tag:blogger.com,1999:blog-11720999.post114524142955446165..comments2023-11-05T11:11:22.773+01:00Comments on Etat de droit: อาลัยอาจารย์สุธีร์Etat de droithttp://www.blogger.com/profile/03908980528583804214noreply@blogger.comBlogger11125tag:blogger.com,1999:blog-11720999.post-84108119559416388672018-10-27T08:24:56.244+02:002018-10-27T08:24:56.244+02:00www1027
clarks shoes
mbt shoes
kate spade outlet...www1027<br /><br /><br /><a href="http://www.clarksshoes.us.org" rel="nofollow"><strong>clarks shoes</strong></a><br /><a href="http://www.mbtoutletshoes.us.com" rel="nofollow"><strong>mbt shoes</strong></a><br /><a href="http://www.katespadeoutleto.us.com" rel="nofollow"><strong>kate spade outlet</strong></a><br /><a href="http://www.uggbootsforwomen.in.net" rel="nofollow"><strong>ugg boots</strong></a><br /><a href="http://www.cheapnike-shoes.com" rel="nofollow"><strong>nike shoes</strong></a><br /><a href="http://www.katespadeoutletks.us.com" rel="nofollow"><strong>kate spade outlet</strong></a><br /><a href="http://www.red-bottomshoes.us.org" rel="nofollow"><strong>red bottom shoes</strong></a><br /><a href="http://www.moncler-outlets.us.org" rel="nofollow"><strong>moncler outlet</strong></a><br /><a href="http://www.christianlouboutinoutletcom.us" rel="nofollow"><strong>christian louboutin</strong></a><br /><a href="http://www.clarksoutlet.me.uk" rel="nofollow"><strong>clarks outlet</strong></a><br /><br /><br /><br /><br />Anonymoushttps://www.blogger.com/profile/07126467365618669731noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-11720999.post-1152434340685053452006-07-09T10:39:00.000+02:002006-07-09T10:39:00.000+02:00อาจารย์ครับ ผมไม่มีโอกาสกราบเท้าอาจารย์เป็นครั้งสุ...อาจารย์ครับ ผมไม่มีโอกาสกราบเท้าอาจารย์เป็นครั้งสุดท้าย แต่ก้อได้ไปกราบเท้าในวันรดน้ำศพ ผมเชื่อว่าวิญญาณท่าอาจารย์จะสู่สรวงสวรรค์แน่ และคงอีกหลายชาติที่จะมีโอกาสได้พบอาจารย์ที่แท้จริงและมีเมตตาอย่างอาจารย์อีก<BR/>อาจารย์ทั้งเก่งและถ่ายทอดและมีเมตตา ผมเป็นคนทุกวันนี้ก้อเพราะความเมตตาของอาจารย์<BR/>กราบขอบพระคุณครับAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-11720999.post-1145934397113518882006-04-25T05:06:00.000+02:002006-04-25T05:06:00.000+02:00กราบลาอาจารย์สุธีร์ที่เคารพ - อาจารย์สุธีร์ สุภน...กราบลาอาจารย์สุธีร์ที่เคารพ<BR/> - อาจารย์สุธีร์ สุภนิตย์ เป็นกรรมการสอบสัมภาษณ์<BR/>ตอนที่เราสอบเข้าเป็นนักศึกษาภาคบัณฑิตคณะนิติ มธ.<BR/>นอกจากนั้น เรายังได้เรียนวิชาเอกเทศสัญญา 2 กับท่านอาจารย์ในบางครั้ง (สัปดาห์แรกๆ) หลังจากนั้นเราก็โดดวิชานี้บ่อยๆ แต่ก็ยังอ่านตำรายืมฝากทรัพย์ ที่ท่านอาจารย์เขียน จนกระทั่งสอบผ่านวิชานี้ได้แบบพอเข้าใจหลักการ จากนั้นมาในปีท้ายๆ เราก็ได้เข้าเรียนวิชากฎหมายล้มละลายกับท่านอาจารย์สุธีร์ฯ อย่างจริงจัง (เพราะกลัวไม่จบ) ไม่เคยโดดเรียนเลยสักครั้ง และก็สอบผ่านวิชานี้แบบฉลุย <BR/> - เราไม่เคยสัมผัสแบบใกล้ชิดกับท่านอาจารย์ฯเลย<BR/>นอกจากวันสอบสัมภาษณ์ครั้งนั้น แต่ได้เดินผ่านบ้าง สวนทางกันบ้างบ่อยๆ ในคณะนิติ เราเคยสังเกตสีหน้า<BR/>ของท่านอาจารย์ฯ ด้วยความสงสัยว่าทำไมจึงหมองคล้ำนัก ไม่นึกว่ามะเร็งร้ายจะรุมเล้าอาจารย์อยู่ แต่ทุกครั้งที่พบท่านอาจารย์ฯก็มักจะเห็นใบหน้าเปื้อนลอยยิ้มอยู่เสมอ<BR/> - ขอให้บุหรี่ มวนมะเร็ง เป็นอุทาหรณ์สอนใจสิงห์อมควันทั้งหลาย ให้ระลึกถึงมรณานุสติให้ดีเถิด อย่าเอาควันบุหรี่มาทำลายตัวเอง และคนรอบข้างเอย ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม มันบาปทั้งนั้น<BR/> - ขอให้ดวงวิญญาณท่านอาจารย์สุธีร์ ศุภนิตย์ ไปสู่สุคติในสัมปรายภพ เทอญ<BR/> -Anonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-11720999.post-1145544233640099952006-04-20T16:43:00.000+02:002006-04-20T16:43:00.000+02:00จำท่านได้ติดตาตอนที่เข้าพิธีปฐมนิเทศคณะพร้อมเพื่อน...จำท่านได้ติดตาตอนที่เข้าพิธีปฐมนิเทศคณะพร้อมเพื่อนๆ ตกกลางคืนมีการผูกสายสิญจน์ โดยท่านคณะบดี ซึ่งก็ต้องเป็นท่านอ.สุธีร์ (เพราะท่านก็เป็นอยู่ปีนั้นปีเดียว)<BR/>ด้วยอะไรไม่ทราบ (แล้วก็จำไม่ได้จนถึงบัดนี้) ผมอยากให้ท่านผูกเป็นคนสุดท้าย (สงสัยอยากได้พรพิเศษ)ก็เลยรอจนถึงตีสอง! ปรากฎพอมาถึงผมท่านก็พูดว่า<BR/>อ.สุธีร์ :"เดี๊ยว!ขอพักดูดบุหรี่ก่อน" <BR/>แล้วท่านก็มองหน้าผม <BR/>อ.สุธีร์ :"จะดูดด้วยกันไหมเรานะ"(รู้ได้งัยเนี้ย)<BR/>ไอ้ผมก็<BR/>จ่าจู๊ด:"ครับ(-_-')" <BR/>อ.สุธีร์:"ที่สอบ(เอ็นฯ)มานี้ยังมีอะไรจำได้บ้างไหมเรา"<BR/>จ่าจู๊ด: "คืนครูที่โรงเรียนไปหมดแล้วละครับ"<BR/>อ.สุธีร์:ดูดยาแล้วมองหน้าผม "คืนไปเร็วจัง"<BR/>จ่าจู๊ด: "ก็ โรงเรียนสอนแต่วิชาที่ไม่ได้ใช้นิครับ ผมไปซื้อของในตลาดไม่เห็นต้องถอดรูทเลยครับ ของมันเกินใช้ทั้งนั้น เอ็นฯติดแล้วก็แทบจะลืมทันทีเลยครับ"<BR/>อ.สุธีร์:พยักหน้าเห็นด้วย"แย่จังนะ ลำบากละสิท่า"<BR/>.........<BR/><BR/>ผมช่วยลดบุหรี่ในซองของท่านได้แค่ตัวเดียวเอง....<BR/>กลับบ้านไปโม้กับพ่อว่าได้ดูดบุหรี่กับกับ(ไม่สิของเลยละ)คณะบดีด้วย พ่อก็เอ็ดว่าเด็กทะลึ่งกล้าไปขอคณะบดีดูดตั้งแต่ยังไม่เข้าเรียนเลยนะ..........<BR/><BR/>ยังคิดถึงคืนนั้นเสมอครับ อาจารย์.....Anonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-11720999.post-1145266504005937442006-04-17T11:35:00.000+02:002006-04-17T11:35:00.000+02:00ผมเองก็เป็นคนหนึ่ง ตอนที่กลับมาจากอังกฤษใหม่ๆ ผมไป...ผมเองก็เป็นคนหนึ่ง ตอนที่กลับมาจากอังกฤษใหม่ๆ ผมไปหาเืพื่อนๆรุ่น 39 ที่คณะ...ปกติผมเป็นคนไม่ค่อยสนิทกับ อาจารย์เท่าไหร่ แต่วันนั้น ในระหว่างที่ผมรอเพื่อนที่ยังไปยืนอ่านการ์ตูนที่ท่าพระจันทร์ ผมก็ได้เจอกับ อ.สุธีร์ ผมไม่รู้หรอกว่า อ.จะจำผมได้รึเปล่า เพราะผมเป็นแค่ นศ ธรรมดาไม่โดดเด่นอะไร <BR/><BR/>แต่ อ.สุธีร์ กลับทักผมด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร "ว่ายังไง...เป็นยังไงบ้าง" แต่แน่นอน ... อ.ทักผมพร้อมกับกำลังสูบบุหรี่...มันทำให้ผมปลาบปลื้มมาก (ไม่ต้องสนใจหรอกว่า..งแกจะจำได้รึเปล่า)<BR/><BR/>ผมยิ้มตอบ อ. "ว่าสบายดีครับ..." <BR/><BR/>ในระหว่างที่ผมทำงานเป็น lecturer ระยะสั้นๆที่ มหาวิทยาลัย ต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเพื่อนรุ่นพี่จากจุฬาคนหนึ่งก็ทำงานด้วยกันกับผม บอกว่า ตอนนั้นพี่แกเจอ อ.สุธีร ที่จุฬา (คงไปรอภรรยา) ์รุ่นพี่ก็บอกว่า ตอนนั้น แกไม่มีเสียงจะพูดแล้ว...<BR/><BR/>นั่นคงเป็นสัญญา๊ณบอกเหตุว่า...ร่างกายแก คงไม่ไหวแล้ว<BR/><BR/>ในฐานะศิษย์(ที่ห่างไกล)คนหนึ่ง ของ อ. ...ขอให้ดวงวิญญาณของท่านอ.สุธีร์ ได้สูกลับไปสู่่อ้อมอกอันเป็นนิรันดร์ ของพระผู้อยู่เบื้องบน...<BR/><BR/>อยากให้ อ.ได้ไปสอนหนังสือที่แกรัก ต่อ ณ ดินแดนแห่ง นิรันดร์กาล<BR/><BR/>ขอบคุณ อ.ที่ทำให้ผมมีวันนี้ครับ...ขอบคุณครับAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-11720999.post-1145259514820087902006-04-17T09:38:00.000+02:002006-04-17T09:38:00.000+02:00อาลัยคณบดีคนแรกของผมเนื่องในโอกาสที่ Blog ของผมประ...อาลัยคณบดีคนแรกของผม<BR/><BR/>เนื่องในโอกาสที่ Blog ของผมประท้วงขอหยุดงาน ทั้งนี้เนื่องจากความซุกซนของผมเอง ผมจึงขอแสดงความอาลัยต่อคณบดีคนแรกของผม ผ่านทาง blog ของนิติรัฐ ในฐานะที่เป็นศิษย์ร่วมรุ่น ร่วมวิชา และได้เริ่มต้นสถานภาพนักศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การบริหารของ รศ.สุธีร์ ศุภนิตย์ ด้วยกัน<BR/><BR/>ปีการศึกษา ๒๕๔๐ เป็นปีแรกของผม และเพื่อนๆร่วมรุ่น ที่ได้เริ่มต้นสถานภาพนักศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในขณะเดียวกัน นี่ก็เป็นปีแรกของการก้าวมาเป็นผู้บริหารสูงสุดของคณะของอาจารย์สุธีร์ ในฐานะ “คณบดี” เช่นกัน<BR/><BR/>ในขณะที่สถานภาพนักศึกษาของผมยังดำเนินต่อไปอีกสี่ปี แต่สถานภาพคณบดีของอาจารย์กลับสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว เพียงปีการศึกษาเดียว ด้วยเหตุผลที่ไม่ควรกล่าวถึง (ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากคำว่า “ได้ยินเขาว่ากันว่า”) <BR/><BR/>รุ่นผมจึงเป็นรุ่นเดียวที่เริ่มต้นสถานภาพนักศึกษาภายใต้คณบดีที่ชื่อ “สุธีร์” <BR/><BR/>อย่างไรก็ตามกว่าวงจรชีวิตการศึกษาของผมจะเวียนมาพบกับอาจารย์ก็ต้องรอจนผมอยู่ปีสุดท้าย ในวิชากฎหมายล้มละลาย<BR/><BR/>ต้องยอมรับว่า ผมค่อนข้างปวดหัวกับวิชานี้มาก (แม้ว่าเจ้าของบล็อกจะยืนยันว่า “เรา” (อันหมายถึงผม มัน และฝูงเพื่อน) สนุกสุดแสนในวิชานี้ เมื่อครั้งที่เราจับกลุ่มติวกันก่อนสอบอันเป็นกิจกรรมที่พวกผมทำกันเป็นประจำปี ตั้งแต่ปีแรกกระทั่งปีสุดท้าย) เนื่องจากเนื้อหาและหลักการของวิชานี้เองที่ค่อนข้างจะสลับซับซ้อนเพราะถือได้ว่าเป็น “กฎหมายเศรษฐกิจ” ฉบับสำคัญ<BR/><BR/>อาจารย์สอนวิชานี้ได้ “แนว” มาก ในขณะที่อาจารย์ท่านอื่น (และที่อื่น) สอนวิชานี้ไม่ต่างจาก “กฎหมายวิธีพิจารณาความ” ซึ่งว่าเป็นขั้นตอนวิธีปฏิบัติทางกระบวนการยุติธรรม แต่อาจารย์กลับพยายามวางหลักการ และทฤษฎี ให้นักศึกษามากกว่า ซึ่งก็เหมือนกับหนังสือคำอธิบายกฎหมายล้มละลายที่ท่านแต่งขึ้นเช่นกัน<BR/><BR/>ผมจำได้ว่า วิชานี้เป็นวิชาแรกที่ผมรวบรวมความกล้า (ที่ปกติมักไม่มี) ยกมือขึ้นถามอาจารย์เกี่ยวกับ “การพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว” ในห้องบรรยาย ขนาด ๒๐๐ ที่นั่ง และอาจารย์กรุณาตอบด้วย “คำถาม” กลับมา<BR/><BR/>หน้าที่ของอาจารย์ไม่เคยจบสิ้นเมื่อสิ้นสุดการบรรยายในห้องตามตารางเวลา ภาพของอาจารย์ที่มักจะถูกรุมล้อมด้วยนักศึกษานับสิบชีวิต พร้อมยิงคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาวิชา ราวกับกองทัพนักข่าวสายการเมืองแย่งจ่อไมค์ทิ่มปากบรรดารัฐมนตรีหน้าทำเนียบ แต่ที่แตกต่างคือ อาจารย์ไม่เคยหลบนักศึกษา ไม่เคยปฏิเสธที่จะตอบคำถาม อาจารย์พร้อมและเต็มใจที่จะยืนตอบคำถามคลายข้อสงสัย (เพราะอาจารย์รู้ว่าเด็กมักไม่จบ หรือไม่ก็อดเกียรตินิยม เพราะตกวิชานี้กันมาก) เรียกได้ว่าไม่เลิกถามอาจารย์ก็ไม่เลิกตอบ บางรายก็ตามไปถามต่อในห้องพัก รวมไปถึงที่ลานจอดรถด้วย<BR/><BR/>ผมขอสารภาพว่าเคยเรียกอาจารย์ว่า “อาจารย์พ่อ” ทั้งนี้เพื่อเลียนแบบ อาจารย์คนดัง นักพูด จากรั้วจามจุรี ที่ตอนนี้ไปได้ดีกับ “อาร์แบค” ท่านหนึ่ง เหตุเพราะอาจารย์สุธีร์ ของผมท่านมีเอกลักษณ์ในการบรรยาย ด้วยลีลาสำนวนเฉพาะตัวอันคล้ายคลึง พร้อมๆกับเคยล้อเลียนลีลาการบรรยายของท่านในหลายกาละและเทศะในหมู่เพื่อน<BR/><BR/>“เข้าใจ เมาะ ค๊อบ” <BR/><BR/>ประโยคปิดท้ายการบรรยายประจำตัวของอาจารย์ ที่ผมมักจะหยิบมาล้อเลียนอย่างไม่เกรงกลัวบาปกรรมอยู่เสมอ<BR/><BR/>แต่ผมขอแก้ตัวไว้ตรงนี้เลยว่า อาจารย์แต่ละท่านที่ผมก่อวีรกรรมล้อเลียนลับหลัง (ยังไม่เคยปรากฏว่าพฤติกรรมของผมไปปรากฏต่อหน้าท่านทั้งหลายแต่อย่างใดนะครับ) ผมนั้นรักและนับถือท่านทุกคน เรียกได้ว่า “หากไม่รัก ไม่ล้อเลียน” ครับ<BR/><BR/>นอกจากภาพอาจารย์พ่อใจดี ยืนหยัดตอบคำถามนักศึกษาขี้สงสัยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยแล้ว ภาพของอาจารย์สุธีร์ยืนเท้าแขน ณ ระเบียงทางเดิน ทอดสายตาไปเบื้องหน้า พร้อมระบายควันสีเทาที่ผ่านจากปอดและหลอดลมออกทางนาสิกทวารและโอษฐ์ทวาร ก็เป็นอีกภาพที่แสดงความเป็น “อาจารย์สุธีร์” ในความทรงจำของเหล่าศิษย์เช่นกัน<BR/><BR/>ผมไม่ทราบว่าท่านสูบหนักขนาดไหน แต่แทบทุกครั้งที่ผมพบท่าน (เว้นแต่เป็นการสวนกันระหว่างทางเดิน) ถ้าไม่ใช่ภาพแรก ก็มักจะเป็นภาพสองนี่แหล่ะ<BR/><BR/>เมื่อผมก้าวพ้นรั้วเหลืองแดงในฐานะนักศึกษาปริญญาตรีแล้ว ผมก็รับรู้ข่าวสารของท่านน้อยลง แม้จะยังอยู่ในฐานะนักศึกษาปริญญาโทก็ตาม <BR/><BR/>กระทั่งสายของวันนี้ (๑๗ เมษายน ๒๕๔๙) ผมไม่คิดว่าข่าวแรกในรอบหลายปีของท่านที่ผมรับรู้จะเป็นการจากไปของท่านอย่างไม่มีวันกลับ ยิ่งได้ทราบว่าช่วงปีหลังมานี้ท่านได้ต่อสู้กับโรคร้ายที่คอยกัดกินชีวิต ถึงขนาดต้องพักการสอน งานที่ท่านรัก ก็ยิ่งสะท้อนใจ<BR/><BR/>เย็นพรุ่งนี้ (๑๘ เมษายน ๒๕๔๙) ผมจะไปกราบท่านเป็นครั้งสุดท้ายที่วัดโสมนัสวรมหาวิหาร <BR/><BR/>ไปให้ท่านรับรู้ว่าศิษย์คนนี้จะไม่มีวันลืมอาจารย์<BR/><BR/>รองศาสตราจารย์ สุธีร์ ศุภนิตย์<BR/><BR/>คณบดีคนแรกของผมratioscriptahttps://www.blogger.com/profile/01820026479900544045noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-11720999.post-1145259044428878972006-04-17T09:30:00.000+02:002006-04-17T09:30:00.000+02:00ในฐานะที่เคยเรียนวิชา เอกเทศสัญญา 2 และ กม.ล้มละลา...ในฐานะที่เคยเรียนวิชา เอกเทศสัญญา 2 และ <BR/>กม.ล้มละลาย ขอให้ดวงวิญญาณของอาจารย์ไปสู่สุคติครับAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-11720999.post-1145251248175417692006-04-17T07:20:00.000+02:002006-04-17T07:20:00.000+02:00ท่านยิ้มสู้อย่างที่พี่คิดจริงๆครับผมมีโอกาสคุยกับท...ท่านยิ้มสู้อย่างที่พี่คิดจริงๆครับ<BR/>ผมมีโอกาสคุยกับท่านสองครั้ง ครั้งแรกก่อนท่านลาพักเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว ในฐานะที่ท่านเป็นอาจารย์ที่ผมนับถือมากที่สุดคนหนึ่ง ผมเข้าไปขอคำแนะนำท่านในฐานะลูกจ้างคนใหม่ของคณะ ซึ่งท่านให้คำแนะนำเป็นอย่างดี ดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่ผมได้ประสบเมื่อเวลาผ่านมาปีกว่า ในวันนั้น ได้ทราบสาเหตุการลาของท่านว่า นอกจากเพื่อพักผ่อนแล้ว ท่านจะใช้เวลาเพื่อการเขียนตำรา กฎหมายเศรษฐกิจด้วย<BR/>ครั้งที่สอง เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม ท่านมาค้นข้อมูลเพื่อใช้ในการเขียนหนังสือ ผมไปคุยกับท่าน ท่านบอกว่าอาการทรงตัว ในวันนั้นผมได้รับหนังสือยืม ฝากทรัพย์จากท่าน โดยอาจารย์เซ็นชื่อไว้ให้ด้วย<BR/>ทั้งสองครั้งผมไม่เคยเห็นท่านแสดงความท้อถอยแต่อย่างใด <BR/>วันนี้ผมได้แต่เสียดายครับ<BR/>เสียดายอาจารย์สอนกฎหมายในอุดมคติของผม<BR/>เสียดายที่เด็กรุ่นหลังไม่มีโอกาสได้เรียนกับท่าน<BR/>เสียดายที่ท่านจากไปทั้งที่งานยังไม่เสร็จสิ้น<BR/>ขอบคุณอาจารย์สำหรับทุกสิ่ง และขอให้อาจารย์ไปสู่สุคติครับAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-11720999.post-1145251121376033712006-04-17T07:18:00.000+02:002006-04-17T07:18:00.000+02:00โดยส่วนตัวผมก็เคารพท่านอาจารย์สุธีร์มากอยู่แล้วหละ...โดยส่วนตัวผมก็เคารพท่านอาจารย์สุธีร์มากอยู่แล้วหละครับ เพราะผมเองก็เคยได้รับความกรุณาจากท่านด้านการศึกษาอยู่หลายครั้ง<BR/>ได้อ่านบทความของ อ. ปึ๋ง แล้วก็ไม่แปลกใจเลย ที่ท่านอาจารย์จะเป็นที่รักของลูกศิษย์ลูกหาและบุคคลรอบข้าง<BR/>ขอบคุณ บทความนี้ ของ อ. ปึ๋ง มากๆ ครับAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-11720999.post-1145243757922090492006-04-17T05:15:00.000+02:002006-04-17T05:15:00.000+02:00เป็นข่าวร้ายมากครับ ... อาจารย์ สุธีร์ เป็นคณบดี ต...เป็นข่าวร้ายมากครับ ... อาจารย์ สุธีร์ เป็นคณบดี ตอนพี่เข้าเป็น นศ. ภาคบัณฑิต ปี ๒๕๔๐ และสอนวิชาล้มละลายให้พี่เช่นกัน ..... นับถือท่านในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการลาออกจากตำแหน่งคณบดี<BR/><BR/>ขอดวงวิญญาณท่านไปสู่สุขคติเถิด (RIP.)Anonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-11720999.post-1145242493472521412006-04-17T04:54:00.000+02:002006-04-17T04:54:00.000+02:00อาจารย์สุธีร์ ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายล้มละล...อาจารย์สุธีร์ ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายล้มละลายและกฎหมายแข่งขันทางการค้า แม้ผมเองไม่เคยเรียนกับท่าน แต่ชื่อเสียงและลีลาการสอนของท่านเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว <BR/><BR/>ท่านไม่เพียงเป็นอาจารย์ที่สอนเนื้อหากฎหมายได้ดี ในด้านการใช้ชีวิตท่านเองก็เป็นผู้แนะนำที่ดี ผมเองได้มีโอกาสพบปะกับท่านเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ทุกครั้งที่ผมมีโอกาส ท่านก็ให้ความเอ็นดูและพูดคุยกับผมอย่างเป็นกันเองทุกครั้ง และทุกครั้งที่ได้พูดคุยกันผมก็ได้ข้อคิดดี ๆ จากท่านอยู่เสมอ<BR/><BR/>ขอให้ท่านอาจารย์ไปสู่สุคติครับAnonymousnoreply@blogger.com