเฉพาะหวดผมที่บริคบาร์ผมยังจำได้ครับ ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงจากวันนั้นไปมากทีเดียว พี่โต พี่โตเล็ก และพี่)
ขอบคุณครับจากใจครับ
เดี๋ยววันนี้ผมไปข้าวสารจะยกมือไหว้มอลลี่ครับ
555!!!
ตอบ etat c'est moi
ข้อ ๑ ผมคิดว่าไม่จำเป็น เพราะ คุณสมบัติของนายกฯเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัว ไม่ต้องเอามาใช้กับรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่จะมารักษาราชการแทน
สังเกตได้จาก เวลานายกฯไม่อยู่ ก็จะเอารองนายกฯคนหนึ่งขึ้นมารักษาราชการแทน ซึ่งก็ไม่ได้เป็น ส.ส. อย่างสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
ข้อ ๒ ผมว่าไม่ได้นะ เพราะถ้าจะให้หมายความแบบนั้น ก.ม.ก็ต้องเขียนไว้ให้ชัดว่าไม่ให้นำมาใช้กับนายกฯระหว่างยุบสภา
ต้องไม่ลืมว่าในระบบกฎหมาย คงไม่ยอมให้รัฐขาดรัฐบาลที่ทำหน้าที่บริหาร ตามหลักการ ความต่อเนื่องของการบริหารราชการแผ่นดิน ผมจึงว่ามาตรา 41 ต้องตีความให้กว้าง
ยังไงก็ลองแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ
ตอบ แทน Soulseeker
ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
ดีใจมากที่แทนและเพื่อนๆได้ประโยชน์จากงานของผม
ชีวิตผมบางทีก็แฮปปี้กับเรื่องแค่นี้แหละ
ผมว่าแทนน่าจะเดินเร็วกว่าพวกผมนะ สมัยนั้น พวกผมยังวิ่งเล่น ไร้สาระไปวันๆอยู่เลย
ไอ้เรา ก็คิดว่า "มอลลี่" ที่ไหน นึกว่า "นส. มอลลี่" อะไรทำนองนั้น ....
อืม... ผมก็เห็นเช่นเดียวกันนะ ขอบคุณครับสำหรับคำตอบ
หวัดดีคับ พอดีมีน้องคนหนึ่งซึ่งเที่ยวมอลลี่ ส่งมาให้อ่าน
ยินดีที่มีคนรักมอลลี่บาร์เหมือนผม
ไม่แน่ผมอาจจะเจอกับพี่บ้างแล้วก็ได้
แต่ส่วนมากผมอยู่ข้างบน เล่นพูล พอเมาๆ ก็ไปเคาะกระป๋องในบาร์เล่น
หนุกดี พนักงานในมอลลี่ทุกคนผมถือว่าเป็นพี่น้องผมหมด ป้าแดง น้องหญิง ชา และอื่นๆ
รวมถึง แบงค์ ผู้จัดการร้านนักดื่ม ตอนนี้เค้าไปอยู่ ที่มอลลี่ อาร์ ซี เอ แล้วนะ
ขยายสาขา สู่ใจกลางเมือง...555!
หวังว่าคงจะได้เจอกัน ไม่คืนไหน ก็คืนหนึ่ง เพราะผมไปเกือบทุกวันเหมือนกัน .....
Molly bar
Welcom Home
พอดีได้เข้ามาอ่านเข้า
ไม่ยักกะรู้ว่า
บนโลกนี้...ยังมีคนแบบเดียวกันอยู่อีก
มอลลี่เหรอ
นึกถึง.....พี่แบงค์
ผู้จัดการร้านก่อนเลย
มันเป็นอะไรที่.........อืม
อยู่แล้วสบายใจ
情趣用品,情趣用品,情趣用品,情趣用品,情趣用品,情趣用品,情趣,情趣,情趣,情趣,情趣,情趣,情趣用品,情趣用品,情趣,情趣,A片,A片,情色,A片,A片,情色,A片,A片,情趣用品,A片,情趣用品,A片,情趣用品,a片,情趣用品,A片,A片
A片,A片,AV女優,色情,成人,做愛,情色,AIO,視訊聊天室,SEX,聊天室,自拍,AV,情色,成人,情色,aio,sex,成人,情色
免費A片,美女視訊,情色交友,免費AV,色情網站,辣妹視訊,美女交友,色情影片,成人影片,成人網站,H漫,18成人,成人圖片,成人漫畫,情色網,日本A片,免費A片下載,性愛
情色文學,色情A片,A片下載,色情遊戲,色情影片,色情聊天室,情色電影,免費視訊,免費視訊聊天,免費視訊聊天室,一葉情貼圖片區,情色視訊,免費成人影片,視訊交友,視訊聊天,言情小說,愛情小說,AV片,A漫,AVDVD,情色論壇,視訊美女,AV成人網,成人交友,成人電影,成人貼圖,成人小說,成人文章,成人圖片區,成人遊戲,愛情公寓,情色貼圖,色情小說,情色小說,成人論壇
情色貼圖,色情聊天室,情色視訊,情色文學,色情小說,情色小說,臺灣情色網,色情,情色電影,色情遊戲,嘟嘟情人色網,麗的色遊戲,情色論壇,色情網站,一葉情貼圖片區,做愛,性愛,美女視訊,辣妹視訊,視訊聊天室,視訊交友網,免費視訊聊天,美女交友,做愛影片
A片,A片,A片下載,做愛,成人電影,.18成人,日本A片,情色小說,情色電影,成人影城,自拍,情色論壇,成人論壇,情色貼圖,情色,免費A片,成人,成人網站,成人圖片,AV女優,成人光碟,色情,色情影片,免費A片下載,SEX,AV,色情網站,本土自拍,性愛,成人影片,情色文學,成人文章,成人圖片區,成人貼圖
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก